คุณสุทธิชัย

คุณสุทธิชัย + ถ้าเพื่อไทยจับมือประชาธิปัตย์...เงื่อนไขซับซ้อน + วิ่งกันฝุ่นตลบที่จะแย่งโอกาสเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ฟังหูไว้หู เพราะว่า ไม่อาจจะเชื่อข่าวคราวที่ปล่อยออกมาช่วงนี้ได้เป็นอันขาด มีข่าวตั้งแต่ว่า กลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งมี ส.ส.อยู่ในการควบคุมประมาณ 50 ที่นั่ง ในพรรคพลังประชาชนซึ่งถูกยุบไปแล้ว กำลังเตรียมจะย้ายเข้าไปพรรคเพื่อไทย แต่ก็ยังรอจังหวะอยู่นั้น กำลังทำตัวเป็นแกนสำคัญ ถ้าหากสามารถโยกไปอยู่กับกลุ่มใดก็ทำให้กลุ่มนั้นตั้งรัฐบาลและตั้งนายกรัฐมนตรีได้ แต่ว่าข่าวนี้ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ ! เพราะว่าอีกด้านหนึ่งก็มีข่าวว่า คุณทักษิณ ชินวัตร โทรศัพท์พูดคุยกับคุณเนวิน ถามคุณเนวินว่าทำไมยังไม่ยกพวกเข้าไปในพรรคเพื่อไทย ข่าวเดียวกันนี้ก็บอกว่า คุณเนวิน อธิบายว่า ไม่แน่ถ้าเข้าไปในพรรคเพื่อไทยตอนนี้อาจจะถูกกฎหมายเล่นงานก็ได้ เพราะว่าพรรคเพื่อไทยเพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่ๆ ไม่เคยมี ส.ส. ไม่เคยส่งสมัคร ด้วยซ้ำไป ขณะเดียวกันพรรคเล็กพรรคน้อยที่เคยร่วมรัฐบาลก็คิดการใหญ่ มีการเสนอชื่อด้วยซ้ำไปว่า ถ้าหากพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ คุณเฉลิม อยู่บำรุง คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ โอกาสจะเป็นนายกฯ นั้นถ้าเกิดขึ้นอาจจะมีความปั่นป่วนกลับมา พรรคเล็กก็เลยเสนอ เช่นชื่อ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร จากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ชื่อของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก จากเพื่อแผ่นดิน หรือแม้กระทั่ง คุณเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ก็ยังมีคนเสนอชื่อด้วยซ้ำไป แต่ถามว่าโอกาสจะเกิดขึ้นมีแค่ไหน ? ขณะนี้กลายเป็นเดดล็อก สู่ทางตัน เพราะว่ากลุ่มที่มีเสียงข้างมากอย่างพลังประชาชนที่ย้ายเข้าไปพรรคเพื่อไทยก็หาคนที่เป็นนายกฯ ซึ่งเอ่ยชื่อแล้วประชาชนยอมรับนั้นยากเหลือเกิน ชื่อจึงเหลือแค่คุณเฉลิม กับคุณมิ่งขวัญ ณ ขณะนี้ เพราะว่าคนอื่นๆ เข้าข่ายถูกห้ามเล่นการเมือง 5 ปี เพราะศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค มีสูตรหนึ่งที่ตั้งคำถามว่า แล้วพรรคประชาธิปัตย์จับมือกับพรรคเพื่อไทยได้เสียงส่วนใหญ่ ตั้งเป็นรัฐบาลแห่งชาติสามารถจะแก้ปัญหาทั้งเศรษฐกิจ และมีภาพลักษณ์ที่ประชาชนอาจจะยอมรับมากกว่าหรือไม่ คำถามนี้ต้องถาม คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งคุณอภิสิทธิ์ ตอบข้อกังขานี้ในวิทยุจุฬาฯ ว่า "ถ้าพรรคเพื่อไทยกำหนดท่าทีตัวเองว่าเป็นพรรคที่สานต่อเรื่องของคุณทักษิณ วาระก็เป็นอยู่ในเรื่องนี้ แก้รัฐธรรมนูญ ทำเรื่องนิรโทษกรรม เรื่องอะไรเนี่ย ก็ตอบได้เลยว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมด้วย" ส่วนโอกาสที่จะเกิดการสลับขั้ว โดยเป็นประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนในการตั้งรัฐบาล และคุณอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ เป็นไปได้แค่ไหนนั้น คุณอภิสิทธิ์ ก็ตอบว่า เป็นไปได้ "ถามว่าโอกาสมากน้อยแค่ไหนก็ตอบว่าไม่ง่าย เพราะว่าตัวเลขมันก็ยังเหมือนล็อกอยู่ สภาก็จะเหลือ 448 กึ่งหนึ่ง 224-225 แล้วก็จะต้องมีการเลือกตั้งซ่อมเพื่อให้ครบจำนวนอีกประมาณ 30 คน เพราะฉะนั้นคนที่จะมาเป็นรัฐบาลอย่างไรเสียก็ต้องพยายามที่จะมีเสียง 250 ขึ้นไป ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังมี 165 อยู่ เพราะฉะนั้นถ้าจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมี ส.ส.ที่มาสนับสนุนเพิ่มเติมอีก ก็พอสมควร แต่ถามว่าเป็นไปได้ไหม ก็ต้องตอบว่าเป็นไปได้ ถามว่ายากไหมก็คือยาก" ฟังอย่างนี้แล้ว อย่านึกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าขณะนี้อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ จากการที่กลุ่มต่างๆ พยายามที่จะสลัดออกจากวิกฤติไม่ต้องการกลับเข้าไปสู่วงจรอุบาทว์เดิม แม้กระทั่งพรรคเล็กพรรคน้อยที่ร่วมรัฐบาลขณะนี้ ก็มีความรู้สึกว่าถ้าพรรคเพื่อไทยซึ่งมีเงาของ ทักษิณ ชินวัตร ทาบทับอยู่อย่างหนักนั้น หากเสนอชื่อคุณเฉลิม หรือว่าคุณมิ่งขวัญ แล้วไม่เป็นที่ยอมรับ ความวุ่นวายทางการเมืองก็จะกลับมาได้ ฉะนั้น ทางออกนั้นจะต้องมีการสลับสูตรต่างๆ จนกระทั่งสามารถจะหาสูตรใดสูตรหนึ่งที่ประชาชนคนไทยทั่วไปอย่างน้อยที่สุดยอมรับได้ว่า จะเป็นทางออกจากวิกฤติที่ประเทศไทยเราติดกับดักมาหลายปีแล้ว