ข่าว

ลูกหนี้ ร้อง "ธุรกิจลิสซิ่ง" โขกดอกเบี้ยโหด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ลูกหนี้แห่ร้อง ตร. ฟัน! "ธุรกิจลิสซิ่ง" โขกดอกเบี้ยโหดเกินกฎหมายกำหนด คาดมีคนตกเป็นเหยื่อเดือดร้อนเพียบ

 

          17 ก.ค. 61 - นายศุภวุฒิ อยู่วัฒนา ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของกลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ลูกหนี้ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีลูกหนี้สินเชื่อจำนวนมาก ได้ทยอยเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายท้องที่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจลิสซิ่ง ในข้อหาคิดอัตราจากดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

 

         โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ได้มีบันทึกข้อความไปยังผู้กำกับ สภ.บางกรวย เพื่อแจ้งความคืบหน้ากรณี สภ.บางกรวย ทำหนังสือลงวันที่ 28 มิ.ย. 2561 เพื่อขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ให้ส่งหมายเรียกไปยังกรรมการ บริษัทดังกล่าว และพนักงานสาขารวม 7 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดส่งหมายเรียกดังกล่าวไปยังบริษัทเรียบร้อยแล้ว โดยมีฝ่ายกฎหมายของบริษัทเป็นผู้รับหมายเรียกไว้แทน มีกำหนดให้ผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวยในวันที่ 20 ก.ค. นี้  

 

ลูกหนี้ ร้อง \"ธุรกิจลิสซิ่ง\" โขกดอกเบี้ยโหด

 

          นายศุภวุฒิ กล่าวว่า ทั้งนี้ในบันทึกแจ้งความเอาผิด ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท ดังกล่าว ไม่ได้เป็นสถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 ที่จะสามารถคิดดอกเบี้ยได้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่เป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับอันเป็นสินเชื่อที่ไม่มีทรัพย์เป็นหลักประกัน ซึ่งสามารถจะเรียกดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียมใดๆ รวมกันไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี และแม้บริษัทจะได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (นาโนไฟแนนซ์) สามารถปล่อยกู้ลูกหนี้รายย่อยได้ไม่เกินรายละ 100,000 บาท และเรียกดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี แต่สินเชื่อดังกล่าวไม่รวมถึงสินเชื่อที่เกิดจากการให้สินเชื่อจำนำรถจักรยานยนต์

 

ลูกหนี้ ร้อง \"ธุรกิจลิสซิ่ง\" โขกดอกเบี้ยโหด

 

          นายศุภวุฒิ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้น การที่บริษัทฯ ดำเนินการปล่อยเงินกู้ยืมเงินให้แก่ลูกหนี้โดยเรียกทรัพย์ค้ำประกันด้วย จึงไม่เข้าเกณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ต้องอยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) ประกอบ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ที่ห้ามมิให้เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดคือร้อยละ 15 ต่อปี โดยผู้กระทำผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน  2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  อย่างไรก็ตาม คาดว่ามีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งที่รู้ตัวและยังไม่รู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเหยื่อ หากผู้เสียหายรายใดต้องการความช่วยเหลือหรือขอคำปรึกษา สามารถติดต่อมายังเพจเฟซบุ๊ค “กลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ลูกหนี้” หรือ Line : @cfpth หรือโทร 02-726-2255


          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ตัวแทนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่งก.พ.) แต่ยังไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจะรวมตัวกันเพื่อไปยื่นหนังสือต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป.

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ