ข่าว

"บิ๊กป้อม" ลั่น 3 เดือนกวาดล้างยาเสพติดทั่วประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กป้อม" เอาจริง 3 เดือน กวาดล้างยาเสพติดทั้งระบบ ทั่วประเทศ ระบุผลการปฏิบัติการถือเป็นดัชนีชี้วัดการทำงานหัวหน้าส่วนราชการทุกระดับ

 

          เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2561 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติดทั้งระบบ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติตามนโยบายของรัฐบาล  

 

          ทั้งนี้ สถานการณ์ยาเสพติดปัจจุบัน โดยสรุปในภาพรวม ยังคงมีสารเคมีภัณฑ์ ลำเลียงเข้าแหล่งผลิตนอกประเทศติดพื้นที่ชายแดน เมียนม่า - จีน และ เมียนม่า - ไทย อย่างต่อเนื่อง โดยไทยยังเป็นตลาดยาบ้าที่สำคัญ สำหรับยาไอซ์ เฮโรอีนและกัญชา ถูกลำเลียงผ่านไทยส่งผ่านประเทศที่สาม ซึ่งเส้นทางลำเลียงเข้าหลักยังเป็นพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยปี 61 (ต.ค. 60 - ก.ย.61) สามารถจับยาบ้า ได้ถึง 350 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 18.5 ตัน เฮโรอีน 900 กก.และ กัญชา 32 ตัน โดยสถิติผู้เสพและผู้บำบัดไม่สูงแบบก้าวกระโดดตามปริมาณการลำเลียงเข้าที่มีมาก สถานการณ์อยู่ในภาวะยาเสพติดล้นตลาด แนวโน้ม เฮโรอีนและคีตามีน มีการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กและเยาวชนมากขึ้น

 

          พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ที่ประชุมกำหนดแผนบูรณาการขับเคลื่อนแก้ปัญหาร่วมกันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ใน  3 เดือน โดยจะเร่งความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน กวาดล้างแหล่งผลิต แหล่งพักยา และขบวนการค้ายาเสพติดนอกประเทศ และปฏิบัติการกดดันทุกรูปแบบมุ่งต่อชุมชนชายแดนที่เป็นแหล่งนำเข้า พักยา ในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน รวมทั้งพื้นที่หมู่บ้านชุมชนแพร่ระบาดรุนแรง 2,038 หมู่บ้าน และชุมชนเมืองใหญ่ พร้อมทั้ง บูรณาการแผนลดระดับปัญหายาเสพติด จำนวน 1,000 ตำบล ควบคู่กับการลดผลกระทบที่เกิดจากอาชญากรรมยาเสพติดโดยมีการนำผู้เสพที่มีอาการทางจิตเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู โดย พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงยุติธรรม แสวงความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการทำลายแหล่งผลิตและแหล่งพักยา  และให้ สขช. ปปส.และ ปปง. เชื่อมโยงข้อมูลด้านการข่าว เครือข่ายขบวนการทั้งระบบ โดยพื้นที่ชายแดน ได้มอบให้กองกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ สกัดกั้นเข้มข้น หยุดการลำเลียงสารเคมีภัณฑ์และยาเสพติดให้ได้  

 

          พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ชั้นใน ได้มอบให้กระทรวงมหาดไทย ขับเคลื่อนกลไก ฝ่ายปกครองระดับจังหวัด อำเภอ รวมทั้งกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ต้องเข้ามามีส่วนร่วมเสริมสร้างความเข้มแข็งและเปิดพื้นที่ชุมชนสีขาวให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมทั้งมอบให้ ตร. ในทุกกองกำกับการ ต้องสำรวจ และเปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายผู้ผลิต ผู้ค้าและผู้เสพในพื้นที่ ที่ตามมาด้วยอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแหล่งชุมชนและสถานบันเทิง  และให้ประสาน ปปง. ถึงความเชื่อมโยงและบังคับใช้กฎหมายทำลายเครือข่ายทั้งหมดไม่มีละเว้น

 

          สำหรับกระทรวงศึกษาธิการขอให้ผู้บริหารให้ความสำคัญดูแลโรงเรียนและสถาบันการศึกษาให้ปลอดยาเสพติดให้ได้ หากไม่สามารถให้ขอการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ พร้อมท้ังได้กำชับโรงงานให้ความสำคัญ จัดให้มีระบบตรวจสอบเฝ้าระวัง ป้องกัน การใช้ยาเสพติดในกลุ่มแรงงานให้ครอบคลุมและเป็นผล โดย ขอให้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมดูแลขับเคลื่อนประสิทธิภาพกระบวนการบำบัดฟื้นฟู ผู้เสพ ผู้ป่วย เพื่อมิให้กลับไปเป็นปัญหาอีก

 

          "พล.อ.ประวิตร ได้ขอให้ กอ.รมน. เป็นกลไกกำกับดูแล และสนับสนุนทุกส่วนราชการในการขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติดร่วมกันในภาพรวม ควบคู่กับแต่งตั้งอนุกรรมการขับเคลื่อนบูรณาการแก้ปัญหายาเสพติด โดยมีรมช.กห.เป็นประธาน ให้มีการประชุมติดตามผลและรายงาน นรม.ทุกเดือน พร้อมทั้งกำชับโดยทั่วกันว่า ต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งย้ำถึงผลการปฏิบัติการถือเป็นดัชนีชี้วัดการปฏิบัติงานของหัวหน้าส่วนราชการระดับพื้นที่ทุกระดับ และถือเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นจากประชาชนไปพร้อมกัน" พล.ท.คงชีพ กล่าว.



     

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ