เปิดใจแม่ พนักงานหนุ่ม เสียชีวิตจากเหตุ 'ไฟไหม้ถังสารโซลีน' ภายในท่าเรือมาบตาพุด ระเบิด ขณะขึ้นไปปิดวาล์ว บอกภูมิใจที่ ลูกชายเป็นผู้เสียสละ และทำความดีให้กับครอบครัว
10 พ.ค. 2567 จากเหตุไฟไหม้ถังเก็บสารโซลีน ของบริษัทมาบตาพุดแทงค์ เทอร์มินัล ซึ่งอยู่บริเวณท่าเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เป็นเหตุมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 1 ราย คือ นายนพพร เรือนมา อายุ 34 ปี เป็นพนักงานของบริษัท ที่พยายามขึ้นไปปิดวาล์วบนถัง ก่อนเกิดการระเบิดขึ้น โดยแรงระเบิดทำให้เสียชีวิต ซึ่งวันนี้ภรรยา และครอบครัว ของนายนพพร ได้เดินทางมารับศพเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ต.น้ำเย็น อ.พาน จ.เชียงราย
โดยบรรยากาศที่วัด วัดปูแกง ม.1 ต.แม่เย็น อ.พาน จ.เชียงราย ซึ่งมีการเตรียมสถานที่จัดงานศพ นายนพพร โดยมีนางปั๋น เรือนมา อายุ 67 ปี แม่ของนายนพพร ผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยญาติได้มาจัดเตรียมสถานที่ รอรับร่างของลูกชาย
นางปั๋น เปิดเผยว่า ตนมีมีลูกชาย 2 คน นายนพพร เป็นลูกชายคนเล็ก หลังจากที่ นายนพพร เรียนจบ ได้ตามพี่ชายไปทำงาน ที่ จ.ระยอง เป็นเวลาประมาณ 7-8 ปีแล้ว ปัจจุบันนายนพพร มีลูกชาย 1 คน อายุ 3 ขวบ ซึ่งตนเป็นคนหลานชายอยู่ที่บ้าน โดยนายนพพร ส่งเงินค่าใช้จ่ายมาให้แม่ตลอด ส่วนภรรยาของนายนพพร ทำงานค้าขาย
นางปํ๋น บอกอีกว่า นายนพพร ทำงานโรงงานที่ จ.ระยอง เริ่มเก็บเงิน จนสามารถซื้อบ้านที่ จ.ระยอง และยังกลับมาสร้างบ้านให้แม่ที่ อ.พาน เพื่อให้อยู่ดูแลลูกชายของตนเอง
สำหรับนิสัยส่วนตัวของลูกชาย เป็นคนขยันทำมาหากิน ชอบช่วยเหลือผู้อื่นมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่โรงเรียน หรืองานของหมู่บ้านปูแกง ทำให้เป็นที่รักใคร่ของคนที่ได้สัมผัส และก่อนที่นายนพพร จะเสียชีวิต ก่อนหน้า 1 วัน ได้โอนเงินมาให้นางปั๋น ไว้ดูแลลูกชายตนเอง 8,000 บาท และยังได้คุยเล่นกับลูกชายและนางปั๋นตามปกติ ไม่มีทีท่าจะพูดอะไรเป็นลางสังหรณ์ แต่อย่างใด กระทั่งมีญาติมาเรียกให้ตนไปหาที่บ้าน โดยมีญาติอยู่รวมตัวกันหลายคน สุดท้ายก็บอกให้นางปั๋นทราบ นางปั๋นร้องไห้จะขาดใจ เมื่อทราบลูกชายคนเล็กเสียชีวิต เพราะกำลังจะสร้างเนื้อสร้างตัว
และตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้มีคนขายของที่ตลาดได้มาสอบถาม ว่ารู้จักคนในรูปหรือไม่ เพราะเห็นว่าเป็นคนบ้านปูแกง นางปั๋นถึงกับปล่อยโฮ บอกว่าลูกชายตนเอง
สำหรับ กำหนดการพิธีทางศาสนา ต้องรอให้นำศพมาถึงที่วัดก่อน จึงมีการจะปรึกษากันจะทำการเผาวันไหน ต้องรอปรึกษากันอีกที่ คาดว่าจะนำศพลูกชาย ถึงที่ อ.พาน ในเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 11 พ.ค.
ทั้งนี้นางปั๋น ยังบอกอีกว่า ภาคภูมิใจในตัวลูกที่เป็นผู้เสียสละชีวิต ให้กับคนอื่นและทำความดีให้กับครอบครัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง