ป.ป.ท.ลุยสอบฮุบทุ่งเลี้ยงสัตว์ภูเก็ต ผุดโรงแรม

 

          เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 61 - พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท. ) , นาวาเอกบวร พรมแก้วงาม รอง ผอ.รมน.ภูเก็ต, เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และกอ.รมน. ได้ลงตรวจสอบพื้นที่สงวนเลี้ยงสัตว์ปากบาง ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เนื่องจากมีการร้องเรียนว่านายทุนได้นำพื้นที่ดังกล่าวให้ชาวต่างชาติเช่าเต็มพื้นที่ และมีการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ที่สงวนเลี้ยงสัตว์เกาะโหลน

 

          พ.ท.กรทิพย์ กล่าวว่า เบื้องต้นพบว่าพื้นที่สงวนเลี้ยงสัตว์ปากบาง กระทรวงมหาดไทย ได้ออกประกาศหวงห้ามไว้ลำดับแปลงที่ 14 และนำขึ้นทะเบียนไว้เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2480 เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์เป็นที่เลี้ยงสัตว์ร่วมกันในเนื้อที่ 18-2-46 ไร่ แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการยื่นขอออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ 3 แปลง โดย 1 ในจำนวนนั้น ช่างรังวัดได้รายงานว่าไม่ทับที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งช่างรังวัดคนนี้ เป็นบุคคลเดียวกับคนรังวัดที่ดินเนื้อที่กว่า 200 ไร่ บนเทือกเขากมลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ให้อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

 

 

          ทั้งนี้ สภาพในพื้นที่ปัจจุบันบางส่วนเป็นโรงเรียนประชานุเคราะห์ 36 แต่พื้นที่ส่วนที่เหลือไม่ปรากฏสภาพที่สงวนไว้เป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ พบเพียงโรงแรม 5 แห่ง ร้านค้าและร้านอาหารอีก จำนวน 63 ร้าน ซึ่งร้านอาหารขนาดใหญ่เป็นของรองนายก อบต.คนหนึ่ง และร้านค้าส่วนใหญ่เป็นของชาวต่างชาติ นอกจากนี้ ยังพบว่าได้มีการยื่นขอออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ 3 แปลง แต่ยังไม่สามารถออกโฉนดที่ดินได้

 

 

          เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวอีกว่า ส่วนที่สงวนเลี้ยงสัตว์เกาะโหลน ข้าหลวงประจำจังหวัดได้ประกาศหวงห้ามเมื่อ พ.ศ.2476 ในลำดับแปลงที่ 24 และได้นำขึ้นทะเบียนไว้ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.2493 เพื่อใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ เนื้อที่ 2,500 ไร่ โดยที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะโหลน ซึ่งเป็นป่าคุ้มครองเมื่อปี พ.ศ.2481 และประกาศป่าสงวนเมื่อ 22 พ.ย.2511 แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการออกโฉนดที่ดินจำนวน 4 แปลง และหนังสือรับรองการทำประโยชน์อีก จำนวน 1 แปลง เนื้อที่กว่า 146 ไร่ ซึ่งเอกสารเดิมที่นำยื่นขอออกคือ ส.ค.1 ยื่นเมื่อปี พ.ศ.2498 โดยผู้แจ้ง ส.ค.1 อ้างว่าทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว 13 ปี ก่อนจังหวัดจะประกาศให้เป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ โดยเข้าไปปลูกสวนยางพารา เนื้อที่ 101 ไร่ แต่นำไปออกโฉนด 136 ไร่ และออก น.ส.3 ก. เนื้อที่ 10 ไร่ ซึ่งเป็นการแจ้งภายหลังการประกาศหวงห้ามเป็นที่สาธารณประโยชน์เมื่อปี พ.ศ.2476 อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบทางกายภาพพบว่าที่สงวนเลี้ยงสัตว์เกาะโหลนยังมีสภาพเป็นเกาะสมบูรณ์ ดังนั้น ป.ป.ท.เขต 8 จึงต้องตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง เพื่อพิสูจน์เปรียบเทียบว่ามีการทำประโยชน์จริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่

 

 

          พ.ท.กรทิพย์ เปิดเผยอีกว่า หลังการตรวจสอบที่สงวนเลี้ยงสัตว์ทั้ง 2 แห่ง ปรากฏว่ามีชาวบ้านมายื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบการตัดถนนผ่านป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขากมลา ซึ่งเป็นงบประมาณของ อบต.กมลา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ เมื่อลงพื้นที่ไปตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าวพบว่า กำลังมีการปรับหน้าดิน เตรียมการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 40 ไร่ จึงได้ดำเนินการตรวจวัดความสูงจากระดับน้ำทะเลด้วยเครื่องจีพีเอส พบว่าสูงกว่าระดับน้ำ 108 เมตร ซึ่งตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กําหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ.2560 พื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเกินกว่า 80 เมตรขึ้นไป ห้ามไม่ให้ก่อสร้างอาคารใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น จะต้องตรวจสอบว่าหน่วยงานใดเป็นผู้อนุญาตให้ก่อสร้าง และได้มีการทำจัดทํารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นหรือรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่ โดยข้อมูลเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีการทำรายงานดังกล่าว ซึ่งเรื่องทั้งหมดจะได้ให้สำนักงาน ป.ป.ท.เขต 8 ตรวจสอบเรื่องนี้ และจะเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อประสานความร่วมมือให้ตรวจสอบทั้ง 3 จุด.