Lifestyle

แท็กซี่หมดอายุไม่สมควรวิ่งรับผู้โดยสาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดซองส่องไทย : แท็กซี่หมดอายุไม่สมควรวิ่งรับผู้โดยสาร

               ผมเห็นความไม่เหมาะสมของรถแท็กซี่ที่วิ่งให้บริการผู้โดยสารบริเวณ ศาลายา จ.นครปฐม โดยเฉพาะหน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งตรงบริเวณศาลายา และฝั่งตรงข้ามห้างจะมีรถแท็กซี่ปลดป้ายหรือรถแท็กซี่หมดอายุจำนวนหลายสิบคันจอดรอผู้โดยสารที่มาซื้อสินค้าที่ห้างแห่งนี้ รถแท็กซี่เหล่านี้เห็นแก่ตัวอย่างมาก เพราะทำมาหากินเอาเปรียบบรรดารถแท็กซี่ที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย
               คนขับแท็กซี่เองก็รู้ดีว่าตัวเองวิ่งรถผิดกฎหมาย จึงไม่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารในกรุงเทพฯ เพราะกลัวด่านตำรวจ แต่คงวิ่งรับส่งผู้โดยสารอยู่นอกเมือง รอบนอกกรุงเทพฯ ทำให้รอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมผ่านไปหน้าห้างสรรพสินค้าบริเวณหน้าศาลายา เห็นรถแท็กซี่เหล่านี้จอดต่อแถวรอผู้โดยสารโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
               ส่วนผู้โดยสารก็ไม่ทราบว่ารถแท็กซี่ที่ตัวเองขึ้นไปนั้นผิดกฎหมาย เพราะเห็นว่าเป็นรถแท็กซี่ก็เรียกโดยไม่คิดอะไร ผมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการอย่างจริงจัง เพราะรถแท็กซี่เหล่านี้อาจมีมิจฉาชีพแฝงตัวหากินและลอบก่อเหตุร้าย หากเกิดเหตุขึ้น การติดตามตัวจะทำได้ยาก สงสารแท็กซี่ดีๆ ที่ต้องถูกเหมารวมไปด้วย ผมเคยร้องเรียนไปที่ 1584 หลายครั้ง แต่ไม่เห็นหน่วยงานไหนเข้ามาแก้ไข จึงขอร้องเรียนผ่านลุงแจ่ม

วิโรจน์

ตอบ
               กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก
ชี้แจงว่า การจดทะเบียนรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) ไม่ว่ายี่ห้อใด มีอายุการใช้งานได้ไม่เกิน 9 ปี นับแต่วันจดทะเบียนครั้งแรก เมื่อครบกำหนดอายุการใช้งานแล้ว (หมดอายุแท็กซี่) ผู้ครอบครองรถยังสามารถใช้รถต่อได้ตามปกติ แต่ต้องใช้งานเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่สามารถนำไปรับผู้โดยสารได้ ผู้ครอบครองรถต้องดำเนินการแจ้งเปลี่ยนประเภทจดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะเปลี่ยนป้ายเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลธรรมดา ไม่ใช่รถยนต์สาธารณะ หลังจากดำเนินการแล้ว ผู้ครอบครองรถต้องเปลี่ยนป้ายทะเบียนและถอดอุปกรณ์ติดตั้งที่แสดงว่าเป็นรถแท็กซี่ออกทั้งหมด หากผู้ครอบครองรถแท็กซี่ที่ดำเนินการเปลี่ยนประเภทรถยนต์แล้ว นำรถมาวิ่ง-รับส่งผู้โดยสารจะมีความผิด เจ้าหน้าที่ตรวจพบต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย
               ข้อแนะนำสำหรับผู้โดยสารในการสังเกตว่ารถแท็กซี่ที่ผู้โดยสารใช้บริการเป็นรถแท็กซี่ถูกต้องหรือไม่นั้น หากเป็นรถแท็กซี่ของบุคคลธรรมดา ตัวรถมีสีเขียวและสีเหลือง ส่วนรถแท็กซี่นิติบุคคล ตัวรถมีสีเหลือง ส่วนข้อความและเครื่องหมายต่างๆ เป็นสีน้ำเงิน ต้องมีและใช้มาตรค่าโดยสาร ตามแบบหรือชนิดที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกติดตั้งไว้ด้านซ้ายของผู้ขับขี่ ต้องมีและใช้เครื่องสื่อสาร ตามแบบหรือชนิดที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือเครื่องสื่อสารประเภทอื่นที่กรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบ ต้องมีตัวอักษร TAXI-METER ขนาดสูงไม่น้อยกว่า 7 ซม. เส้นหน้าของตัวอักษร 1.2 ซม. ภายในกรอบขนาดไม่น้อยกว่า 60x15 ซม. ติดในแนวนอนบนหลังคารถและมีแสงไฟให้เห็นเครื่องหมายได้ชัดเจนในเวลากลางคืน
               ต้องมีตัวอักษรว่าง เมื่อไม่มีผู้โดยสาร ติดตั้งไว้ด้านซ้ายของคนขับ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอกทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ต้องมีตัวอักษรงดรับจ้าง มีพื้นสีขาวกรอบสีแดง มีกรอบสำหรับติดบัตรประจำตัวผู้ขับรถไว้ด้านหน้ารถ ที่ผู้โดยสารสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ต้องมีหมายเลขทะเบียน พื้นสีเหลือง ตัวอักษรสีดำ ทำด้วยโลหะติดไว้ที่แนวกึ่งกลางประตูรถตอนหลังด้านในใต้ขอบกระจกทั้งสองข้าง ต้องมีข้อความแท็กซี่บุคคล หรือชื่อนิติบุคคล หมายเลขทะเบียนรถ และข้อความร้องเรียนแท็กซี่ โทร.1584 ที่ประตูตอนหน้าด้านนอกทั้งสองข้าง
               สิ่งสำคัญคือ กฎหมายบังคับให้รถแท็กซี่ต้องให้มีประกันภัย 2 อย่าง คือ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 3 เป็นอย่างน้อย คุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถรับจ้างแต่ละคัน หากเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล กฎหมายไม่ได้บังคับให้ผู้ครอบครองรถต้องทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ดังนั้น หากผู้โดยสารใช้บริการรถแท็กซี่หมดอายุการใช้งานและไม่ได้ทำประกันภัยภาคสมัครใจ ความคุ้มครองอาจไม่ครอบคลุม หากเกิดอุบัติเหตุและสูญเสียรุนแรง
               กรณีที่ผู้โดยสารพบเห็นรถแท็กซี่ไม่ตรงตามลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น ให้สันนิษฐานว่าเป็นรถแท็กซี่ที่หมดอายุการใช้งาน แนะนำผู้โดยสารให้หลีกเลี่ยงการใช้บริการรถคันดังกล่าว และให้แจ้งข้อมูลร้องเรียนมายังศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะ โทร.1584 ภายหลังรับแจ้งกองตรวจการขนส่งทางบกจะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบการกระทำความผิดตามที่มีการร้องเรียนจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ครอบครองรถ
               กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก บอกว่า สำหรับกรณีร้องเรียนนี้จะดำเนินการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว หากพบว่ามีรถแท็กซี่เข้าข่ายความผิด จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ