ฟ้าหญิงฯ  พระราชทานโครงการคัดกรอง 'มะเร็งช่องปาก' ฟรี

          ผู้ป่วยมะเร็งส่วนมากเมื่อตัดสินใจเข้าตรวจที่โรงพยาบาลก็พบระยะมะเร็งที่ลุกลามเกินแก้ไข เป็นเหตุให้โรงมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของประเทศไทย  เพราะทรงทอดพระเนตรเห็นปัญหานี้ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จัดโครงการบำเพ็ญพระกุศลในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ “โครงการตรวจคัดกรองมะเร็งช่องปากในระยะก่อนเป็นมะเร็ง”   อันเป็นมะเร็งที่ถูกพบเป็น 1 ใน 10อันดับแรกของคนไทย โดยมีการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการและเปิดรับผู้คัดกรองมะเร็งวันแรก บริเวณโถงชั้น 1 อาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ในวันนี้

 
           ศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิ  มหานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลก โรคมะเร็งช่องปาก พบเป็น 1 ใน 10อันดับแรกของมะเร็งที่พบในคนไทย ข้อมูลจากทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล พ.ศ. 2555 ข้อมูลจากทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล พ.ศ. 2555 จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ   มีผู้ติดบุหรี่สูงถึง 14 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากบุหรี่สูงถึงปีละ 50,000 ราย โดยประมาณ ซึ่งผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่จะมาพบแพทย์เมื่อมีอาการซึ่งมักจะเป็นระยะลุกลาม และตอบสนองต่อการรักษาไม่ดี มีอัตราการรอดชีวิตต่ำ ดังนั้นการตรวจคัดกรองและค้นหาผู้ป่วยมะเร็งในระยะเริ่มแรกได้และทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆทำให้ ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตสูงขึ้นกว่าการมาตรวจรักษาเมื่อมีอาการ  

 
         โครงการตรวจคัดกรองมะเร็งช่องปากในระยะก่อนเป็นมะเร็ง จะให้บริการแก่ประชาชนชาวไทยทั่วไปที่มีอายุระหว่าง 18-70 ปี จำนวน 3,000 ราย มีความเสี่ยงสูง ในการเกิดมะเร็งช่องปาก โดย พญ.ฝนทิพ แจ้งแสง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโสตศอนาสิก กล่าวถึงผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งช่องปาก ในเบื้องต้นคือผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา และเคี้ยวหมาก มีอาการอักเสบภายมนช่องปากเป็นประจำ  สัญญาณเตือนในระยะแรก จะมีแผลเรื้อรังในช่องปากที่เป็นแล้วไม่หายภายใน 2 สัปดาห์ มีแผ่นฝ้าสีขาวถูไม่ออกหรือแผ่นฝ้าสีแดง มีก้อนที่ปากหรือคอ ขอบลิ้น หรือขอบริมฝีปากมีลักษณะแข็งเป็นไต เจ็บคอเรื้อรัง เสียงแหบ กลืนลำบาก หรือมีอาการแสบที่ลิ้นสำหรับกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งช่องปาก คือ ผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า กินหมากเป็นประจำ และมีประวัติญาติป่วยเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะเมื่อมีอายุ 40 ปี ขึ้นไป ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปากเป็นประจำทุกปี ซึ่งการตรวจพบรอยโรคระยะแรกหรือรอยโรคก่อนมะเร็งและรีบรักษาจะเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้
        " โครงการบำเพ็ญพระกุศลตรวจคัดกรองมะเร็งช่องปากในระยะก่อนเป็นมะเร็ง” เป็นโครงการเพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งช่องปากในระยะก่อนเป็นมะเร็งด้วยเทคนิคที่ทันสมัย   ด้วยการวิเคระห์เอลโอเอช (loss of heterozygosity; LOH) ร่วมกับ  วิธีการตรวจตามมาตรฐาน ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าเซลล์ระยะรอยโรคก่อนเป็นมะเร็ง ที่ตรวจพบความไม่เสถียรของรหัสพันธุกรรมนี้  จะมีความเสี่ยงสูงในการพัฒนาไปเป็นมะเร็งต่อไปในอนาคต      ผลการตรวจดังกล่าวจะเป็นประโยชน์แก่  แพทย์ในการวางแผนติดตามอาการ  และอาจช่วยให้ตรวจพบมะเร็งได้ในระยะแรก  จนสามารถรักษาได้ก่อนที่โรคมะเร็งจะพัฒนาลุกลามต่อไป" พญ.ฝนทิพ กล่าวถึงวิธีการตรวจรักษา
       นอกจากนี้ นพ.ธีรภัทร อึ้งตระกูล แพทย์อายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา ยังให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวให้ห่างไกลโรคมะเร็งว่า เริ่มจากการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงทั้งหมด เช่น การดื่มสุรา สูบบุหรี่  เปลี่ยนคู่นอนบ่อย  เครียดสะสม และไม่ปล่อยให้ตัวเองอ้วนเกินไป  สิ่งที่ต้องทำและเห็นผลดีที่สุดคือการออกกำลังกาย อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน  วันละ 30 นาที  ทานผักผลไม้ให้ได้ครึ่งหนึ่งของมื้ออาหาร  หลีกเลี่ยงการทานอาหารปรุงแต่ง ดัดแปลง  อาหารปิ้งทอดย่าง เป็นประจำ เท่านี้ก็สามารถห่างไกลมะเร็งได้เกือบทุกชนิด และถึงแม้ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ควรไปตรวจคัดกรองมะเร็งทุกๆ ปี เพราะหากเป็นมะเร็จจะได้ตรวจเจอในระยะเบื้องต้น สามารถได้รักษาได้ทันท่วงที ไม่มีอาการข้างเคียงร้ายแรง
       โครงการตรวจคัดกรองมะเร็งช่องปากในระยะก่อนเป็นมะเร็ง” จะให้บริการแก่ประชาชนชาวไทยทั่วไปที่มีอายุระหว่าง 18-70 ปี จำนวน 3,000 ราย มีความเสี่ยงสูง ในการเกิดมะเร็งช่องปากจากการสูบบุหรี่ และจากการเกิดรอยโรคในช่องปากที่มีอาการเป็นๆ หายๆ เกินกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งกลุ่มที่มีความเสี่ยงนี้จะได้รับการตรวจติดตามเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2559 สอบถามรายละเอียด 0-2576-6600-5 ในวันและเวลาราชการ www.cccthai.org