กพ.ไฟเขียว เพิ่มข้าราชการ ‘แพทย์' 35,000 ตำแหน่ง 'พยาบาล' อีก 140,000 ตำแหน่ง

ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.ปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และ นายรณภพ ปัทมะดิษ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี) และนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขแถลงร่วมภายหลัง การหารืออัตรากำลัง ความก้าวหน้าของบุคลากรสาธารณสุข

นพ.โอภาส ระบุว่า วันนี้เป็นประชุมเรื่องบุคลากรด้านสาธารณสุขตามวาระประจำเดือนที่ต้องหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน แต่ด้วยปัญหาที่กำลังเป็นกระแส ทำให้วันนี้จึงมีการเพิ่มวาระพิจารณา ปัญหาขาดแคลนบุคลากร

เนื่องจากในปัจจุบันภาระงานของบุคลากรมีเพิ่มขึ้น จากปัจจัย ในหลายด้าน เรื่องปัญหาการใช้ยาเสพติด ผู้เสพ คือผู้ป่วยที่ต้องเข้าบำบัดรักษา จากความคาดหวังของประชาชน ต่อด้านการรักษา ที่ต้องดีขึ้น

อีกประเด็นคือการ การถ่ายโอน รพ.สต. ในบางแห่ง โดยที่ผ่านมามีในแต่ละปีมีการปรับเพิ่มอัตราตำแหน่งของบุคลากรในด้านสาธารณสุขอยู่แล้ว

นาย ปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.) ระบุ ยืนยันที่ผ่านมาได้มีการหารือเป็นประจำอยู่แล้วกับทุกกระทรวงที่อยู่ในสังกัด เช่นเดียวกัน กับกระทรวงสาธารณาสุข เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนบริบทด้านบุคลากรมาการแพทย์ให้สอดคล้องกับสภาพสังคม แต่ในช่วงนี้อาจเป็นกรณี ปัญหาจำเป็นเร่งด่วน ที่มีผลจากปัจจัย ความต้องการของผู้ใช้บริการมีมากขึ้น อัตรากำลัง และค่าตอบแทน

โดยในช่วงที่ผ่านมาเห็นความจำเป็นเร่งด่วน ที่ทาง กพ.ต้องเร่งแก้ไข ทั้ง ความต้องการประชาชนและระบบ และด้านค่าตอบแทนของข้าราชการ ที่ต้องสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน

เพิ่มอัตราแพทย์-พยาบาล

ขณะที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยข้อสรุปที่ประชุมเห็นชอบการเพิ่มอัตราตำแหน่งข้าราชการในทุกระดับกระจายในกลุ่มด้านสาธาณรสุข เช่น เพิ่มอัตราตำแหน่งแพทย์ ประมาณ 35,000 คน พยาบาล ประมาณ 140,000 คน

จ่อปรับเกณฑ์งานพยาบาลใหม่

โดนกลุ่มงานแพทย์  และพยาบาล ถือว่ามีความขาดแคลนมากกว่างานด้านอื่นๆ แต่ส่วนกลุ่มงานอื่นก็จะมีการพิจารณาเพิ่มตามลำดับเรื่องความก้าวหน้า เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ

โดยเฉพาะในกลุ่มงานพยาบาลที่จะปรับเกณฑ์การพิจารณาใหม่ เพื่อให้ได้ปรับตำแหน่ง เป็นชำนาญการพิเศษ

ส่วนประเด็นการกระจายอัตรากำลังในกลุ่มแพทย์ประจำบ้านในภูมิภาค ที่พบมีการลาไปศึกษา เพิ่มเติม จะพยายามให้คงอัตรากำลังแพทย์เพิ่มพูนทักษะ ปี 2-3 อยู่ในพื้นที่ให้มากที่สุด โดยจะหารือกับทางแพทยสภา อีกครั้ง

ลดการย้ายหมออินเทิร์น

นอกจากนั้นเพิ่มการอบรมในพื้นที่ จากแพทย์ชำนาญการให้มากขึ้น ลดการต้องย้ายของแพทย์ฝึก หรือหมออินเทิร์น(intern) ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ฝึกแพทย์ประจำบ้าน 48 แห่ง

เพิ่มแพทย์ในระบบ 80%

ส่วนการดำเนินการระยะยาว จะเพิ่มการผลิตแพทย์ โดยยังดำเนินการตามหลักสูตรเดิมจะมีอัตราแพทย์ใหม่อยู่ที่ร้อยละ 40-50 แต่หลังจากนี่จะขยายการเปิดรับนักศึกษาแพทย์เพิ่ม 2,000 คนต่อปี ที่จะทำให้มีแพทย์ใหม่ในระบบร้อยละ 80

ทั้งนี้ภายใน 30 วัน จะมีการตั้งคณะกรรมการติดตาม ผลการดำเนินการตามมติที่ประชุม ซึ่งเชื่อว่าใน 30 วันนี้จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลง เช่น การแก้ไขข้อบังคับที่อาจติดขัดเงื่อนไขของการเพิ่มตำแหน่ง เป็นต้น ส่วนการจะขอแยกออกจาก กพ. นั้นยังไม่มีการหารือแต่ยังเป็นข้อเสนอจากกลุ่มบุคลากรเท่านั้น