ข่าว

“ยูโรปา ลีก” เดิมพันสุดท้ายของปีศาจแดง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เดิมพันสุดท้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับโอกาสลุ้นตีตั๋วเข้าไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

โดยลูกทีมของ โชเซ มูรินโญ ต้องเอาชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในเกมยูโรปา ลีก นัดชิงชนะเลิศ ซึ่งจะลงเตะในค่ำคืนนี้ (24 พ.ค.) เวลา 01.45 น. ให้ได้เพียงสถานเดียวเท่านั้น และถ้าผิดไปจากนี้จะกลายเป็นซีซั่นที่น่าผิดหวังที่สุดฤดูกาลหนึ่งของทีม“ปีศาจแดง”เลยทีเดียว
ฝั่ง อาแจ็กซ์ ภายใต้การคุมทัพของ ปีเตอร์ บอสซ์ กุนซือ วัย 53 ปี เพิ่งผิดหวังมาจากในลีกหลังเข้าป้ายเพียงตำแหน่งรองแชมป์ชนิดที่ต้องตัดสินกันในวันสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งจากความผิดหวังดังกล่าวทำให้นัดนี้จึงหมายมั่นปั้นมือที่จะลบฝันร้ายด้วยการคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้
อย่างไรก็ตามก่อนที่ทั้งคู่จะลงห้ำหั่นกัน ณ สังเวียนเฟรนด์ส อารีนา กรุงสต็อคโฮล์ม ประเทศสวีเดน ขอนำทุกท่านไปสำรวจความพร้อมตลอดจนเกร็ดที่น่าสนใจสำหรับศึกชิงแชมป์บอลถ้วยรองของยุโรปปีที่ 46 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปีที่มีความหมายต่อทีมแชมป์มากมายเหลือเกิน

ทรีโออาแจ็กซ์
ค่าเฉลี่ยผู้เล่นของ อาแจ็กซ์ ชุดนี้อยู่ที่ 22 ปี 312 วัน น้อยที่สุดในบรรดาทีมยูโรปา ลีก ปีนี้ แม้จะอุดมไปด้วยแข้งดาวรุ่งแต่ขุนพลชุดนี้ได้รับเสียงชื่นชมในเรื่องเกมรุกอย่างมาก โดยพวกเขาเป็นทีมที่มีผลต่างประตูได้เสีย +61 ประตู จากการยิง 86 ลูก เสีย 25 ประตู สูงสุดในศึกเอเรดิวิซี ลีกของฮอลแลนด์ฤดูกาลนี้ ในระบบ4-3-3 ซึ่งแดนหน้าสามคน ประกอบด้วย แคสเปอร์ โดลเบิร์ก, เบอร์ทรานด์ ตราโอเร และ อามิน ยูเนส ซึ่งคนที่โดดเด่นที่สุดหนีไม่พ้น "โดลเบิร์ก" ศูนย์หน้า วัย 18 ปีดีกรีทีมชาติเดนมาร์ก ดาวซัลโวของทีมที่ลงเล่น 45 นัด ยิงไป 22 ประตู กับ 7 แอสซิสต์
และหากนับเฉพาะในเวทียูโรปา ลีก ลูกทีมของปีเตอร์ บอสซ์ ยิงไป 24 ประตู จาก 14 เกมในซีซั่นนี้ มากกว่า แมนฯยูไนเต็ด 1 ลูก โดยกว่าครึ่งที่ยิงได้มาจากสามประสานแดนหน้าอย่าง โดลเบิร์ก ยิงไป 6 ลูก, ตราโอเร 4 ลูก และ ยูเนส 4 ลูก ขณะที่ เฮนริค มคิตาร์ยาน และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช คือคนที่ยิงในรายการนี้ให้แมนฯยูไนเต็ด ได้สูงสุดคนละ 5 ประตู ซึ่งเมื่อเทียบผลงานกันแล้ว อาแจ็กซ์ ดูจะมีเกมรุกที่น่ากลัวกว่าเล็กน้อยถ้าดูจากตัวเลขที่ผ่านมา

แนวรับวัยละอ่อน
ถึงจะมีเกมรุกที่เป็นจุดแข็ง แต่สิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ของ อาแจ็กซ์ ชุดนี้คงหนีไม่พ้นในเรื่องเกมรับ ที่พวกเขาเสียไปถึง 15 ประตู แม้จะมีกองหลังที่ไว้ใจได้อย่าง ดาวินซอน ซานเชส เซนเตอร์แบ็กวัย 20 ปีชาวโคลอมเบีย ซึ่งเล่นได้แข็งแกร่งและมีจุดเด่นในการป้องกันลูกกลางอากาศ อีกทั้งสถิติการแย่งบอล, เข้าสกัดบอล, การป้องกันลูกกลางอากาศ ยังเหนือกว่าคู่แข่งปีศาจแดง แต่การต้องเสีย นิค เฟียเกแฟร์ ปราการหลัง วัย 27 ปีที่ติดโทษแบน ทำให้นัดนี้จะมีเพียง โยเอล เฟลต์มัน กองหลังวัยเบญจเพศเพียงคนเดียวที่อายุเกิน 20 ปี ส่วน 3 คนที่เหลือ ทั้ง ซานเชส (20 ปี), มัทไธส์ เด ลิกต์ (17ปี), ไยโร รีเดวัลด์ (20ปี) ต้องแบกรับความกดดันจากการลงเล่นนัดชิงแมตช์ใหญ่เป็นครั้งแรก
ฝั่ง แมนฯยูไนเต็ด ก็ต้องเผชิญปัญหาในแนวรับเช่นกัน เมื่อต้องขาด เอริค ไบยี ปราการหลังตัวหลักจากการติดโทษแบน ทำให้จะเหลือเพียง ดาลีย์ บลินด์,ฟิล โจนส์ และ คริส สมอลลิง ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา เป็นตัวเลือกในบทบาทเซนเตอร์ฮาล์ฟ อย่างไรก็ตามด้วยการวางหมากของ โชเซ มูรินโญ ที่เชี่ยวชาญในการทำลายเกมรุกคู่แข่ง ก็ยังพอทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเขาจะยังคงมีรูปแบบที่เหนียวแน่นในการับมือการแนวรุกที่จัดจ้านของอาแจ็กซ์ในเกมนี้

พื้นที่กลางสนาม
หากกางสถิติมาเทียบกันแดนกลางของ แมนฯยูไนเต็ด นั้นดูดีกว่าเล็กน้อย จากตัวเลขการครองบอล 60 %ส่วนฝั่ง อาแจ็กซ์ อยู่ที่ 55 % โดย ปอล ป็อกบา กองกลางค่าตัวสถิติโลกของแมนฯยูไนเต็ด คือ นักเตะที่ผ่านบอลสำเร็จในแดนคู่แข่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก 1,035 ครั้ง และยิ่งเมื่อเล่นร่วมกับ อังเดร เอร์เรรา กองกลางชาวสแปนิช ทำให้เกมทะลุทะลวงตรงกลางสนามมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ตรงข้ามกับ อาแจ็กซ์ ที่มีเปอร์เซนต์ครองบอลในแนวกว้างที่มากกว่า จากสถิติครอสบอลจากริมเส้นที่ ฮาคิม ซิเยค กองกลางตัวรุกชาวโมรอกโก ทำไว้ถึง 78 % โดยมิดฟิลด์โมรอกโกยังถือเป็นหัวใจในการสร้างสรรค์เกมรุกจากสถิติการสร้างโอกาส 37 ครั้ง มากที่สุดในทีมโดยเป็นการแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีม 4 ครั้ง นอกจากนี้ ดาวี คลาสเซน กองกลางกัปตันทีม ยังเป็นอีกคนที่โดดเด่นในแดนกลางแถมยังมีทีเด็ดจาการสอดขึ้นไปลุ้นทำประตูจากการยิงไปแล้ว 14 ลูกในลีก เป็นรองเพียง โดลเบิร์ก ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีม

สถิตินัดชิงมูรินโญ
ต้องยอมรับว่าสถิติเกมนัดชิงบอลถ้วยของโชเซ มูรินโญ นั้นยอดเยี่ยมเหลือเกิน เมื่อพาทีมคว้าแชมป์ได้ 11 จาก 13 ครั้ง นับตั้งแต่นำ เอฟซี ปอร์โต เอาชนะ เซลติก 3-2 ผงาดแชมป์ยูโรปา ลีก เมื่อปี 2003 ขณะที่บนเกาะอังกฤษ พาทีมเข้าชิง 5 ครั้ง และเป็นแชมป์ได้ทั้งหมด (ลีก คัพ 4 สมัยและเอฟเอ คัพ 1 สมัย) โดยแชมป์ลีก คัพ ครั้งล่าสุด ที่เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 เป็นการทำสถิติคว้าแชมป์ถ้วยนี้สูงสุด 4 ครั้ง เทียบเท่ากับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ ไบรอัน คลัฟ 2 ตำนานกุนซือแห่งเกาะอังกฤษ 
นอกจากนี้ทั้ง 13 ครั้ง มูรินโญ ไม่เคยเสียท่าในเกม 90 นาทีเลย(แพ้ เบนฟิกา 1-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ถ้วยโปรตุกีส คัพ 2004, แพ้ แอตเลติโก มาดริด 1-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษถ้วยโกปาเดลเรย์ ปี 2013) และหากนับเฉพาะเวทียุโรป เข้าชิง 3 ครั้ง พาทีมกวาดแชมป์ไปได้ทั้งหมด แบ่งเป็น ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2 สมัย และ ยูโรปา ลีก 1 สมัย โดยตลอดการคุมทีมกับ 5 สโมสร ไล่ตั้งแต่ ปอร์โต, เชลซี, อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด และ แมนฯยูไนเต็ด มูรินโญ สอยโทรฟี่ไปรวมทั้งหมด 24 ใบ

ครั้งสุดท้ายที่ อาแจ็กซ์ ประสบความสำเร็จในเวทียุโรป คือชุดแชมป์ยุโรปปี 1995 ส่วน แมนฯยูไนเต็ด ต้องย้อนไปในปี 2008 ที่ทีมดวลจุดโทษชนะ เชลซี 6-5 พร้อมกับครองเจ้ายุโรปสมัยที่ 3 และถ้าคว้าแชมป์ถ้วยนี้ได้ จะเป็นสโมสรที่  5 ที่ซิวแชมป์ 3 รายการของยูฟ่า (ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก, ยูโรปา ลีก และ คัพ วินเนอร์สคัพ) 
อย่างไรก็ตามถ้าผลออกมาเป็นตรงข้ามนอกจากจะหมดสิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ซีซั่นหน้าแล้ว พวกเขายังต้องสูญรายได้กว่า 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,200 ล้านบาท) พร้อมกับผลงานที่ล้มเหลวที่สุดนับตั้งแต่เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน วางมือไปเลยทีเดียว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ