แห่ทัพอลป.ชื่นมื่น รัฐแจกอัดฉีด177ล. "บิ๊กตู่" ชมนักกีฬาเจ๋ง

จากความสำเร็จของทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ด้วยผลงาน 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31 "ริโอ 2016" ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล วันที่ 5-21 สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม รัฐบาล โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดงานฉลองความสำเร็จดังกล่าว โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีพิธีมอบรางวัลให้ทัพโอลิมปิก รวมถึงรายการแข่งขันระดับนานาชาติต่างๆ ด้วย

 

    สำหรับงานฉลองครั้งนี้ เริ่มด้วยการจัดขบวนรถแห่นักกีฬาชุดโอลิมปิกเกมส์ 2016 ตั้งแต่สนามกีฬาหัวหมาก ในเวลาประมาณ 15.00 น. เดินทางไปตามเส้นทางถนนรามคำแหง พระราม 9 ดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พญาไท เพชรบุรี ยมราช และไปสิ้นสุดที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลาประมาณ 17.00 น. โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น มีประชาชนออกมายืนต้อนรับ โบกมือ มอบดอกไม้ ส่งเสียงแสดงความยินดี และเข้าไปขอถ่ายภาพ เซลฟี่ สร้างความปลาบปลื้มใจให้นักกีฬาเป็นอย่างมาก

 

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยเฉพาะฮีโร่โอลิมปิก ทั้ง 4 นักยกน้ำหนัก "น้องแนน" โสภิตา ธนสาร เจ้าของเหรียญทอง รุ่น 48 กก.หญิง, "น้องฝ้าย" สุกัญญา ศรีสุราช เหรียญทอง รุ่น 58 กก. หญิง, "น้องแต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว เหรียญเงิน รุ่น 58 กก.หญิง, "เจ้าดุ่ย" สินธุ์เพชร์ กรวยทอง เหรียญทองแดง รุ่น 56 กก. ชาย รวมถึง 2 นักเทควันโด "เจ้าเทม" เทวินทร์ หาญปราบ เหรียญเงิน รุ่น 58 กก.ชาย และ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เหรียญทองแดง รุ่น 49 กก.หญิง รวมไปถึงนักกีฬาชื่้อดังอย่าง "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์, "โปรช้าง" ธงชัย ใจดี และ "โค้ชเช" เช ยอง ซอก ที่ได้รับความสนใจจากแฟนๆ มากเป็นพิเศษ

 

 

    ด้านบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลก็เต็มไปด้วยความชื่นมื่นเช่นกัน เมื่อขบวนแห่นักกีฬาเดินทางไปถึง โดยมีผู้แทนรัฐบาล ผู้บริหารกระทรวงให้การต้อนรับ พร้อมความครื้นเครงจากการบรรเลงเพลงของวงดุริยางค์ และขบวนกลองยาว ก่อนมีพิธีมอบเงินรางวัลให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา โดย พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้มอบรางวัลต่างๆ

 

    สำหรับการมอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 69.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ.2559 ข้อ 1.1 กีฬาโอลิมปิกเกมส์ (ฤดูร้อน-ฤดูหนาว) (ก) การแบ่งจ่าย (จ่ายเป็นก้อน ในอัตราร้อยละ 50 ที่เหลืออีกร้อยละ 50 จ่ายเป็นรายเดือน ภายในระยะเวลา 4 ปี) เหรียญทอง 12 ล้านบาท, เหรียญเงิน 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4.8 ล้านบาท หรือ (ข) การจ่ายครั้งเดียว เหรียญทอง 10 ล้านบาท, เหรียญเงิน 6 ล้านบาทบาท และเหรียญทองแดง 4 ล้านบาท

 

 

    จากผลงานของนักกีฬาไทย ที่ทำได้ 2 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดง โดยนักกีฬาทั้ง 6 คน เลือกรับเงินรางวัลจากกองทุนตามเงื่อนไข (ก) การแบ่งจ่าย (จ่ายเป็นก้อน ในอัตราร้อยละ 50 ที่เหลืออีกร้อยละ 50 จ่ายเป็นรายเดือน ภายในระยะเวลา 4 ปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 48 ล้านบาท, ผู้ฝึกสอน ได้รับ 20% รวมเป็นเงิน 8 ล้านบาท และสมาคมกีฬา ได้รับ 30% รวมเป็นเงิน 9 ล้าน รวมทั้งหมด 65 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีการมอบเงินสนับสนุนพิเศษ ให้นักกีฬาที่ไม่ได้เหรียญรางวัลอีก 48 คนๆ ละ 1 แสนบาท รวมเป็น 4.8 ล้านบาท ซึ่งทำให้รวมยอดการจ่ายเงินรางวัลสำหรับกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 69.8 ล้านบาท

    ขณะเดียวกัน ยังมีการมอบเงินรางวัลรายการระดับนานาชาติตามหลักเกณฑ์ของกองทุน รวมทั้งสิ้น  27 รายการ เป็นเงิน 87,927,500 บาท ทำให้จำนวนเงินในการมอบรางวัลครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 177,427,500 บาท

 

 

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นหนึ่งวันที่ทำงานแล้วมีความสุข เพราะรู้ว่าจะได้เจอกับนักกีฬาทุกคน หลังจากที่ก่อนหน้านี้หัวใจไม่อยู่กับตัวเองไปหลายวัน เนื่องจากได้ส่งใจไปช่วยให้กำลังใจทุกคนอยู่ สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ส่วนตัวถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ เป็นประสบการณ์ที่ดีที่นักกีฬาทุกคนจะได้นำเอาไปพัฒนาตัวเองต่อไป ส่วนเงินรางวัลที่ได้ ก็นำเอาไปทำประโยชน์ให้กับตัวเองและครอบครัว

 

 

    นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในนามของรัฐบาลและพี่น้องชาวไทย ขอต้อนรับชื่นชมและแสดงความยินดีกับนักกีฬา ในช่วงโอลิมปิกเกมส์ได้ชมการแข่งขันหลายเกม ส่วนใหญ่ที่ได้เหรียญมักจะได้ชมทั้งสิ้น อันที่ไม่ได้เหรียญเองก็พยายามเอาใจช่วย หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ซึ่งก็มีปาฏิหาริย์ ทุกคนถือว่าทำหน้าที่ได้อย่างดียิ่ง นอกเหนือจากการแข่งขัน ยังแสดงให้เห็นการเคารพกฎกติกา สร้างความเป็นมิตรกับเพื่อนต่างชาติ  ก็อยากให้ทุกคนมีแรงบันดาลใจ มีศรัทธาในการแข่งขันจึงจะประสบความสำเร็จ

 

 

ในส่วนรัฐบาลต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนากีฬาของอาเซียน ฉะนั้นจะต้องมีการพัฒนาบุคลกรวงการกีฬาให้มากขึ้น และพร้อมสนับสนุนวงการกีฬาและนักกีฬาทุกคน แต่สิ่งสำคัญคือต้องพัฒนานักกีฬารุ่นใหม่ ขึ้นมาทดแทนรุ่นเก่า ผสมผสานในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สิ่งที่ดีขึ้น ต้องการพัฒนาให้เป็นอุตสาหกรรมกีฬาแบบครบวงจร ฉะนั้นการเรียนรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนด้านกีฬาการแข่งขัน แต่ต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์
    

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง กรณีของพิมศิริที่อยากเป็นทหาร ซึ่งตนได้รับปากไว้ตั้งแต่ที่ยังเป็น ผบ.ทบ. เมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนี้ไม่รู้ว่าได้เป็นหรือยัง แต่จะดูให้ ส่วนโค้ชเช ที่ขอสัญชาติไทย ก็ไม่ต้องน้อยใจ กำลังดูเรื่องกฎหมายให้อยู่

 

    ด้าน นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า สำหรับโอลิมปิกเกมส์ที่ผ่านมา โดยรวมก็พอใจในผลงาน แต่ก็เสียดายที่เราพลาดไปในหลายๆเหรียญที่นักกีฬาเราเป็นระดับโลก ซึ่งก็อาจเป็นเพราะนักกีฬามีความกดดันตัวเองไปบ้าง ก็จะพยายามหาทางแก้ไขในเรื่องนี้ต่อไป โดย กกท.ได้วางแผนเตรียมนักกีฬาจากนี้ไปอีก4ปีข้างหน้า เพื่อสู้ศึกโอลิมเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นต่อไป โดยเน้นเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬาให้มากยิ่งขึ้นเพื่อผลงานที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังต้องเฟ้นหาชนิดกีฬาของสมาคมต่างๆที่มีความหวังเป็นเป้าหมายในการพัฒนาต่อไป

 

 

    สำหรับนักกีฬาไทย "น้องแนน" โสภิตา เผยว่า ตื่นเต้นมากที่รัฐบาลจัดงานเลี้ยงให้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ต้องขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจอย่างอบอุ่นให้มาตลอด โดยหลังจากนี้จะดูแลร่างกาย กลับไปฝึกซ้อมรับใช้ประเทศชาติเหมือนเดิม ส่วนจะลงแข่งรายการใดบ้างนั้น ก็คงขึ้นอยู่กับทางโปรแกรมที่ทางสมาคมยกน้ำหนักจัดให้ ขณะที่ "น้องฝ้าย" สุกัญญา กล่าวว่า ปลื้มใจการต้อนรับ คนเยอะมาก ขอบคุณคนไทยทุกคน ดีใจมากที่สุดในชีวิตที่ประสบความสำเร็จ จากนี้คงกลับไปซ้อมเพราะมีรายการแข่งขันต่างๆ รออยู่

 

 

    ด้าน เจ้าเทม กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เคยเจอบรรยากาศการต้อนรับแบบนี้ สำหรับโอลิมปิกครั้งนี้ถือว่าตนเองมาเกินเป้า เกินความฝัน ไม่คิดว่าจะทำได้ แต่ที่ผ่านมาก็ทำการซ้อมหนักมาก ตั้งใจมาก โดยหลังจากนี้นอกจากจะซ้อมต่อแล้ว ก็คงต้องไปตามเรื่องการเรียนที่รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ต่อ ขณะที่ น้องเทนนิส เผยว่า ดีใจที่มีคนไทยทั่วประเทศให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยในปีนี้ไม่มีแมทช์ลงแข่งแล้ว คงรอดูโค้ชประกาศว่าจะเรียกเก็บตัววันไหน ส่วนโอลิมปิกครั้งนี้ ถือพอใจในระดับหนึ่ง เพราะจริงๆ แล้วยังอยากได้เหรียญทองอยู่

 

    ขณะที่ "น้องเมย์" รัชนก นักแบดมินตันสาวมือ 1 ของไทย ที่ทำได้ดีที่สุดด้วยการผ่านถึงรอบ 16 คนสุดท้าย ประเภทหญิงเดี่ยว กล่าวว่า ตื่นเต้นที่ได้ร่วมขบวนแห่ต้อนรับครั้งนี้ แม้ว่าจะไม่มีเหรียญมาฝากคนไทยก็ตาม โดยการแข่งขันรายการต่อไป จะเข้าร่วมศึกเจแปน โอเพ่น และ โคเรีย โอเพ่น ในช่วงกลางและปลายเดือน ก.ย. ซึ่งตั้งเป้าว่าจะต้องมีผลการแข่งขันที่ดีกลับมาให้ได้

 

    "แม้จะไม่ได้เหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ แต่ก็จะไม่ท้อ วันนี้ได้ร่วมขบวนแห่ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น มีแฟนกีฬาเข้ามาให้กำลังใจมากมาย ทำให้จิตใจดีขึ้นมาก จากนี้จะนำประสบการณ์ที่ได้รับมาไปฝึกซ้อมให้เข้มข้นมากขึ้น เชื่อว่าภายในปีนี้หากผลงานดี มีโอกาสราว 80 เปอร์เซ็นต์ที่จะได้ขึ้นไปเป็นมือ 1 โลกอีกครั้ง"    

 

    ส่วน ธงชัย ใจดี โปรกอล์ฟหมายเลข 1 ของไทย  เปิดเผยว่า เป็นครั้งเเรก ที่ได้โอกาสนั่งในขบวนเเห่เเบบนี้ ถือเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ  ขอบคุณประเทศไทย เเละหน่วยงานต่างๆ ถึงเเม้ตนจะไม่ได้เหรียญกลับมา เเต่ก็ได้มีส่วนร่วมในการฉลอง ก็ทำให้รู้สึกภูมิใจ อยากให้คนไทยเชียร์พวกเราเเบบนี้ตลอดไป