"ธนาธร" เรียกร้องคนรุ่นใหม่ลุกทวงสิทธิ์กำหนดอนาคตของตัวเอง "พริษฐ์" จัดหนัก ทวงปฏิทินเลือกตั้ง ส่วน "วราวุธ" ย้ำ ชาติไทยพัฒนา เตรียมปรับโฉม ให้คนรุ่นใหม่นำพรรค
จุฬาฯ- 18 ส.ค.61-เสวนาการเมืองกับคนรุ่นใหม่ เรียกร้องคนรุ่นใหม่ลุกทวงสิทธิ์กำหนดอนาคตของตัวเอง "พริษฐ์" จัดหนัก ทวงปฏิทินเลือกตั้ง ขจัดเผด็จการ ผ่านฝ่ายประชาธิปไตย ชนะเลือกตั้ง - แก้รธน. ตัดสิทธิ์ ส.ว. ร่วมโหวตนายกฯ ย้ำอนาคต "ปชป." มีสิทธิ์ชนะเลือกตั้ง หากปรับใหม่ ด้าน "ธนาธร" เรียกร้องพลังคนรุ่นใหม่ทวงสิทธิกำหนดอนาคตตัวเอง "ขัตติยา" ชวนทุกพรรคร่วมมือ เดินหน้าเลือกตั้งที่สุจริต จี้บางฝ่ายยุติใช้วิธีสกปรกกำจัดคู่แข่งการเมือง ส่วน "วราวุธ" ย้ำ ชาติไทยพัฒนา เตรียมปรับโฉม ให้คนรุ่นใหม่นำพรรค
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเสวนาวิชาการ เรื่อง การเมืองกับคนรุ่นใหม่ เนื่องในวันครบรอบ 70 ปี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ โดยมีตัวแทนของนักการเมือง จาก 5 พรรคการเมืองเข้าร่วมแสดงความเห็นต่อปรากฎการณ์ และทิศทางการเมืองไทย รวมถึงมุมมองของการเมืองกับคนรุ่นใหม่
โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่าการเมืองในอนาคต หรือการสร้างสังคมไทยใหม่ ให้เกิดความเข้มแข็ง ต้องอาศัยร่วมมือระหว่างนักการเมืองรุ่นใหม่ และ นักการเมืองที่มีประสบการณ์ หรือนักการเมืองรุ่นเก่า เพื่อใช้แนวคิดใหม่ วิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ บวกกับ ประสบการณ์ของคนรุ่นเก่าที่มีบทเรียนขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าเพื่อสร้างอนาคตไทยที่มั่นคง อย่างไรก็ตามประเด็นการมีบทบาททางการเมืองของคนรุ่นใหม่ปัจจุบัน มีปัญหาคือถูกผู้ใหญ่บางกลุ่ม จำกัดสิทธิเสรีภาพ ไม่ยอมเปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่แสดงออก ดังนั้นการแก้ปัญหา คือ ผลักดันให้เกิดการเลือกตั้ง เพื่อให้คนรุ่นใหม่มีอนาคตกำหนดทิศทางของตนเอง ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา ได้เปลี่ยนหัวขบวน หัวหน้า รองหัวหน้า เลขาธิการพรรค มีคนรุ่นใหม่ทำงาน ขณะที่ผู้ใหญ่ในพรรคที่มีประสบการณ์ต้องผสมผสานการทำงานร่วมกัน
"การเดินไปข้างหน้าในพรรคชาติไทยพัฒนา คนรุ่นใหม่จะเป็นคนกำหนด แต่ไม่ใช่ผู้ใหญ่ออกคำสั่ง อย่างไรก็ตามคำแนะนำของผู้ใหญ่ในพรรคถือเป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนพรรคไปข้างหน้า หากพรรคมีโอกาสทำงานการเมืองจะเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ทำงานร่วมกัน" นายวราวุธ กล่าว
ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวเรียกร้องไปยังคนรุ่นใหม่ สร้างพื้นที่ และออกมาทวงสิทธิต่อการกำหนดทิศทางและอนาคตของตนเอง รวมถึงผลักดันประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพราะตนมองว่าใน 20 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีการเปลี่ยนผ่านการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ถึง 3 ครั้ง และเยาวชนไม่มีโอกาสกำหนดอนาคตของตนเอง จนล่าสุดอนาคตของคนรุ่นใหม่ ถูกกำหนดผ่านมาตรการและระเบียบของผู้มีอำนาจ ดังนั้นเพื่อให้อนาคตของคนรุ่นใหม่ เป็นของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง คนรุ่นใหม่ต้องแสดงจุดยืน ให้การออกแบบอนาคตไว้ล่วงหน้า โดยคนรุ่นเก่าต้องยุติ
ส่วน น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระแสเรียกร้องการเมืองของคนรุ่นใหม่มีเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ หรือนักการเมืองรุ่นใหม่ที่จะแสดงความเห็น และสะท้อนมุมมองต่อปัญหาและแนวทางแก้ปัญหา ถือเป็นบทบาทสำคัญของคนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตามการทำงานของคนรุ่นใหม่ต้องตั้งอยู่บนเป้าหมายเดียวกัน คือ ให้คนทุกคนมีโอกาสพื้นฐาน เข้าสู่โครงสร้างพื้นฐานและมีความเท่าเทียมกัน
น.ส.ขัตติยา กล่าวด้วยว่าสำหรับการเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้คนรุ่นใหม่ ตนมองว่าหัวใจคือ ต้องมีการเลือกตั้ง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่ เพื่อร่วมเปลี่ยนแปลงสังคม ขณะที่บทบาทของพรรคการเมืองต่อการแก้ปัญหาเรื่องถูกจำกัดสิทธิหรือโอกาสทางการเมือง นั้นตนมองว่าทุกพรรคต้องมีหลักการร่วมกัน คือ ผลักดันให้เกิดการเลือกตั้งที่โปร่งใส ยุติธรรม ไม่ใช่วิธีสกปรก เช่น ยุบพรรค ,แจกใบแดง หรือใช้กฎหมายกลั่นแกล้งคู่แข่งทางการเมือง รวมถึงทุกพรรคต้องร่วมกันแก้ไขส่ิงที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นผลพวงของการรัฐประหาร นอกจากนั้นพรรคการเมืองต้องรักษาพื้นที่ของประชาชน ไม่สถาปนาให้ระบบเผด็จการกลับมาอีก
ส่วน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในมุมมองของบทบาทคนรุ่นใหม่กับการเมืองว่า ต้องโดดเด่นและเสมอภาค เพราะสังคมปัจจุบันเรียกร้องบทบาทของคนรุ่นใหม่ เพราะเชื่อในศักยภาพ, มุมมองใหม่ และวิธีแก้ปัญหาเก่าด้วยวิธีใหม่ สำหรับการเมืองอนาคตที่หลายฝ่ายมองว่าต้องเป็นของคนรุ่นใหม่ หรือรุ่นเก่านั้น ตนมองว่าในบทบาทต้องทำงานร่วมงาน ไม่อยากให้แยกกัน เพราะอาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่าสำหรับปัญหาหรืออุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมทางการเมือง ตนมองว่าคือความเป็นเผด็จการ ที่ปิดกั้นการแสดงออกทางการเมือง, การจำกัดสิทธิ์สมัครเป็นสมาชิกพรรค ดังนั้นต้องปลดล็อคเรื่องดังกล่าว ทั้ง การเลือกตั้ง ที่ฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยต้องชนะการเลือกตั้ง และการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย อาทิ ประเด็นที่ให้ ส.ว. ที่ไม่ผ่านการเลือกตั้งได้สิทธิ์เลือกนายกฯ
"การเตรียมตัวของคนรุ่นใหม่ต่อบทบาททางการเมือง คือ การให้ความรู้กับเยาวชน ผ่านโครงการอบรมจากพรรคการเมือง นอกจากนั้นพรรคการเมืองต้องมีวัฒนธรรมให้โอกาสคนรุ่นใหม่ต่องานการเมือง หากเชื่อว่าระบอบประชาธิปไตยให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่ ต้องเชื่อในพรรคที่สนับสนุน ผมมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์หลังการปลดล็อคทางการเมืองจะให้สมาชิกพรรคโหวตเลือกหัวหน้าพรรคผ่านระบบออนไลน์ได้" นายพริษฐ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายของเวทีเสวนา มีคำถามถึงพรรคประชาธิปัตย์ต่อการแพ้เลือกตั้ง โดยนายพริษฐ์ กล่าวว่า ระยะ 20 ปี ตนยังไม่เคยเห็นพรรคประชาธิปัตยชนะเลือกตั้งเช่นกัน แต่แม้ไม่ชนะเลือกตั้ง แต่พรรคประชาธิปัตย์ในบทบาทฝ่ายค้านมีความสำคัญต่อการถ่วงดุลระบบรัฐสภา
"พรรคประชาธิปัตย์ไม่ชนะเลือกตั้ง อาจเป็นเพราะนโยบายยังไม่โดนใจ แต่ผมเชื่อว่าหลังจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องปรับ ให้เป็นพรรคยุคใหม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะการยืนฝ่ายประชาธิปไตยและมาเป็นรัฐบาลผ่านการเลือกตั้งเท่านั้น ขณะที่การตอบโจทย์ของประชาชน ต้องเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในพรรคการเมือง มีหัวหน้าพรรคที่ประชาชนเลือก สุดท้ายพรรคใดจะชนะเลือกตั้งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนโยบายที่โดนใจ ขณะที่จุดยืนส่วนตัวของผม ยืนยันว่าจะไม่ยกมือให้นายกฯ คนนอกเด็ดขาด" นายพริษฐ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง