คอลัมนิสต์

ไม่ชัวร์ !! "เจ๊หน่อย" ยังต้องลุ้น "ด่านสอง"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สุดารัตน์" ผ่านด่านแรกเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย แต่ยังมีด่านสองให้ต้องลุ้น !!

 

                เป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้ว่า “พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์” จะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส่วน “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เซฟไว้ในโซนปลอดภัย เผื่อเกิดอุบัติเหตุพรรคถูกยุบจะได้ไม่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองในฐานะกรรมการบริหารพรรค

ไม่ชัวร์ !! "เจ๊หน่อย" ยังต้องลุ้น "ด่านสอง"

(อ่านต่อ...ตามโผ "วิโรจน์" นั่ง หน.พรรคเพื่อไทย "ภูมิธรรม" แม่บ้านพรรค)

 

                ตำแหน่งที่วาง “คุณหญิงหน่อย” ไว้ คือ “ประธานยุทธศาสตร์พรรค” ทำหน้าที่ถือธงนำในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ โดยเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที งานแรกจะลงพื้นที่โคราชในวันที่ 31 ตุลาคม นี้

               ที่สำคัญตอนนี้ “คุณหญิงสุดารัตน์” นั่งทำงานอยู่ที่ชั้น 8 อาคารพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นห้องที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เคยนั่งมาก่อน

                คนเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตว่าการได้ไปนั่งทำงานห้องที่ “ยิ่งลักษณ์” เคยนั่งมาก่อนน่าจะเป็นคำอธิบายได้พอสมควรถึงความสำคัญของ “คุณหญิงสุดารัตน์” ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

                ย้อนกลับไปดูรายละเอียดคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรคเพื่อไทย 15 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยลงไปอีก จากครั้งก่อนมี 22 คน โดยเฉพาะถ้าเทียบกับยุคพรรคไทยรักไทย ที่มีมากถึง 111 คน ยิ่งมีมากหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองถูกยุบพรรคก็ถูกตัดสิทธิ์มาก คณะกรรมการบริหารพรรคของทุกพรรคในระยะหลังจึงเหลือไม่กี่คน

                ในจำนวน 15 คน ส่วนใหญ่เป็นคนเก่าซึ่งก็อยู่ในตำแหน่งเดิม 11 คน อีก 4 คนเป็นคนใหม่ ซึ่งคนใหม่ที่น่าสนใจคือ “ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์” ที่มาเป็นโฆษกพรรค เธอไม่ใช่คนใหม่ของพรรค เพราะเข้ามาอยู่ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทยและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปด้วยตอนพรรคถูกยุบ

                การวาง “ลดาวัลลิ์” มาเป็นโฆษกพรรคก็สอดคล้องกับที่ทางพรรคบอกไว้ก่อนหน้าว่าคนที่มาทำหน้าที่โฆษกพรรคคนต่อไปจะไม่เน้นตอบโต้แบบ ปะ ฉะ ดะ

                เมื่อได้เห็นโฉมหน้าอย่างเป็นทางการของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรคเพื่อไทย ก็คอนเฟิร์มยุทธศาสตร์เดิมของพรรค คือ คนที่เป็นกรรมการบริหารพรรค คือ คนที่ “พร้อมพลีชีพ” พร้อมถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองหากถูกยุบพรรค และจะไม่ส่งผลกระเทือนกับพรรคมากนักหากบุคคลกลุ่มนี้ถูกตัดสิทธิ์

 

                จับตา “เพื่อไทย” อีก 2 สเต็ป

                ถึงแม้จะดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้ว ทั้งในส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรค และการวางตัว “คุณหญิงสุดารัตน์” เป็นผู้ถือธงนำในการเลือกตั้ง แต่ยังมีอย่างน้อยอีก 2 จุดที่ยังต้องจับตาดูว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทยอีกหรือไม่

                จุดแรก คือ เรื่องการยุบพรรค จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่

                ถึงตอนนี้นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า โอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะถูกยุบก่อนการเลือกตั้งมีไม่มากนัก

                ดูสาเหตุที่จะทำให้ถูกยุบพรรค ณ ตอนนี้ยังอยู่ที่ 2 เหตุเหมือนเดิม

                เหตุแรก “ทักษิณ ชินวัตร” ครอบงำพรรค ซึ่งความผิดนี้จะสำเร็จก็ต่อเมื่อมีการทำผิดทั้งของตัวบุคคล คือ “ทักษิณ” ที่กระทำการครอบงำ และส่วนของพรรคที่ดำเนินการตาม

 

ไม่ชัวร์ !! "เจ๊หน่อย" ยังต้องลุ้น "ด่านสอง"

(อ่านต่อ...มาตามนัด ?? ยุบพรรคเพื่อไทยเพราะ "ทักษิณ")

 

                แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ยังไม่เป็นแบบนั้น

                ตอนนี้มีแค่คนออกมาตั้งข้อสังเกตว่าทักษิณกำลังครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ มีแค่ กกต.บอกว่ากำลังเก็บรวบรวมข้อมูล ถึงแม้จะเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าทักษิณ “มีอิทธิพล” อยู่เหนือพรรคเพื่อไทย แต่หากไม่มีหลักฐานชัดๆ ก็ไม่สามารถเอาผิดได้

                และต่อให้ “ทักษิณ” แสดงพฤติกรรมว่าครอบงำ แต่ไม่มีหลักฐานว่าทางพรรคได้ปฏิบัติตาม ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จที่จะทำให้ยุบพรรคได้

                จากการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ไม่น่าจะมีมูลเหตุให้มีการตั้งเรื่องว่า “ทักษิณ” กระทำการครอบงำได้

                ตอนนี้ยังมีอีก 2 จุดหลักๆ ให้ดูว่า ทักษิณ ครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ จุดแรกคือ รายชื่อนายกฯ ของพรรค และอีกจุดคือ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค

                แต่มีการประเมินว่า หากจะมีการยุบพรรคด้วยเหตุเหล่านี้ ก็ไม่น่าจะดำเนินการได้ทันก่อนการเลือกตั้ง เพราะตามขั้นตอนทั้ง กกต.ตั้งเรื่อง สอบสวน หากสรุปว่าผิดก็ต้องส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามขั้นตอนปกติก็น่าจะเกือบๆ ครึ่งปี ถ้าเร็วกว่านั้นก็อาจจะเห็นความ “ไม่ปกติ” ชัดเจน

                ขณะที่ฝ่าย คสช.เองก็คงต้องประเมินผลบวกลบจากการยุบพรรค จะทำให้ “กระแสตีกลับ” หรือไม่

                ส่วนอีกเหตุที่จะยุบพรรคเพื่อไทย คือ กรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยโดน คสช.ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญามาตรา 116 ข้อหายุยุงปลุกปั่น จากการแถลงข่าววันครบรอบ 4 ปี คสช. ที่พรรค

                กรณีนี้ยิ่งไม่สามารถทำได้ทันการเลือกตั้งในปีหน้าได้แน่นอน เพราะอย่างน้อยกระบวนการพิจารณาในศาลยุติธรรมทั้ง 3 ชั้น ก็ต้องใช้เวลาอีกเป็นปี

  

               “พรรคสาขา” อาจถูกยุบ

                แต่สำหรับเรื่อง “ทักษิณครอบงำพรรค” นั้น ตอนนี้จะมองเฉพาะพรรคเพื่อไทยไม่ได้แล้ว แต่ต้องมองเลยไปถึง “พรรคสาขา” หรือ “พรรคนอมินี” แล้วแต่จะเรียก ที่จะมีการตั้งขึ้นมาเพื่อแก้เกมกติการัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทยถูกเตะตัดขาเรื่อง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

                ล่าสุดคือ กรณีที่มีข่าวว่าจะทำพรรค “ไทยรักษาชาติ” ขึ้นมาเป็นสาขาพรรคเพื่อไทยอีกพรรค มีข่าวว่าจะใช้ตัวย่อว่า “ทษช.” ซึ่งสอดคล้องกับชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” โดยที่ผ่านมาก็มีคนในพรรคออกมายอมรับว่ามีแนวคิดนี้อยู่จริง

                ล่าสุดมีชื่อ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตผู้แทนการค้าและผู้ช่วยรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ ว่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ แถมมีชื่อ “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายคนเดียวของทักษิณ จะมาเป็นหัวหน้าพรรค

                หากเกิดขึ้นจริงตามที่เป็นข่าวออกมา นี่อาจจะเป็นหลักฐาน “ความผิดสำเร็จ” ว่าทักษิณครอบงำพรรค เพียงแต่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย

                ตอนนี้ทางฝั่งทักษิณจึงประเมินถึงเรื่องการยุบพรรคว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่โดนยุบ ก็อาจเป็นไปได้ว่าพรรคแนวร่วมอาจจะโดนยุบ

                รวมไปถึงพรรคเพื่อชาติ ที่ “จตุพร พรหมพันธุ์” และ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” เปิดหน้าสนับสนุนเต็มตัว ทั้งที่ไม่สามารถเข้าเป็นสมาชิกพรรคได้เพราะขาดคุณสมบัติ ในรายของนายจตุพร เพิ่งพ้นโทษจำคุกมา และนายยงยุทธ เคยถูกศาลตัดสินว่าทุจริตเลือกตั้งในการเลือกตั้งปี 2550

 

ไม่ชัวร์ !! "เจ๊หน่อย" ยังต้องลุ้น "ด่านสอง"

(อ่านต่อ...อ่วม!! "ตู่" 10 ปี "ยงยุทธ" ตลอดชีวิต สมัคร ส.ส.ไม่ได้!!)

  

               “คุณหญิงหน่อย” ยังต้องลุ้นด่านสอง

อีกสเต็ปของพรรคเพื่อไทยที่ต้องจับตาคือ ในการเสนอชื่อบุคคลที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ซึ่งจะออกมาหลังจากมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง

                “ณ ตอนนี้ ก็ต้องบอกว่าทางพรรควางคุณหญิงสุดารัตน์ไว้เป็นชื่ออันดับหนึ่งของบัญชีนายกฯ แต่กว่าจะถึงวันนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ยังไม่สามารถการันตีได้” แหล่งข่าวพรรคเพื่อไทยกล่าว

                ต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านี้ช่วงที่มีข่าวว่าพรรคจะวางตัวคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เกิดแรงกระเพื่อมในพรรคพอสมควร ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ก็ตกเป็นเป้าโจมตีของคนในพรรค สุดท้ายจึงได้ข้อสรุปที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เป็นหัวหน้าพรรคต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรคและก็ลงตัวกับสถานการณ์ที่พรรคอาจถูกยุบ ที่ต้องวางเกมเพื่อรักษาคีย์แมนของพรรคเอาไว้

                “กรณีของบัญชีนายกฯ ของพรรคก็เช่นกัน หากรีบบอกออกมาชัดๆ ว่าจะเป็นคุณหญิงสุดารัตน์แน่ๆ ก็คง “เรียกแขก” ทั้งจากในพรรคและนอกพรรค” แหล่งข่าวกล่าว

                หากนับจากปฏิทินที่จะมีการเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ ปีหน้า กว่าจะมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง กว่าจะถึงเวลาเปิดบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรค ก็อีก 2-3 เดือน สำหรับการเมืองที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ก็ต้องบอกว่ายังอีกนาน

                รวมทั้งในบัญชีนายกฯ ของพรรคจะเสนอเพียงชื่อเดียว หรือจะมีอันดับ 2-3 ไปด้วย ก็ยังไม่ชัดเจน

                หลังการประชุมพรรคที่มีภาพ “คุณหญิงสุดารัตน์” นั่งเคียงคู่อยู่กับ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ที่เคยได้ฉายาว่า “รัฐมนตรีที่แข่งแกร่งที่สุดในปฐพี” ที่ปรากฏตัวออกมาหลังห่างหายเวทีการเมืองไปพักใหญ่ และ “จาตุรนต์ ฉายแสง” คีย์แมนคนสำคัญอีกคนของพรรค ที่ทั้งสองคนก็อยู่ในลิสต์แคนดิเดต “ผู้นำ” พรรคเพื่อไทยมาเป็นระยะ มีข่าวออกมาว่าชื่อสามคนนี้น่าจะอยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรค

                ต้องบอกเลยว่า ยังไม่แน่

 

ไม่ชัวร์ !! "เจ๊หน่อย" ยังต้องลุ้น "ด่านสอง"

 

                แม้แต่ “คุณหญิงสุดารัตน์” ที่ตอนนี้จะได้ไปนั่งอยู่ในห้องทำงานที่ “ยิ่งลักษณ์” เคยใช้ แต่สุดท้ายจะได้เป็น “เบอร์หนึ่ง” ในการเลือกตั้งเหมือนยิ่งลักษณ์หรือไม่ ก็ยังต้องติดตาม !!

 

==================

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ