"บิ๊กป้อม"แนะจัดแข่งว่ายน้ำทั่วไทย-เฟ้นช้างเผือก

“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2560 ของสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ ที่สโมสรกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ เมื่อวันที่ 20 เมษายน  

นายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ กล่าวถึงนโยบายของสมาคมฯ ในปี 2561 ว่า สมาคมฯต้องการยกระดับกีฬาทางน้ำให้มีมาตรฐานสากลและพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยขณะนี้สมาคมมีโครงการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาว่ายน้ำทั้งหมด 3 กลุ่มเป้าหมาย 

กลุ่มแรก โครงการเตรียมนักกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีแผนส่งนักกีฬาว่ายน้ำจำนวน 12 คนไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีนในเดือนพฤษภาคมนี้ สำหรับนักกีฬาชนิดอื่นๆ ได้แก่ กีฬากระโดดน้ำ, โปโลน้ำหญิง และ ระบำใต้น้ำรวม 34 คน ส่งไปฝึกซ้อมต่างประเทศเช่นกัน โดยกระโดดน้ำไปเก็บตัวที่ประเทศจีน โปโลน้ำหญิงไปเก็บตัวที่ประเทศอิตาลีและประเทศกรีซ

โครงการสอง มีเฉพาะนักกีฬาว่ายน้ำ คือโครงการเตรียมยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศอาร์เจนตินา จำนวน 12 คน มีแผนเก็บตัวฝึกซ้อมที่เมืองนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 24 เมษายน -15 มิถุนายน และอีกหนึ่งโครงการมีจำนวน 5 กีฬา ได้แก่ กีฬาว่ายน้ำ, ว่ายน้ำมาราธอน, กระโดดน้ำ, ระบำใต้น้ำ และ โปโลน้ำ คือโครงการเตรียมกีฬาระยะ 4 ปี เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ในปี 2020 จำนวน 54 คน ซึ่งมีแผนเก็บตัวในประเทศและต่างประเทศเช่นกัน

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า เพื่อความต่อเนื่อง และจัดหานักว่ายน้ำในรุ่นเยาวชนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในแต่ละจังหวัด โดยสโมสรสมาชิก ซึ่งในปีนี้มีจำนวนถึง 274 สโมสร ต้องช่วยกันพัฒนาและจัดหานักว่ายน้ำในรุ่นเยาวชนให้มีทักษะการว่ายน้ำที่ถูกต้อง และขยายให้มีนักกีฬาว่ายน้ำให้มากขึ้นโดยให้สำนักงานสมาคมกีฬาว่ายน้ำภาค 1-5 และกรุงเทพมหานครร่วมกันจัดการแข่งขันและร่วมกับองค์กรอื่นๆ ในแต่ละภาคมากขึ้นหรืออาจแยกเป็นกลุ่มย่อยในแต่ละจังหวัดเพิ่มเติมขึ้น จะทำให้ได้นักกีฬาที่มีคุณภาพในการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งสมาคมจะจัดการแข่งขันในเดือนเมษายนและยังสามารถทดแทนกีฬาทุกชนิดกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ

ขณะที่การพัฒนาด้านระบบสารสนเทศกีฬาทางน้ำ ซึ่งจัดให้มีระบบฐานข้อมูลนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และ ผู้ตัดสิน ทางเว็บไซต์เพื่อใช้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องร่วมกัน และในการจัดการแข่งขันสามารถส่งผลการแข่งขันว่ายน้ำส่งทางโทรศัพท์มือถือพร้อมกันกับผลการแข่งขันที่สระว่ายน้ำ เพื่อให้สอดรับกับไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล รวมทั้งเผยแพร่ให้นักกีฬาและผู้ปกครองทราบในเรื่องสารต้องห้ามซึ่งขณะนี้ทั่วโลกรณรงค์เรื่องนี้เช่นกัน

นอกจากนั้นผู้สนับสนุนยังได้มอบเงินสนับสนุนให้กับสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ ได้แก่ บริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มอบเงินสนับสนุน 10 ล้านบาท, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน 10 ล้านบาท, บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด มอบเงินสนับสนุน 10 ล้านบาท, บริษัท ไทยเบฟเวอเรท จำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน 10 ล้านบาท, บริษัท จีพีพี อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด มอบเงินสนับสนุน 5 ล้านบาท, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมมิคอล จำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน 2 ล้านบาท และ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน 2 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 49 ล้านบาท