โปร่งโล่งสบายยิ่งกว่าปลดเข็มขัดตอนกินอิ่ม ก็คงเป็นข่าวดีสุดๆ ของปีนี้ ที่ คสช.ได้ประกาศปลดล็อกให้นักการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้แล้วนี่แหละ !
โดยเมื่อวันอังคารที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่ง คสช. ที่ 22/2561 เรื่องการให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง โดยเป็นการยกเลิกคำสั่งและประกาศ คสช. 9 ฉบับแล้ว !!
นักเลือกตั้งแทบจะจุดพลุตะไลไฟพะเนียง หลังจากที่รอจนไม่รู้ว่าจะเหลือเวลาหาเสียงได้อีกกี่วันกัน
ยิ่งได้ฟังคำแจกแจงของ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ว่าคำสั่ง คสช.ในการปลดล็อกพรรคการเมืองนั้น ขณะนี้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมได้ทุกอย่าง ยิ่งได้ใจไปเลย !!
แต่ฟังแล้วต้องฟังให้ครบ เพราะหากดูใน พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. ระบุว่าการหาเสียงจะเริ่มได้ “ก็ต่อเมื่อ” มี “พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร" เสียก่อน ส่วนจะหาเสียงอย่างไรให้เป็นไปตามวิธีการที่ กกต.กำหนด
หลายคนเกาหัวแกรกๆ ตกลงยังไง ? ปรากฏว่ารองนายกฯ เจ้าเดิมก็บอกอีกทีว่า “ตอนนี้อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะอยากทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น ไว้ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ออกเมื่อไรว่ากันอีกที !!”
เป็นอันว่าเข้าใจตรงกันตามนี้ ดังนั้นระดับนักการเมืองไทย โดยเฉพาะเจ้าใหญ่ใจเก๋า หลังจากที่เตรียมการรอไว้อยู่แล้ว คือยิงปืนเมื่อไร ออกตัวเมื่อนั้น
ยิ่งพอส่องดูความเคลื่อนไหวของบรรดาพี่ๆ จะเห็นเลยว่าอาจแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ 2 สไตล์ คือ “เสือปืนไว” กับ “สิงห์เดินวน”
เสือปืนไว..(ไปนิด!)
กลุ่มแรกนี้...คนไทยงงหนักมาก เพราะพวกเล่นติดป้ายกันตั้งแต่ปลดล็อกใหม่หมาด จนโลกโซเชียลอดที่จะแห่แชร์ภาพมิได้ว่า “ไวเว่อร์ !!”
อย่าไปนับว่าป้ายขนาดใหญ่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จับมือกับผู้นำอังกฤษพร้อมข้อความ “สังคมใฝ่หานายกรัฐมนตรีที่ไม่โกงกิน” ที่ออกช่วงวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่าเป็นป้ายหาเสียง เพราะนี่คือป้ายประชาสัมพันธ์ภารกิจเฉยๆ เท่านั้น
แต่ที่ชัดๆ ก็คือป้ายของ “สิระ เจนจาคะ” แห่งพรรคพลังประชารัฐ ที่ปรากฏช่วงบ่ายของวันประกาศปลดล็อกการเมือง บริเวณตรงข้ามศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่
พร้อมข้อความเขียนว่า “พลังประชารัฐ คิดดี ทำดี สิระ เจนจาคะ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ” จะไม่ให้เรียกเสือปืนไวยังไงไหว
อีกคนที่ไวยิ่งกว่าก็ "หมวดเจี๊ยบ” ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง ผู้เสนอตัวลงสมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ในลักษณะคล้ายการหาเสียงบนทางเท้าหลายจุดตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาป้ายเป็นการสนับสนุนกิจกรรมปั่นอุ่นไอรัก !!
แต่ไม่ว่าเนื้อหาจะว่าอะไร แน่นอนต้องถูกเจ้าพนักงานเทศกิจ กรุงเทพมหานคร ปลดออกพร้อมเดินหน้าปรับอ่วมแล้ว !!
งานนี้หมวดเจี๊ยบท่าจะแย่ เพราะตอนแรกสำนักงานเขตลาดพร้าวจะเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายรวมทุกป้ายไม่เกิน 5,000 บาท แต่ที่ประชุมผู้บริหารเห็นว่าไม่สอดคล้องกับกฎหมาย จึงให้เปรียบเทียบปรับแบบ “ป้ายต่อป้าย”!! สูงสุดไม่เกินป้ายละ 5,000 บาท !!
หยิบมือถือขึ้นมากดคิดเลข หมวดเจี๊ยบมีทั้งหมด 250 ป้าย ติดกระจายไปบริเวณถ.โชคชัย 4 ถ.เสนานิเวศน์ ถ.ลาดพร้าววังหิน ถ.ประเสริฐมนูกิจ ถ.สตรีวิทยา 2 ถ.ลาดพร้าว และ ถ.ลาดปลาเค้า ทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้เขียนหนังสือ “ทักษิณ Where are you?” อาจต้องเสียค่าปรับเป็นเงินถึง 1.25 ล้านบาทเลยทีเดียว !!!
ถึงตรงนี้คงต้องบอกให้เสือปืนไวทั้งสองรายไปฟังที่ ดร.วิษณุ พูดให้จบด้วย เพราะช่วงท้ายมีการระบุไว้ว่า
“จะหาเสียงทำได้ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ เช่น กฎหมายรักษาความสะอาด กฎหมายความสงบเรียบร้อย แม้แต่การเชิญชวนให้เลือกพรรคก็สามารถทำได้” ตึ่งโป๊ะ!!
และ กทม.เอง ก็มีกฎกติกาของท้องที่ ที่ยังไม่อนุญาตให้พรรคไหนนำป้ายทุกชนิดมาติดตั้งตามพื้นที่ต่างๆ จนกว่า พ.ร.ฎ.เลือกตั้งจะประกาศบังคับใช้แล้วเท่านั้น !
ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 17 และ 56 ของ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 5,000 บาท !
สิงห์เดินวน (จนแน่ใจ)
มาถึงลีลาของนักเลือกตั้งพรรคอื่นๆ กันบ้าง จะเห็นว่าแม้รู้ๆ กันอยู่แต่ก็เนียนไปได้โดยการหงายการ์ด “ออกหาสมาชิกพรรค” ปลอดภัยไว้ก่อน !
อย่าง “พรรคอนาคตใหม่” จะเห็นเลยว่าหัวหน้าพรรค ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และทีมงานออกทริปไม่ได้หยุดหย่อน ทั้งในและต่างประเทศ ในเมืองและชนบท
และทันทีที่ คสช.ประกาศปลดล็อกการเมือง รุ่งขึ้นในเฟซบุ๊กพรรคก็ประกาศทันทีว่าวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ที่ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กับ 12 นโยบายที่โดนใจ แบ่งเป็น "3 นโยบายฐานราก 8 นโยบายเสาหลัก 1 ปักธงประชาธิปไตย"
ส่วนที่ “พรรคประชาธิปัตย์” ชัดเลย พอ คสช.ปลดล็อกปุ๊บ พรรคสะตอก็ได้ฤกษ์ประกาศรับสมัคร ส.ส.เขต-บัญชีรายชื่อสตาร์ทกันวันที่ 11 ธันวาคม วันที่ปลดล็อกนั่นแหละ !
ส่วนอัพเดทล่าสุด หัวหน้ามาร์ค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เล่นใหญ่จัดเสวนาหัวข้อ “รัฐบาลหน้า ท้องถิ่นไทย” งานนี้ชัดๆ ว่าพรรคสะตอไปเวย์นี้ คือดูแลการเมืองท้องถิ่นก่อน
อย่างว่า พรรคสีฟ้านี้เล่นบทหล่อเนียน คือด้านหนึ่งปล่อยให้เด็ก New Dem เดินเกมคนรุ่นใหม่สร้างยอดไลค์ไปก่อน
ที่เหลือก็รอเวลา...เพราะมีการวิเคราะห์กันว่า การเมืองรอบนี้เป็นเรื่อง 2 ขั้ว 1 ตัวแปร คือ “ขั้วแดง” กับ “ขั้วเขียว” ส่วน “สีฟ้า” คือตัวแปรที่ขั้วไหนชนะ จะขาด ปชป. ไม่ได้!!
ส่วนกระแสล่าสุดที่ว่าขั้วเขียวจะถูก “โดดเดี่ยว” ก็อย่าเพิ่งฟันธงไป เพราะอะไรก็ไม่แน่นอนทั้งนั้น งานนี้ ปชป.เลยยิ้มๆ เนื้อตัวมันหอมๆ
หันมาทาง “พรรคเพื่อไทย” บ้าง ใครจะไวเท่านายใหญ่เป็นไม่มี นี่ขนาดอยู่ไกล พอปลดล็อกการเมืองปุ๊บก็เคลื่อนไหวทันที !!
โพสต์เฟซบุ๊ก “Thaksin Shinawatra” ระบุว่า “...วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความหวังที่เราจะได้รับสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคกลับคืนมา ถึงแม้ว่าอาจไม่เหมือนเดิมเหมือนเมื่อครั้งได้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 เพราะรัฐธรรมนูญนี้ตั้งใจควบคุมและจำกัดสิทธิของประชาชนตามมาตรฐานสากล ดังนั้นเราต้องร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญฉบับถ่วงความเจริญของประเทศฉบับนี้...”
ส่วนพลพรรค ไปดูในเฟซบุ๊ก “pheuthaiparty” ก็เริ่มเคลื่อนไหวแนวนโยบายออกมาแล้ว โดยที่เน้นคือการพูดเรื่อง “คนไทยรวยกระจุก จนกระจาย” ที่กำลังอยู่ในกระแสนั่นเอง !!
มาที่พรรคเครือข่ายอย่าง “พรรคไทยรักษาชาติ” ก็ประกาศความพร้อมมีการแถลงถึงการแบ่งผู้รับผิดชอบงานแต่ละฝ่ายเพื่อเตรียมการสู่การเลือกตั้ง และเตรียมจัดประชุมเตรียมความพร้อมผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้งของพรรคไทยรักษาชาติ ในวันนี้คือ 13 ธันวาคม 2561
ปิดท้ายที่สองพรรคใหญ่ในโซนเดียวกัน คือ พรรคพลังประชารัฐ และ พรรครวมพลังประชาชาติไทย
รายแรกอย่างที่เห็นว่านอกจากได้เปรียบในหลายมิติแล้ว คนในพรรคยังติดป้ายหาเสียงนำไปก่อนค่อนตัว ส่วนรายหลังต้องบอกว่า "เดินคารวะแผ่นดิน” (วงเล็บไม่ได้หาเสียง) ฝุ่นตลบมาพักใหญ่
บรรยากาศมีทั้งสุขทุกข์ ตามประสาคนโดดจากเสือตัวหนึ่ง ไปเกาะอีกตัวหนึ่งแทบไม่ทัน !
มาวันนี้ แม้ คสช.จะประกาศปลดล็อกการเมืองแล้ว ลุงกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะแกนนำ ไม่ได้มีทีท่าทุกข์ร้อนอะไร ยังคงออกเดินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง !!
000
แต่นี่เพียงแค่ออเดิร์ฟเท่านั้น เชื่อว่าเมนูอื่นยังมีตามมาอีกเพียบ ก็ในเมื่อรัฐบาลบอกว่า ยังไม่มี พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง ตอนนี้ทำอะไรก็ทำไป คนไทยจะได้เห็นของคาวหวานรสจัดจ้านตามมาแน่ๆ !!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง