คนไทยที่ติดตามเหตุบ้านการเมือง จะรู้ดีว่าพรรคนี้มีความสำคัญ มีบทบาท และมีอิทธิพลต่อการเมืองไทยอย่างไรกันบ้าง
ระหว่างที่คนไทย ลุ้นๆ รอๆ กันว่าจะได้เข้าคูหาเลือกตั้งในไม่ช้านี้
แต่คนไทยอาจหลงลืมกันไปแล้วว่า วันนี้เมื่อ 26 ปีก่อน ได้มีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งก่อตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา 1 พรรค
จนเมื่อได้ยินว่าพรรคนั้นคือ “พรรคสามัคคีธรรม” นั่นแหละ คนไทยที่ติดตามเหตุบ้านการเมือง จะรู้ดีว่าพรรคนี้มีความสำคัญ มีบทบาท และมีอิทธิพลต่อการเมืองไทยอย่างไรกันบ้าง
ตามข้อมูลระบุว่า พรรคสามัคคีธรรม ก่อตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534 เมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2535
โดยที่มานั้น เกิดขึ้นช่วงก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย มีนาคม พ.ศ. 2535 มีการรวบรวมนักการเมืองจากหลายพรรค และมีบุคคลในพรรคที่ใกล้ชิดกับ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช. โดยมี “ณรงค์ วงศ์วรรณ” อดีตหัวหน้าพรรครวมไทย และพรรคเอกภาพ เป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่ยังมี นาวาอากาศตรีฐิติ นาครทรรพ เป็นเลขาธิการพรรค
นอกจากนี้ยังมี ประธานที่ปรึกษาพรรค เป็น พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก!!
ณรงค์ วงศ์วรรณ
พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก
พรรคสามัคคีธรรม ได้ประกาศนโยบายของพรรคไว้ว่า “จะพัฒนาประเทศให้มีความเจริญรุ่งเรืองและมีความมั่นคงทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เพื่อความผาสุกของประชาชนโดยถ้วนหน้า ทั้งนี้ โดยอาศัยวิธีการตามหลักการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นประมุข”
แต่กระนั้นก็ดี พรรคสามัคคีธรรมก็หนีไม่พ้นที่จะถูกมองว่าเป็นพรรคการเมืองที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนแกนนำ รสช. บ้างว่าแกนนำ รสช.บางคน มีส่วนสนับสนุนพรรคนี้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการรักษาอำนาจหลังการเลือกตั้ง
ที่สุด ในการเลือกตั้ง ส.ส. ในเดือนมีนาคม 2535 พรรคสามัคคีธรรม ได้รับเลือกตั้งเข้ามาจำนวน 79 คน จากจำนวน 360 ที่นั่ง เป็นอันดับที่ 1 จึงต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม โดยการสนับสนุนจากพรรคการเมือง 4 พรรค ดังนี้
1.พรรคชาติไทย (74 คน) 2.พรรคกิจสังคม (31 คน) 3.พรรคประชากรไทย (7 คน) และ 4.พรรคราษฎร (4 คน) รวมเป็น 195 คน
ขณะที่พรรคความหวังใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังธรรม พรรคเอกภาพ พรรคปวงชนชาวไทย และพรรคมวลชน ร่วมกันเป็นฝ่ายค้าน
อย่างไรก็ดี ภายหลัง ณรงค์ วงศ์วรรณ เจอปัญหาบางประการจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา จนต้องห้ามไม่สามารถขอวีซ่าเดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้เขาจึงหมดโอกาสที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี (อ่าน http://www.komchadluek.net/news/today-in-history/317354)
กระทั่งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล จึงได้เลือกเสนอชื่อ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ขึ้นทูลเกล้าฯ และมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2535
ถึงตรงนี หลายคนคงจะพอนึกออกว่ารอยต่อตรงนี้ ได้เกิดอะไรขึ้นกับเมืองไทย เพราะที่สุดกระแสเรียกร้อง “นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง” ปรากฏไปทั่วสังคมไทย
เกิดเป็นคำเรียก พรรคมาร พรรคเทพ โดยพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 ถูกขนานนามจากสื่อมวลชนยุคนั้นว่า เป็น“พรรคมาร” เพื่อเปรียบเทียบกับ “พรรคเทพ” ที่หมายถึงพรรคฝ่ายค้าน 4 พรรค
และแน่นอนที่หลังการขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.สุจินดา จึงได้เกิดกระแสต่อต้านจากสังคมอ่างรุนแรง จนประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงกันเป็นจำนวนมาก
และในที่สุด สิ่งนี้ได้นำไปสู่เหตุการณ์นองเลือดที่รู้จักกันดีในชื่อ “พฤษภาทมิฬ” ระหว่างวันที่ 17-24 พฤษภาคม พ.ศ. 2535
ซึ่งเป็นการประท้วงรัฐบาลครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมือง เพื่อต่อต้าน พลเอกสุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรี และต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) (อ่าน http://www.komchadluek.net/news/today-in-history/277321)
โดยรัฐได้มีการปราบปรามประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวประท้วง นำไปสู่การปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกับประชาชนผู้ชุมนุม มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก (พลเอกสุจินดาแถลงว่ามีผู้เสียชีวิต 40 คน บาดเจ็บ 600 คน) และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จนทำให้ในต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งในปีเดียวกัน คือในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2535
โดยก่อนหน้านั้น ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2535 พรรคสามัคคีธรรม ได้มีการเปลี่ยนชื่อพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค โดยใช้ชื่อว่า “พรรคเทิดไท” มี อนุวรรตน์ วัฒนพงศ์ศิริ เป็นห้วหน้าพรรค และมี สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นเลขาธิการพรรค แต่ก็ต้องยุติการดำเนินงานการเมือง ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2535 โดยการลาออกของคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งคณะ
เป็นอันปิดฉากพรรคสามัคคีธรรม ส่วนที่ถามว่าพรรคนี้สีอะไร คนไทยคงมีคำตอบในใจแล้ว
///////////
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากวิกิพีเดีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง