ข่าว

รมว.ยุติธรรม ไฟเขียวตั้งสถานพินิจฯ เอกชน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รมว.ยุติธรรม ไฟเขียวตั้งสถานพินิจฯ เอกชน รอความพร้อมของระบบงบประมาณ ขณะที่ 60 ภาคีภาคประชาชนยื่นหนังสือเปิดผนึกยกระดับบ้านกาญจนาภิเษก เป็นศูนย์ฝึกเอกชนแห่งแรก

 

          กระทรวงยุติธรรม - 19 ธ.ค.61-รมว.ยุติธรรม ไฟเขียวตั้งสถานพินิจฯ เอกชน รอความพร้อมของระบบงบประมาณ ขณะที่ 60 ภาคีภาคประชาชนยื่นหนังสือเปิดผนึกยกระดับบ้านกาญจนาภิเษก เป็นศูนย์ฝึกเอกชนแห่งแรก อ้างงานวิจัยพบพฤติกรรมเด็กเปลี่ยนแปลง อัตราทำความผิดซ้ำต่ำกว่าร้อยละ 5 

          นายอรุณฉัตร คุรุวาณิชย์ นักวิชาการอิสระ ซึ่งทำการศึกษาวิจัยศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก พร้อมด้วย นายอัครพงษ์ บุญมี อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกฯบ้านกาญจนาภิเษก และตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน นักรณรงค์ขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อลดปัญหาทางสังคม และปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน กว่า 30 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผ่านนายธวัชชัย  ไทยเขียว  รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรม ออกกฎกระทรวงยกระดับให้ศูนย์ฝึกและอบรมบ้านกาญจนาภิเษก เป็นศูนย์ฝึกเอกชนแห่งแรกที่เป็นสถานบำบัด ฟื้นฟู โดยเครือข่ายฯ ได้มอบงานวิจัยล่าสุด และรายชื่อ 60 องค์กรภาคประชาชนที่ร่วมสนับสนุน เพื่อยืนยันถึงประสิทธิผลในการทำงานของศูนย์ฝึกฯบ้านกาญจนาภิเษก       

   

       รมว.ยุติธรรม ไฟเขียวตั้งสถานพินิจฯ เอกชน

        นายอรุณฉัตร กล่าวว่า บ้านกาญจนาภิเษก มีกระบวนการออกแบบค่อนข้างแตกต่างจากสถานพินิจแห่งอื่น สร้างผลลัพธ์เชิงประจักษ์ได้รับการยอมรับทั้งมิติการบริหารงาน และกระบวนการในการฟื้นฟู เยียวยา เด็กและเยาวชนผู้ก้าวพลาดให้กลายเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม สะท้อนจากงานวิจัยประเมินผลต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนผู้เคยกระทำความผิดที่ผ่านกระบวนการวิชาชีวิต โดยกลุ่มตัวอย่างที่ผ่านกระบวนการฯ ตั้งแต่ 6เดือน–7 ปี กว่าร้อยละ 84 มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปทั้งต่อตัวเองและสังคม คือ สามารถควบคุมตนเองซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนที่ยังไม่ได้เข้ามาอยู่ที่บ้านกาญจนาภิเษกอย่างสิ้นเชิง  และข้อมูลจากสถิติพบว่า เด็กและเยาวชนที่ผ่านกระบวนการของบ้านกาญจนาภิเษกในช่วงพ.ศ.2556-2560 มีอัตราการกระทำความผิดซ้ำต่ำกว่าร้อยละ 5 ขณะที่ค่าเฉลี่ยของกรมพินิจฯ อยู่ที่ มากกว่าร้อยละ15

รมว.ยุติธรรม ไฟเขียวตั้งสถานพินิจฯ เอกชน

        นายอรุณฉัตร กล่าวอีกว่า ตั้งแต่มีพ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวฯ จนถึงปัจจุบัน นับรวมเวลากว่า 8 ปี การออกกฎหมายลูกเพื่อรองรับการดำเนินงาน ยังมีความล่าช้า ทำให้การบริหารงานของศูนย์ฝึกบ้านกาญจนาภิเษก ยังคงเป็นการดำเนินงานในรูปแบบโครงการนำร่อง ด้วยเหตุนี้เครือข่าย 60 องค์กรภาคประชาชน และบุคคล ขอสนับสนุนให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการเพื่อออกกฎกระทรวงรองรับการดำเนินการของ ศูนย์ฝึกบ้านกาญจนาภิเษก เป็นศูนย์ฝึกเอกชนแห่งแรก ซึ่งยังอยู่ในบริบทรัฐอุดหนุนตามสัดส่วนทางการเงิน และทางเลือกอื่นในอนาคต โดยมีเนื้อหาในกฎกระทรวงที่สามารถคงไว้ซึ่งจุดแข็งในการทำงานที่เกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์ของบ้านกาญจนาภิเษก ซึ่งการเปิดช่องทางกฎหมายนี้ ถือเป็นความก้าวหน้าด้านการบริหารงานของรัฐที่เปิดโอกาสให้ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน ได้เข้ามามีส่วนร่วม

        ด้านนายอัครพงษ์  บุญมี อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกบ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า ตนเองเป็นรุ่นที่ 5 ที่เคยเข้ามาใช้ชีวิตเรียนรู้ในบ้านกาญจนาภิเษก สัมผัสได้ว่าระบบรูปแบบวิธีคิดต่างจากสถานพินิจอื่นๆ โดยบ้านกาญจนาภิเษกเข้าใจเด็ก ให้ความเท่าเทียมกัน และเชื่อมั่นว่าคนเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีได้ ทำให้เด็กเห็นคุณค่าในตัวเองซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ รวมถึงให้อิสระทางความคิด มีมุมมองกว้างขึ้น รอบคอบขึ้น และสอนให้เรานำผลพวงจากอดีตที่เคยพลาดพลังมาเป็นบทเรียนมองเห็นชีวิตและคุณค่าในตัวเอง เห็นถึงความรักจากพ่อแม่คนรอบข้าง และจะไม่กลับไปทำผิดซ้ำ  นอกจากการเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วที่นี่สอนให้เราสนใจปัญหาสังคม ช่วยเหลือคนรอบข้าง

  รมว.ยุติธรรม ไฟเขียวตั้งสถานพินิจฯ เอกชน

       ด้านนายธวัชชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้นำเสนอต่อพล.อ.อ.ประจินแล้ว โดยกระทรวงยุติธรรมมีนโยบายที่ชัดเจนที่ผลักดันให้มีสถานแรกรับและฝึกอบรมเอกชน หากสามารถตั้งได้จะทำให้สถานพินิจในภาครัฐตื่นตัวขึ้น ซึ่งขณะนี้กฎกระทรวงเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การขออนุญาตตั้งสถานแรกรับและฝึกอบรมของเอกชนได้ร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงระเบียบกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ที่อยู่ระหว่างการหารือตรวจสอบกับกฤษฎีกา เป้าหมายเดิมจะทำให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ แต่ขึ้นอยู่กับเรื่องงบประมาณที่กระทรวงการคลังจะอนุมัติด้วย

       นายอภิชาต จารุศิริ รองอธิบดีกรมพินิจฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมพินิจฯ ได้ร่างระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานแรกรับและศูนย์ฝึกของเอกชน โดยแยกเป็นขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ขึ้นอยู่กับขนาดของสถานที่และจำนวนเด็ก และอาจจะเปิดเป็นสถานศึกษาเอกชน มีโรงเรียน มีสถานบำบัดทางจิต และศูนย์ฝึกอาชีพ นอกจากนี้ มีแนวคิดที่จะให้มีศูนย์ฝึกกระจายทุกๆ จังหวัด เช่น พะเยา ตาก สตูล สงขลา ซึ่งร่างระเบียบกรมพินิจฯ ยังเนื้อหามีรายละเอียดจำนวนมาก แต่จะเร่งรัดเพื่อให้สามารถใช้ได้ภายในเดือนม.ค.62 จากนั้นจะเปิดให้เอกชนยื่นคำร้องขอจัดตั้งสถานแรกรับและศูนย์ฝึกต่อไปอย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนอยู่ในความดูแลของกรมพินิจฯ ประมาณ 7,000 คน โดยกระจายอยู่ในศูนย์ฝึกอบรม 3,000 คน ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง หากมีสถานพินิจเอกชนเพิ่มจะช่วยแบ่งเบา ทำให้เด็กไม่ต้องแออัดอยู่ในสถานพินิจฯ ของรัฐ และเด็กมีโอกาสได้เรียนหนังสือ ปรับปรุงพฤติกรรม

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ