"เตชินท์ มุขธระโกษา" แชมป์ผู้ถูกลืม

การคว้าแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เมื่อปี 2015 ที่ สปป.ลาว ทำให้แฟนบอลชาวไทยจดจำและยกย่องให้ทีมชุดนั้นคือความหวังใหม่และถูกยกให้เป็น The Next Golden Generation  

แกนหลักในทีมชุดนั้นนำโดยดาวซัลโวกัปตันทีมอย่าง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์, ศุภชัย ใจเด็ด  เป็นต้น บรรดานักเตะที่ถูกกล่าวมา ต่างก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักให้สโมสรในโตโยต้า ไทยลีก ได้ทั้งหมด อย่าง จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ไปไกลถึงการค้าแข้งกับเอฟซี โตเกียว บางคนก้าวไปถึงทีมชาติไทยชุดใหญ่อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด 

แต่มีนักเตะบางคนที่ถูกลืมอย่าง เตชินท์ มุขธระโกษา แต่ ณ ปัจจุบันซึ่งได้รับโอกาสอีกครั้งกับทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี เพื่อพิสูจน์ตัวเองในศึกชิงแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี 

“สำหรับผมการติดทีมชาติไทยถือเป็นเกียรติที่สูงที่สุดในชีวิต  แต่ผมไม่ได้เล่นในลีกสูงสุด แค่ได้เล่นกับทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด บี ในที 4  เมื่อสโมสรแจ้งมาว่าผมมีชื่อถูกเรียกเสริมทีมชาติ ผมดีใจมาก ดีใจสุดๆ ที่โค้ชยังเห็นเราอยู่ ตอนแรกคิดว่าชื่อ เตชินท์ ทุกคนคงลืมไปแล้ว”  

“ผมไม่เคยลืมวินาทีที่เราคว้าแชมป์อาเซียนที่ลาว มันเป็นช่วงที่ดีที่สุดของผมเลยก็ว่าได้" 

หลังจบชิงแชมป์อาเซียน ยู 19 ที่สปป.ลาว นักเตะจากชุดนั้นหลายรายได้พัฒนาฝีเท้ากับต้นสังกัดในลีกสูงสุด แต่ไม่ใช่กับ เตชินท์ 

“ผมเองแม้วันนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเพื่อน แต่ผมก็ไม่เคยอิจฉาพวกเขาเลยแม้แต่น้อย แต่ผมมองเขาเป็นแรงผลักดันด้วยซ้ำ อย่างเช่น ยิม (วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ) ผมมองเขาเป็นแบบอย่างเลยก็ว่าได้ เขาจะเพิ่งอายุ 22 ปี แต่ไปได้ไกลมาก โดยเฉพาะปีที่แล้วที่เขากลายเป็นนักฟุตบอลไทยที่ทำประตูได้สูงที่สุดในลีก เขาเป็นคนเก่ง ตั้งใจ และฉลาดมาก” 

“การไปชิงแชมป์อาเซียนครั้งนี้ถือเป็นโอกาสของตัวผมที่จะได้พิสูจน์ตัวเองว่าผมยังไปได้ในกีฬาฟุตบอล ผมหวังว่าความพยายามของผมจะทำให้ผมก้าวไปถึงจุดที่ตัวเองตั้งไว้ได้” 

ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี จะแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 17-26 กุมภาพันธ์  

โปรแกรมของทีม “ช้างศึก” วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พบ ติมอร์ เลสเต เวลา 18.30 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พบ ฟิลิปปินส์  เวลา 15.30 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พบ เวียดนาม เวลา 15.30 น. ทั้ง 3 นัดเตะที่สนามกีฬาแห่งชาติโอลิมปิก พนมเปญ โดยพีพีทีวี ช่อง 36 เอชดี ถ่ายทอดสด ทุกนัดที่ทีมชาติไทยลงแข่งขัน