"เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล" ได้เหรียญทองแดงโอลิมปิกย้อนหลัง

 คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้ส่งมอบเหรียญทองแดงและเข็มเชิดชูเกียรติให้แก่ “เอ” เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล นักกีฬายกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทย รุ่น 48 กก. ที่ได้ปรับอันดับจากเดิมอันดับ 5 เป็นอันดับ 3 เนื่องจากมีนักกีฬาตรวจพบสารต้องห้าม ทำให้จอมพลังสาวไทยได้รับเหรียญทองแดงจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 29 “ปักกิ่งเกมส์ 2008” ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อปี 2008 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่โรงแรมอโนมา แกรนด์ ถ.ราชดำริ กรุงเทพฯ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้จัดพิธีมอบเหรียญรางวัลและเข็มเชิดชูเกียรติอย่างเป็นทางการให้แก่ เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล โดยมี พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย สองไอโอซีเมมเบอร์ประจำประเทศไทย ได้แก่ ดร.ณัฐ อินทรปาณ  และคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ เป็นผู้แทนมอบรางวัลอย่างสมเกียรติ  

“เอ” เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล นอกจากจะได้เหรียญทอง “ปักกิ่งเกมส์” และเข็มเชิดชูเกียรติแล้ว ยังจะได้รับเงินเดือนช่วยเหลือจากคณะกรรมการโอลิมปิกเดือนละ 8,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี จนถึงปี พ.ศ.2580 รวมเป็นเงิน 1.92 ล้านบาท และเงินรางวัลตามเกณฑ์ของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติย้อนหลังจำนวน 4 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 5.92 ล้านบาท 

พล.ต.จารึก กล่าวว่า ไอโอซีได้ส่งหนังสือมายังคณะกรรมการโอลิมปิกเพื่อให้ตัวแทนไอโอซีทั้ง 2 คนได้มอบเหรียญทองแดงให้แก่เพ็ญศิริ สืบเนื่องจากการได้มีการตรวจสารต้องห้ามพบในนักกีฬายกน้ำหนักหญิงจีนและตุรกี ทำให้เพ็ญศิริขยับมาได้อันดับ 3 และได้เหรียญทองแดง ซึ่งถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่รอมาเป็นเวลานานถึง 9 ปี โดยต้องขอแสดงความยินดีด้วย 

ในขณะที่จอมพลังสาวฮีโร่คนล่าสุดของไทย กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องว่าจะได้ปรับอันดับมาได้เหรียญทองแดงอย่างไม่เป็นทางการเมื่อปีก่อน ตอนแรกก็คิดว่าไม่จริง แต่พอมีการประกาศอย่างทางการว่าได้รับเหรียญทองแดง “ปักกิ่งเกมส์” ก็ยอมรับว่าดีใจแบบงงๆ แต่ถ้าได้เหรียญทองแดงเมื่อตอนนั้นจะดีใจมากกว่า อย่างไรก็ตามเมื่อ 9 ปีก่อนถือว่าเป็นโชคร้าย 2 เรื่อง ทั้งการไม่ได้เหรียญโอลิมปิก และหอพักที่ จ.เชียงใหม่ ยังเกิดเหตุไฟไหม้อีกด้วย แต่มาถึงวันนี้ก็ถือเป็นโชคดีแล้ว 

จอมพลังสาวไทยกล่าวอีกว่า นอกจากได้เหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์แล้ว ยังมีข่าวดีอีกเรื่องคือลูกคนที่ 2 จะมีกำหนดคลอดในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ โดยไปฝากท้องที่โรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเงินรางวัลต่างๆ ที่ได้จากทั้งโอลิมปิกและ กกท.จะเก็บไว้ให้ลูก ส่วนหน้าที่การงานตอนนี้เป็นครูฝึกสอนลูกจ้างชั่วคราวอยู่ที่โรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสงมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งก็อยากจะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำต่อไปด้วย