รัสเซียเต็มถังเกมเปิดสนาม ซาอุฯวางหอกตัวเก่งล่าตาข่าย

ศึกฟุตบอลโลก 2018 จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ “หมีขาว”  รัสเซีย เจ้าภาพ จะประเดิมสนามในกลุ่ม เอ ต่อหน้าแฟนบอลในลุซนิกี สเตเดี้ยม สังเวียนแข้งซึ่งมีความจุถึง 81,000 ที่นั่ง  เจอ “เศรษฐีน้ำมัน” ซาอุดีอาระเบีย ทีมจากทวีปเอเชีย 

การพบกันของ 2 ตัวแทนจากยุโรปและเอเชียกลายเป็นการพบกันของ 2 ทีมที่มีอันดับโลกต่ำที่สุดจากทั้ง 32 ชาติที่ตีตั๋วมาลุยเวิลด์คัพในครั้งนี้ โดยรัสเซียอยู่ในอันดับ 70 จากการจัดอันดับโลกล่าสุดของ “ฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้ง” ส่วนซาอุดีอาระเบีย ตำแหน่งดีกว่าเล็กน้อยเมื่อรั้งอยู่ในอันดับ 67 อย่างไรก็ตาม เจ้าภาพต้องใส่เต็มสูบเพื่อเก็บ 3 แต้มเท่านั้น  

“หมีขาว” ส่ง “อคินเฟเยฟ” เฝ้าเสา

รัสเซีย ภายใต้การคุมทัพของสตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ กุนซือวัย 54 ปี ผลงานก่อนมาลุยทัวร์นาเมนต์นี้ไม่ดีนัก ลงสนามไป 6 นัด เก็บชัยชนะไม่ได้เลย เสมอ 2 นัด และแพ้ไปอีก 4 เกม โดยเกมล่าสุดทำได้แค่เสมอ ตุรกี 1-1 ขณะที่ผลงานในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ 2 รายการอย่างฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ 2017 และยูโร 2016 ก็ตกรอบแบ่งกลุ่มไปทั้ง 2 รายการ

ขณะที่ก่อนเดินทางมาลุยฟุตบอลโลกบนดินแดนบ้านเกิดของตัวเองก็ต้องมาเสีย อเลกซานเดอร์ โคโคริน กองหน้าตัวเก่งจากเซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เจ้าของผลงานติดธง 48 นัด ยิงไป 12 ประตู ซึ่งเจ็บหนักที่หัวเข่าจนไม่มีชื่อติดทีม

อย่างไรก็ตามดาวเตะชุดนี้ยังนำทัพมาโดย อิกอร์ อคินเฟเยฟ นายทวารคนเก่งที่ผ่านทัวร์นราเมนต์ใหญ่กับรัสเซียมาแล้วถึง 4 รายการ ตั้งแต่ยูโร 2008, ยูโร 2012, เวิลด์คัพ 2014 และยูโร 2016 ซึ่งเจ้าของสถิติติดธงหมีขาวมากที่สุดเป็นลำดับ 2 (106 นัด) เป็นรองเพียง เซอร์เก อิกนาเชวิช กองหลังเพื่อนร่วมทีม (122 นัด) ก็พร้อมแล้วสำหรับการลุยรายการใหญ่ลำดับที่ 5 และฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายหนที่ 2 ของตัวเอง แถมผลงานกับซีเอสเคเอ มอสโก ต้นสังกัดยังถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียวเมื่อลงสนามไปครบทุกนาที จาก 28 นัด เก็บไปถึง 28 คลีนชีต

ขณะที่ขุมกำแนวรับมี เซอร์เก อิกนาเชวิช ปราการหลังวัย 39 ปี เป็นหัวใจสำคัญที่จะจับคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกับ อิลยา คูเตปอฟ กองหลังรุ่นน้อง ส่วนในแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ อลัน ซาโกเยฟ เพลย์เมกเกอร์วัย 27 ปี จากซีเอสเคเอ มอสโก ที่ต้องการแก้ตัวจากความผิดหวังที่พลาดช่วยทัพหมีขาวในศึกยูโร 2016 ประสานงานกับ อเลกซานเดอร์ โกโลวิน ดาวรุ่งตัวความหวังที่ทัวร์นามเนต์ยูโร 2016 และคอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ ที่ผ่านมาได้ลงสนามครบทุกนาที

ขณะที่แดนหน้าเตรียมส่ง ฟีโอดอร์ สโมลอฟ ดาวยิงจากสโมสรคราสโนดาร์ เจ้าของผลงาน 14 ประตู และเป็นรองดาวซัลโวในศึกพรีเมียร์ลีก รัสเซีย เป็นตัวจบสกอร์ในเกมนัดเปิดสนาม

ซาอุฯ วาง "อัล ซาห์ลาวี" ล่าตาข่าย

ซาอุดีอาระเบีย กว่าจะมาถึงทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายหนนี้ต้องเปลี่ยนกุนซือไปถึง 2 ราย ก่อนจะมาลงตัวกับ ฮวน อันโตนิโอ ปิซซี นายใหญ่วัย 50 ปี ชาวอาร์เจนไตน์ ซึ่งเข้ามารับงานได้เพียง 7 เดือน

ซาอุดีอาระเบีย สร้างผลงานหักปากกาเซียนมาได้ในรอบคัดเลือกที่อยู่ร่วมสายกับทั้งญี่ปุ่น และออสเตรเลีย แต่ก็เข้ารอบมาได้ในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม ตามหลังขุนพล “ซามูไรบลูส์” แชมป์กลุ่ม พร้อมเขี่ยทัพ “ซอคเกอร์รูส์” ให้ไปเล่นรอบเพลย์ออฟในฐานะทีมอันดับ 3 ขณะที่ผลงานก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์เก็บชัยไป 2 นัด จาก 5 เกม  

ความพร้อมในการจัดทัพ ซาอุฯ ยังนำมาโดย โมฮัมเหม็ด อัล ซาห์ลาวี ดาวยิงวัย 31 ปี เจ้าของผลงาน 28 ประตูในนามทีมชาติ และเป็นกำลังสำคัญที่โชว์ฟอร์มเด่นมาตั้งแต่รอบคัดเลือกเป็นตัวความหวังในการล่าตาข่าย นอกจากนี้แนวรับจะมี โอซามา ฮาวซาวี กองหลังตัวเก๋า วัย 34 ปี เจ้าของติดธงมากสุด 135 นัด ลงประจำการ ส่วนตัวขับเคลื่อนเกมจะเป็นหน้าที่ของไทเซอร์ อัล ยัสซิม กองกลางมากประสบการณ์ซึ่งติดธง 132 นัด และยิงไป 19 ประตู เป็นรองเพียง อัล ซาห์ลาวี เท่านั้นในฐานะดาวยิงสูงสุดของทีมชาติ

สำหรับเกมนัดเปิดสนามระหว่าง รัสเซีย กับ ซาอุดีอาระเบีย ในเกมรอบแบ่งกลุ่มสาย เอ จะลงเตะกันในวันที่ 14 มิถุนายน เวลา 22.00 น.