ชีวิตดีสังคมดี

ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ 'รถยนต์ไฟฟ้า' ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ใช้ รถEV ต้องปลอดภัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดฟังก์ชันศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ 'รถยนต์ไฟฟ้า' ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน สุดล้ำทดสอบแรงสั่นสะเทือน การตกกระแทก การลัดวงจร จะใช้ รถ EV ทั้งทีต้องปลอดภัย พร้อมบอกข้อควรระวังในการใช้งาน

สถิติการจดทะเบียน "รถยนต์ไฟฟ้า" หรือ รถ EV แบบ 100% ของประเทศไทยสะสมสูงสุดขณะอยู่ที่ 61,594 คัน ในตัวเลขดังกล่าวพบว่ารถจักรยานยนต์มีการจดทะเบียนสูงสุด รองลงมาคือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่่นั่ง โดยในปี 2566 มีการจดทะเบียนไปแล้ว 8,522 คัน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

 

 

สำหรับการกันมาใช้ "รถยนต์ไฟฟ้า" ของประเทศไทยที่มีสัญญาณที่ดีขึ้นนั้น นับว่าเป็นก้าวสำคัญกับการเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ "รถยนต์ไฟฟ้า" ของประชาชน  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้จัดตั้งศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ PTEC มาตรฐานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ก่อนที่จะมีการนำไปประกอบให้แก่ภาคอุตสาหกรรม 

ดร.ไกรสร อัญชลีวรพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ PTEC ให้สัมภาษณ์ ถึงการทำงานของศูนย์ PTEC ว่า ศูนย์ PTEC ให้บริการทดสอบ สอบเทียบสนับสนุนการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอื่น ๆ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยยุค 4.0 ให้ได้การรับรองผลิตภัณฑ์ในระดับสากลโดยบุคลากรมืออาชีพ ซึ่งปัจจุบัน PTEC ให้บริการทดสอบแบตเตอรี่ลิเธี่ยมสำหรับยานยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริดและ "รถยนต์ไฟฟ้า" หรือ รถ EV ตามมาตรฐานสากลเพื่อใช้งานในประเทศ ส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนให้ความสนใจรถยนต์ไฟฟ้ามายิ่งขึ้น เพราะประหยัดค่าใช้จ่าย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือความปลอดภัย มาตรฐานของแบตเตอรี่และหัวชาร์จไฟฟ้า ที่ติดตั้งในบ้านด้วย 

ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคที่ใช้  "รถยนต์ไฟฟ้า" และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ปลอดภัย PTEC ได้ให้บริการทดสอบชิ้นส่วนสำคัญในยานยนต์ไฟฟ้าหลายประเภท ตั้งแต่ แบตเตอรี่ลิเธียม ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ในยานยนต์ ระบบไฟส่องสว่าง หัวชาร์จ ไปจนถึงการทดสอบ EMC สำหรับยานยนต์ทั้งคัน โดยใช้มาตรฐานสากลและมาตรฐาน มอก. เป็นหลัก นอกจากนี้ยังให้บริการทดสอบเพิ่มเติมเป็นการเฉพาะแก่ค่ายยานยนต์ที่ตั้งโรงงานประกอบในประเทศและมีมาตรฐานชิ้นส่วนของตนเอง เพื่อให้สามารถส่งชิ้นส่วนไปจำหน่ายในตลาดยุโรป ญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา สำหรับกลุ่มชิ้นส่วนที่ PTEC ให้บริการทดสอบ ได้แก่

 

 

ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ไฟฟ้า

 

 

  • แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ทางด้านความปลอดภัย และเพื่อการขนส่งตามข้อกำหนดของสหประชาชาติ (UN)

ด้านความปลอดภัยแบตเตอรี่ PTEC ให้บริการทดสอบแบตเตอรี่ลิเธียมได้ทั้ง 3 ขนาดคือ แบตเตอรี่เซลล์  แบตเตอรี่โมดูล และแบตเตอรี่แพ็ค โดยใช้มาตรฐานสากลในการทดสอบ เช่น UN R136 สำหรับมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า และ UN R100 สำหรับยานยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริดและยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งตามมาตรฐานนี้ต้องมีการทดสอบหลายหัวข้อ เช่น การป้องกันการลัดวงจรไฟฟ้า การทนต่ออุณหภูมิสูง การสั่น การตกกระแทก การบีบอัดจากการชน การเผาไฟ การจมน้ำ การอัดประจุฟ้าเกิน การคายประจุไฟฟ้าเกิน เป็นต้น   

 

 

ด้านประสิทธิภาพพลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ PTEC ให้บริการทดสอบด้านการชาร์จ/การดิสชาร์จแบตเตอรี่ ขณะมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ความชื้น โดยในส่วนนี้ PTEC สามารถทำการทดสอบแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด กำลังไฟฟ้า 1MW ได้เป็นแห่งแรกในอาเซียนในส่วนของการขนส่งแบตเตอรี่บนท้องถนน ขนส่งทางเรือ ทางเครื่องบิน แบตเตอรี่ต้องผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน UN 38.3 ก่อน เนื่องจากตามข้อกำหนดสากลแบตเตอรี่ถือเป็นวัตถุอันตรายควบคุม คล้ายกับการขนส่งน้ำมัน และแก๊สไวไฟ ดังนั้นหากมีอุบัติเหตุขณะขนส่ง อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนทั่วไปได้ สำหรับการทดสอบในการขนส่ง เช่น การทดสอบการตก การสั่น การลัดวงจร อุณหภูมิ ความกดอากาศ เป็นต้น

 

ศูนย์ตรวจสอบแบตตอรี่ไฟฟ้า

 

 

  • ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ประเภทอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการส่งออก 

สำหรับชิ้นส่วน "รถยนต์ไฟฟ้า" อิเล็กทรอนิกส์ในยานยนต์ ที่ PTEC ให้บริการทดสอบ มีตั้งแต่ไฟในห้องโดยสารยานยนต์ ไฟหน้า/ไฟท้าย วิทยุเอ็นเตอร์เทรนเม้นต์ ระบบนำร่อง ระบบ ECU ระบบเรดาห์ สายอากาศ โดยส่วนนี้ PTEC ใช้มาตรฐาน UN R10 มาตรฐาน ISO  CISPR IEC ในการทดสอบ และมีเครื่องมือในการทดสอบขนาดใหญ่รองรับการทดสอบ EMC สำหรับยานยนต์ทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง รถปิ๊กอัฟ รถ SUV รถตู้ รถบัส หัวลากรถบรรทุก ด้วย นอกจากนี้ยังมี Dynamo meter สำหรับใช้จำลองสภาวะการขับขี่บนถนนเรียบ ทางตรง ทางโค้ง การไต่ระดับความสูง การลงทางลาด จำลองการขับเคลื่อนได้ทั้งแบบ 2 wheels drive และ 4 wheels drive และการวัดเสียงจากการขับขี่ยานยนต์ทั้งภายในและภายนอกห้องโดยสารด้วย  

 

  • สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า หนุน EV Ecosystem แบบครบวงจรในไทย

ส่วนของสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า PTEC ให้บริการทดสอบหัวชาร์จแบบ AC normal charge ที่นิยมติดในบ้านและในห้างสรรพสินค้า และหัวชาร์จแบบ DC quick charge ที่ติดตั้งในปั๊มน้ำมัน โดย PTEC สามารถให้บริการทดสอบหัวชาร์จขนาด 150kW ได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีแผนขยายขีดความสามารถในการทดสอบขึ้นเป็น 250kW ในปี 2566 ด้วย โดยจะเป็นห้องทดสอบที่มีขีดความสามารถในการทดสอบด้านหัวชาร์จใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และยังสามารถรองรับการทดสอบยานยนต์ที่ป้อนไฟฟ้าแบตเตอรี่ในรถเข้าสู่สายส่งไฟฟ้า ที่เรียกว่า Vehicle to Grid (V2G) ได้ในปีหน้าด้วย 

 

 

อย่างไรก็ตาม มาตรฐานการทดสอบต่าง ๆ ที่กล่าวมา ถูกใช้เป็นส่วนสำคัญในการคัดเลือกและควบคุมชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย เพื่อส่งถึงมือผู้บริโภค แต่การนำยานยนต์ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ไปใช้งาน ผู้บริโภคควรมีความเข้าใจในเทคโนโลยีใหม่นี้ด้วย เพื่อทำให้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง คุ้มค่าและเสียค่าซ่อมบำรุงต่ำ

 

 

  • ข้อควรรู้ของผู้บริโภคเพื่อความปลอดภัยจากการใช้ "รถยนต์ไฟฟ้า" หรือ  รถ EV

1. ข้อควรรู้ในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ในสถานการณ์ฝนตก-น้ำท่วมขังถนน 
เนื่องจากการออกแบบและติดตั้งแบตเตอรี่ของยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตทุกรายได้ทำการติดตั้งแบตเตอรี่อยู่ใต้ที่นั่งผู้ขับขี่เพื่อให้มีพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างแต่ประเทศไทยในช่วงฤดูฝนมักมีน้ำขังบนถนนในระดับสูง บางครั้งสูงถึงครึ่งคันรถ ดังนั้นการขับผ่านน้ำบ่อยๆ การจอดยานยนต์ไฟฟ้าแช่น้ำเป็นเวลานาน หรือการใช้งานรถเป็นเวลานาน ๆ หลายปี  ผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจสอบเรื่องน้ำ ความชื้น และการเสียหายภายใต้ท้องรถให้บ่อยขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีน้ำรั่วเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ นอกจากนี้การขับรถข้ามผ่านหลังเต่าที่สูง ๆ การจอดรถคร่อมฟุตบาทและมีการกระแทกใต้ท้องรถอาจทำให้เกิดความเสียหายขึ้นโดยไม่ได้สังเกตจึงควรระมัดระวังให้มาก   

 

 2. ข้อควรระวัง การติดตั้งชาร์จเจอร์ ใช้ในบ้านที่ไม่ควรมองข้าม  
สำหรับผู้ที่ติดตั้งหัวชาร์จที่บ้าน ควรตรวจสอบขนาดสายไฟฟ้าที่เหมาะสมกับกระแสไฟฟ้าที่จะชาร์จรถ  ไม่ควรใช้สายไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานนาน เช่น สายหุ้มเปราะหรือแตกหัก หากกระแสไฟฟ้าเสี่ยงไม่เพียงพอก็ไม่ควรพ่วงต่อสายไฟฟ้าในบ้านเข้าสู่หัวชาร์จโดยตรง  ทั้งนี้แนะนำว่าก่อนการติดตั้งควรให้ผู้ที่มีความรู้เรื่องการติดตั้งหัวชาร์จ ช่วยทำการประเมินด้านความปลอดภัยทางไฟฟ้าเสียก่อน ซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานออกข้อแนะนำในการติดตั้งมาให้แล้ว เช่น การไฟฟ้านครหลวง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เป็นต้น และควรแยกประเภทหัวชาร์จให้ถูกต้องด้วยว่าแบบใดเหมาะที่จะติดตั้งในบ้าน แบบใดติดตั้งนอกอาคาร เพราะหัวชาร์จแต่ละประเภทมีความสามารถในการต้านทานอุณหภูมิ น้ำฝน ฝุ่นแตกต่างกัน

 

 

นอกจากนี้  PTEC ยังได้รับการขึ้นทะเบียนจาก ASEAN SECTORAL MRA ON ELECTRICAL AND ELECTRONIC EQUIPMENT (ASEAN EE MRA) เมื่อเดือนกันยายน ปี 2561 ที่ผ่านมา ให้เป็นห้องปฏิบัติการทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของภายใต้ข้อตกลงการค้าอาเซียน โดยมีประเทศสมาชิกอาเซียนให้การยอมรับมากถึง 7 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา สิงคโปร์ และเวียดนาม และยังได้รับการยอมรับให้เป็นห้องปฏิบัติการการทดสอบ EMC สำหรับการนำสินค้าเข้าสู่ประเทศเวียดนาม จากหน่วยงาน QUACERT ซึ่งเป็นเสมือน สมอ.ของประเทศเวียดนาม อีกด้วย

 

 

สำหรับชิ้นส่วนยานยนต์ PTEC ได้ลงนามความร่วมมือกับ SGS ประเทศฟินแลนด์ เพื่อทำให้ชิ้นส่วนด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศ สามารถทดสอบ EMC ได้ในประเทศไทย เราสามารถเข้าตรวจโรงงานผลิตได้และ PTEC จะนำผลการทดสอบและการตรวจโรงงานเพื่อขอเครื่องหมาย E mark จากกรมขนส่งทางบกของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองยานยนต์สากล ทำให้อุตสาหกรรมของไทยสามารถส่งผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ไปจำหน่ายในประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป 27 ประเทศได้อีกด้วย

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ