คอลัมนิสต์

คำถามคาใจ : ‘คสช.-ยิ่งลักษณ์’ เกี้ยเซี้ย??

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยังไม่จบ!!! คำถามคาใจ : ‘คสช.-ยิ่งลักษณ์’ เกี้ยเซี้ย ??

  

                ยังเป็นคำถามที่สังคมคาใจถึงการหายตัวไปของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี หลังไม่เดินทางมาฟังคำตัดสินศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีโครงการรับจำนำข้าว ด้วยอาการป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อการทำหน้าที่ของ รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการดูแลงานด้านความมั่นคง ว่าเป็นการจงใจเปิดทางให้มีการหลบหนีหรือไม่

                ตลอดทั้งเดือนสิงหาคม คสช. แสดงท่าทีขึงขัง ขู่จะใช้กฎหมายดำเนินการกับแกนนำในภาคอีสานและภาคเหนือ ในการขนคนมาร่วมกันให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมกับส่งกำลังทหารไปดูแลจัดระเบียบรถตู้ จนทำให้มีการบอกเลิกการว่าจ้างไปหลายราย รวมถึงการลงพื้นที่ ทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ให้เดินทางมา กทม.และให้กำลังใจอยู่ที่บ้าน  แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่ากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้ตกเป็นจำเลยคดีนี้ กลับไม่มีทหาร เจ้าหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหว

                ในห้วงเวลาเดียวกันนี้  พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช.และผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ยังเรียกหน่วยงานความมั่นคง หารือเพื่อประเมินสถานการณ์ถึง 2 รอบ ในหลายๆประเด็น โดยหนึ่งในนั้นมีการพูดถึงความเป็นไปได้ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เดินทางมารับฟังคำตัดสินของศาล ก่อนจะออกมาประกาศว่าได้เตรียมแผนขั้น “เวิร์ส เคส” คือ กรณีที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในวันตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าว ก่อนจะพูดให้สังคมหายกังวลใจว่า “ผมไม่รู้สึกกังวล สบายใจดี และเชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี”

                เมื่อวันตัดสินคดีโครงการจำนำข้าวมาถึง เหตุการณ์ต่างๆผ่านพ้นไปด้วยดี ตามที่ เลขาธิการ คสช.ได้คาดการณ์ไว้ หลัง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แจ้งต่อศาลว่า จำเลยมีอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน ขอเลื่อนเวลาออกไป และศาลได้ออกหมายจับทำให้มีการคาดการณ์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หลบหนีไปแล้ว มวลชนที่เดินทางมาให้กำลังใจต่างแยกย้ายกลับไปเช่นกัน

                ทันทีที่ทราบข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจ บอกว่า รับรายงานแล้ว อาจอยู่โรงพยาบาลไหนก็ได้ ขณะนี้ไม่รับการยืนยันว่าหลบหนี พร้อมแสดงความเห็นใจหน่วยงานความมั่นคง และไม่ใช่ความบกพร่องในการปฏิบัติงาน เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีหลายบ้าน มีรถหลายคัน และบอกว่า ถ้าหากหนีจริง อาจมีเจ้าหน้าที่ช่วย

คำถามคาใจ : ‘คสช.-ยิ่งลักษณ์’ เกี้ยเซี้ย??

                จากนั้นแค่ชั่วโมงกว่าๆ พล.อ.ประวิตร ออกมายอมรับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจหนีไปแล้วก็ได้ มีเส้นทางหลบหนีหลายเส้นทาง พร้อมทั้งยกคำพูดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เคยระบุว่าจะไม่หลบหนีมาอ้าง ทำให้ฝ่ายความมั่นคงคาดไม่ถึง และยืนยันไม่ได้รู้เห็นเป็นใจให้เกิดการหลบหนีในครั้งนี้

                ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้า คสช. ออกมาสำทับติดๆว่า ได้รับรายงานแล้วเช่นกัน และได้กำชับหน่วยงานความมั่นคง ไปดูรายละเอียดว่าป่วยจริงหรือไม่ พร้อมสั่งเข้มงวดการเข้า-ออกตามแนวชายแดน ทั้งเส้นทางปกติและไม่ปกติ  พร้อมระบุว่า ไม่เคยคิดว่ายิ่งลักษณ์จะหนี เพราะแสดงตัวว่าจะอยู่ต่อสู้คดีตลอด  บรรดาพรรคเพื่อไทยก็ออกมาบอกว่าจะสู้คดีแน่นอน

                แม้ว่าผู้นำรัฐบาลและผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องดูแลงานด้านความมั่นคง ออกมายืนยันว่าคาดไม่ถึงต่อการหลบหนี ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่กระแสข่าว จงใจเปิดทางเนื่องจากมีข้อตกลงที่สมประโยชน์กัน ระหว่าง ผู้มีอำนาจรัฐและฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกกระพืออย่างต่อเนื่องในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ 

                จนกระทั่ง พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ต้องออกมาชี้แจงว่า รัฐบาลและ คสช.บริหารงานแบบเปิดเผย ตรงไป ตรงมา ไม่ทำสิ่งที่ไม่อยู่ในกรอบของกระบวนยุติธรรม และมองว่าเป็นเพียงความคิดเห็นของบางคนที่ขาดหลักฐาน

                แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้กระแสข่าว ผู้มีอำนาจ ดีล กับน.ส. ยิ่งลักษณ์ จบลง  

                จนกระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พล.อ.เฉลิมชัย แสดงความห่วงใยต่อการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวในที่ประชุมสำนักงานเลขาธิการ คสช. พร้อมย้ำว่า คสช.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนี ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามตัวมาดำเนินคดี  

                ส่วน พล.อ.ประวิตร ตอบเรื่องนี้เพียงสั้นๆว่า ไม่รู้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีไปตอนไหน ใช้ช่องทางใด ไม่มีใครรู้ พร้อมทั้งบอกกับผู้สื่อข่าว ไม่ให้ถามเรื่องนี้อีกแล้ว

                ขณะเดียวกัน มีการเผยแพร่ภาพการทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. เพื่อสื่อให้เห็นว่า มีความสนิทสนมกันทางโซเชียลมีเดีย

                เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์หลังไปร่วมงานวันสถาปนากรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21รอ.) ครบรอบ 67 ปี ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า ตอนนั้นเขาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แล้วตนเป็น ผบ.ทบ. ต้องไปกับเขา ขอให้คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งตนไปกับทุกนายกรัฐมนตรี พร้อมแสดงอาการหัวเสียต่อกระแสข่าวจงใจเปิดทางให้หนี ว่า “เอ้ย! ใครจะไปปล่อย ปล่อยไปได้อย่างไร ทำไมคิดแบบนี้” พร้อมทั้งระบุเป็นความบกพร่องของหน่วยงานความมั่นคง 

                พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งในช่วงเย็นวันเดียวกัน ระหว่างไปราชการที่ จ.สระแก้ว บอกว่า พื้นที่ติดประเทศเพื่อนบ้านของไทยมีความยาวทั้งหมด 5 พันกิโลเมตร ฉะนั้นต้องใช้เวลาในการไปตรวจสอบว่ายิ่งลักษณ์หนีไปทางไหน 

                “ผมไม่มีไปซูเอี๊ยกับใคร ผมซูเอี๋ยกับใครไม่ได้” นายกฯยืนยัน 

                จนกระทั้งล่าสุด วันที่ 29 ส.ค. พล.อ.เฉลิมชัย  ออกมายืดอกยอมรับผิดว่า เป็นความบกพร่องในการทำหน้าที่  ไม่ได้ติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยัน ไม่ได้ “เกี้ยเซี้ย" กัน  เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีบารมี มีคนสนับสนุน รวมถึงเชื่อว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชาย เป็นผู้วางเตรียมแผนการหลบหนีครั้งนี้ (อ่านต่อ..."ทักษิณ วางแผนพา ยิ่งลักษณ์ หนี" )

คำถามคาใจ : ‘คสช.-ยิ่งลักษณ์’ เกี้ยเซี้ย??

                ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์  สั่ง ให้เลื่อนการแถลงผลงานของรัฐบาลครบรอบ 3 ปี กลุ่มงานด้านความมั่นคง ที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (30 ส.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขส สมช. ผู้อำนวยการข่าวกรอง ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

                น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งว่าปม “น.ส.ยิ่งลักษณ์” จะสั่นคลอน เสถียรภาพ ของรัฐบาลและคสช.หรือไม่ โดยเฉพาะหน่วยงานความมั่นคงที่มีหูตาเป็นสับปะรด แต่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น หรือจะต้องมีใครรับผิดชอบ !!??

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ