คอลัมนิสต์

4 คำถาม กับความในใจ "บิ๊กตู่"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลัง "บิ๊กตู่" ตั้ง 4 คำถาม ดูเหมือนเขาจะโดนถล่มจากทุกสารทิศ "บิ๊กตู่" คิดอะไร ทำไมต้องตั้งคำถามนี้ออกมา?

 

              ไม่ว่าจะด้วยเจตนาอะไร ตั้งใจจะสื่อสารแบบนั้นจริงๆ หรือต้องการ “โยนหินถามทาง” แต่ดูเหมือนการตั้งคำถาม 4 ข้อ ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่เป็นประโยชน์กับตัวเอง

               การตั้งคำถาม 4 ข้อของ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งทำให้ข้อสงสัยในตัวเขามีมากขึ้น  

               หากไล่เรียงสถานการณ์ก่อนจะนำมาซึ่งคำถาม 4 ข้อนี้ จะเป็นดังนี้

              22 พ.ค. วันครบรอบ 3 ปีการยึดอำนาจของ คสช.  เกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ถึงแม้จะมีการตั้งประเด็นว่าน่าจะเป็นการวางระเบิดเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล คสช. โดยนอกจากจะเลือกวางระเบิดในวันสำคัญของ คสช.แล้ว ยังเลือกทำที่โรงพยาบาลทหาร และหน้าห้อง “วงษ์สุวรรณ” ชื่อเดียวกับนามสกุลรองนายกฯด้านความมั่นคง คือ พล.อ.ประวิตร 

              แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการตั้งคำถามว่า “ทำเอง เพื่อเป็นข้ออ้างอยู่ในอำนาจต่อไปหรือไม่?”

               23 พ.ค. นายกฯให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องระเบิด ซึ่งโยงไปถึงเรื่องการเลือกตั้ง โดยบอกว่า “ระยะเวลาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างก็ยังเป็นไปตามนั้นทุกอย่าง เว้นแต่บ้านเมืองไม่สงบสุข” ซึ่งคีย์เวิร์ดน่าจะอยู่ที่ “เว้นแต่บ้านเมืองไม่สงบสุข”   

              คำพูดดังกล่าวของนายกฯ ทำให้นักการเมืองจากค่ายหลักๆ ออกมาประสานเสียงแสดงความไม่เห็นด้วยกับท่าทีของนายกฯ ที่เหมือนพูดเปิดทางให้มีการเลื่อนเลือกตั้งออกไป โดยเรียกร้องให้การเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมพ

              แน่นอน นายกฯคงไม่แฮปปี้กับเสียงของ “นักการเมือง” ที่ออกมา 

              25 พ.ค. ในรายการ  “ศาสตร์พระราชา”  รายการประจำสัปดาห์ของนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากคำถาม 4 ข้อถึงประชาชน ปรากฏว่าในวันรุ่งขึ้น นักการเมืองดาหน้ากันออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการตั้งคำถามดังกล่าว และถามกลับว่านายกฯต้องการจะบอกอะไร ต้องการสืบทอดอำนาจหรือไม่  ซึ่งแน่นอนนายกฯไม่ปลื้ม

4 คำถาม กับความในใจ "บิ๊กตู่"

              ในเช้าวันอาทิตย์ (28 พ.ค.) นายกฯจึงส่ง  พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ออกมาสื่อสารเรื่องคำถาม 4 ข้ออีกครั้ง

              “นายกฯ มุ่งหวังให้ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของบ้านเมือง และนำความคิดเห็นที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ เพราะที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินแต่ความเห็นของนักการเมือง นักวิชาการ หรือจากผลสำรวจของโพลล์ต่างๆ เท่านั้น ดังนั้นครั้งนี้จะเป็นการรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่อีกทางหนึ่ง ที่จะสะท้อน กลับมายังรัฐบาลและนักการเมืองว่า อะไรคือความต้องการที่แท้จริงของประชาชน

               นายกฯ ต้องการเตือนสติคนไทยว่า พี่น้องประชาชนต้องมีศักดิ์ศรีของตัวเอง โดยการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ มีคุณค่าต่อประเทศชาติ ไม่ยอมให้ใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดออกมาชักจูง ปลุกปั่น บิดเบือน หรือให้ความหวังแบบที่เคยทำก่อนการเลือกตั้งทุกครั้ง" โฆษกรัฐบาลสื่อสารแทนนายกฯ  

              คราวนี้ฝ่ายการเมืองรุมถล่มนายกฯหนักกว่าเดิม และน่าจะถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายการเมืองจากพรรคหลักๆ  ประสานเสียงในทางเดียวกันและใช้ถ้อยคำที่ดุเดือดกับ “หัวหน้า คสช.” ชนิดที่คาดไม่ถึง โดยเฉพาะจากพรรคประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา   

              “ดูจากคำถามแล้วรู้สึกว่านายกฯจะวิตกกังวลว่ารัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะไม่มีธรรมาภิบาล นายกฯไม่ควรวิตกกังวล ควรปล่อยให้ประชาชนกำหนดอนาคตของตัวเอง ไม่ควรมีใครทำตัวเป็นคุณพ่อรู้ดีชี้นำประชาชน ถ้าได้รัฐบาลไม่เหมาะสมก็มีกลไกต่างๆมากมายที่ท่านมีส่วนกำหนดขึ้นจัดการได้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ อย่าถือเอาอำนาจที่มีอยู่ในปัจจุบันไปวิตกกังวลหรือตัดสินใจแทนประชาชนล่วงหน้า... ทำให้ถูกมองได้ว่าทำการสร้างกระแสเพื่อให้มีเงื่อนไขในการสืบทอดอำนาจ” คำพูดของ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

              ขณะที่นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า “หากพล.อ.ประยุทธ์ และพล.ท.สรรเสริญ เป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย คำถาม 4 ข้อนี้จะไม่เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด...อย่าประเมินประชาชนต่ำเกินไป ต้องให้เกียรติและรับฟังเสียงประชาชนบ้าง...นักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชน ไม่มีใครรักชาติ มากน้อยไปกว่ากัน นอกจากความรู้สึกเท่านั้นที่ท่านอาจจะรักชาติมากกว่าทุกคน

              นอกจากฝ่ายการมืองที่ออกมาใช้คำพูดแรงๆใส่นายกฯประยุทธ์แล้ว ยังมีประชาชนโดยเฉพาะในโลกออนไลน์แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวาง

              “คมชัดลึกออนไลน์” ได้เปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเข้ามา ปรากฏว่าในความเห็นที่มีเข้ามามากกว่า 300 คน ส่วนใหญ่แสดงความไม่เห็นด้วย มีเพียงไม่กี่คนที่เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่บริหารประเทศยาวไปเลย โดยบางคนที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ยังเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งพรรคการเมือง ลงเลือกตั้ง (อ่านต่อ..."ลุงตู่" ฟังทางนี้ !! "ประชาชน" ตอบ 4 คำถาม )

              ล่าสุดวันนี้ (29 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ พูดตอนหนึ่งในการปาฐกถาเรื่องเศรษฐกิจว่า “ผมไม่เคยพูดสักคำว่าจะไม่เลือกตั้ง แล้วนักการเมืองตีความอย่างนั้นทำไม หลายคนที่ออกมาพูดวันนี้สร้างความเสียหาย วันหน้าถ้าเกิดปัญหาขึ้นอีกจะเรียกใคร ประยุทธ์ไม่อยู่แล้วจะเรียกใคร” 

              นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเปิดประเด็นให้สัมภาษณ์นักข่าวในเรื่องนี้เองอีก 2 รอบ ซึ่งนักข่าวตั้งข้อสังเกตว่าผิดปกติ แสดงว่านายกฯน่าจะต้องการสื่อสารเรื่องนี้ออกไปจริงๆ โดยนายกฯย้ำว่าไม่สนใจที่นักการเมืองตอบโต้มา แถมบอกว่าจะหยุดพูด 2-3 สัปดาห์

              นี่คือสถานการณ์ตอนนี้ ซึ่งก็ยังไม่ชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะรู้สึกว่าตัวเองเพลี่ยงพล้ำไปหรือไม่

              อย่างไรก็ตาม หากจับอาการของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ว่า เขาย้ำเรื่องรัฐบาลหลังเลือกตั้งมาตลอดว่า ห่วงว่าจะได้ “คนไม่ดี” เข้ามา เมื่อมาบวกกับ 4 คำถามล่าสุดจึงยิ่งตอกย้ำความคิดเดิม ขณะเดียวกัน จากสิ่งที่ “บิ๊กตู่” ตอกย้ำนี้ก็ทำให้ถูกมองว่าเขากำลังตั้งแง่ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งหรือไม่

              ถามว่า ทำไม “บิ๊กตู่” จะต้องไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง เพราะหากดูตามกลไกที่วางเอาไว้ “บิ๊กตู่” ก็สามารถกลับมาเป็นนายกฯตามรัฐธรรมนูญได้อีกครั้งอยู่แล้ว??

              ก็ต้องตอบว่า ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะดูจากสถานการณ์ของรัฐบาลที่คะแนนนิยมอยู่ในช่วงขาลง การจะได้รับเลือกให้มาเป็น “นายกฯคนนอก” คงไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบแน่ โดยเฉพาะหากฝ่ายการเมือง “จับมือ” กันไม่ยอม

              นอกจากนี้ก็ต้องไม่ลืมว่า หาก "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯหลังเลือกตั้ง เขาจะเป็นนายกฯ "ธรรมดา" ไม่ได้มีมาตรา 44 เป็นอำนาจพิเศษเหมือนปัจจุบัน เขาจะต้องถูกอภิปราย ถูกตรวจสอบตามกลไกรัฐสภา 

              กระแสข่าวมีขัดแย้งในพรรคประชาธิปัตย์ระหว่างปีกของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯหลังเลือกตั้ง กับอีกปีกที่นำโดยนายชวน หลีกภัย ที่ยังชู “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” รวมทั้งข่าวที่ปีก กกปส.จะกลับเข้า(ยึด)พรรค

              และล่าสุดที่ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส.ออกมาพูดยืนยันในการเรียกร้อง คือ ขอให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง 

              จับตาว่าเหล่านี้จะเป็นคนละเรื่องเดียวกันหรือไม่...!!             

 

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

จับอาการ "นักการเมือง" แข็งข้อ "บิ๊กตู่" !!??

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ