ข่าว

ผบ.ตร.จ่อฟัน 3 ผบก.เซ่น"สงกรานต์"ตายพุ่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผบ.ตร.ลั่นเด้ง 3 ผบก.หย่อนยานปล่อยเกิดอุบัติเหตุ-สูญเสียสูงขึ้นในช่วงสงกรานต์ ลงนามวันนี้ เผย 7 วันตาย 418 ราย เพิ่มจากปีก่อน 28 ศพ ยึดรถกว่า 1.6 หมื่นคัน

     เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2561-ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย เป็นประธานแถลงผลสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 โดยกล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 17 เมษายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 26 ราย ผู้บาดเจ็บ 336 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วัน 11–17 เมษายน เกิดอุบัติเหตุ 3,724 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 418 ราย บาดเจ็บ 3,897 คน เพิ่มจากสถิติช่วง 7 วันสงกรานต์ปี 2560 ที่มีผู้เสียชีวิต 390 ราย จำนวน 28 ราย ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือตายเป็นศูนย์มี 4 จังหวัด ได้แก่ ระนอง สมุทรสงคราม หนองคาย และหนองบัวลำภู 

ผบ.ตร.จ่อฟัน 3 ผบก.เซ่น\"สงกรานต์\"ตายพุ่ง

 

     สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 133 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 20 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 142 คน สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับร้อยละ 40.28 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 26.50 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.85 รถปิกอัพ 7.17

     ด้านพ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. กล่าวว่า สถิติในภาพรวม 7 วัน วันที่ 11-17 เมษายน ที่ผ่านมา ตรวจพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ทั้งสิ้น 490,512 ครั้ง แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 280,631 ครั้ง รถโดยสารสาธารณะ รถยนต์ส่วนบุคคล 209,881 ครั้ง ซึ่งลดลงจากสถิติผู้กระทำผิดในปี 2560 ประมาณร้อยละ 38 สำหรับการยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับในปี 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 16,288 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 11,768 คัน และรถยนต์ 4,520 คัน ซึ่งสถิติการยึดรถเพิ่มขึ้นคิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ (2560 ยึดรถรวม 8,128 คัน) ในส่วนของการดำเนินคดีผู้กระทำผิดในปีนี้มีทั้งหมด 310,299 คน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 196,613 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล 113,686 คน เป็นสถิติที่ลดลงจากปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 35 

 

      อย่างไรก็ตามการยึดรถจากมาตรการดังกล่าวส่วนใหญ่เกิดขึ้นในวันที่ 12-15 เมษายน เป็นช่วงเวลาที่มีการจัดงานหรือกิจกรรมเล่นน้ำ ขณะที่การเดินทางไปกลับของประชาชนบนถนนสายหลักตรวจพบการดื่มแล้วขับในจำนวนที่น้อยกว่า สำหรับมาตรการที่คสช.ดำเนินการมาเวลา 4 ปีได้รับเสียงสะท้อนในทางบวกจากประชาชนและจะนำสถิติข้อมูลไปวิเคราะห์และปรับการทำงานเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด

 

ผบ.ตร.จ่อฟัน 3 ผบก.เซ่น\"สงกรานต์\"ตายพุ่ง

 

     ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า จากการสรุปพบว่ามีบางจังหวัดที่การอำนวยการจราจรของตำรวจยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ผลลัพธ์ออกมาเกิดการสูญเสียมาก ทั้งนี้กำลังพิจารณาดูในภาพรวมทั้งหมดอีกครั้ง โดยในวันที่ 19 เมษายน จะออกคำสั่งให้ผู้บังคับการตำรวจภูธร 3 จังหวัดไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

     "เป็นการพิจารณาในภาพรวมทั้งเรื่องอุบัติเหตุ การสูญเสีย การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งผมเป็นคนแบบนี้หากมีเจ้าหน้าที่รายใดหย่อนยานหรือปล่อยปละละเลยก็ต้องดำเนินการ สาเหตุที่ต้องสั่งย้ายผบก.เพราะถือว่าเป็นหัวหน้าหน่วย ต้องดูแลจัดการในพื้นที่ แต่กลับเกิดความบกพร่อง สาเหตุปัญหาจราจรมาจากการปฏิบัติงานของตำรวจ ผมจะยังไม่บอกว่าจังหวัดไหน ให้รอดูคำสั่ง ผมเอาจริง ต้องมา ศปก.ตร.แน่ เรื่องนี้รัฐบาล และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเอาจริง ผมเป็นคนแบบนี้ สั่งการไปแล้ว แต่ไม่สนองตอบ หย่อนยานละเลย ก็ต้องจัดการ ชีวิตประชาชนสำคัญ ผมเองยังไปตรวจจราจรไปดูพื้นที่ 3 จังหวัด จัดรถตู้บริการประชาชน ซึ่งสาเหตุที่ย้ายไม่ใช่เรื่องความพอใจหรือไม่พอใจของผม จะพอใจหรือไม่อยู่ที่ประชาชน” ผบ.ตร.กล่าว

     พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ในการประชุมวันนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการในที่ประชุมให้ตำรวจไปคิดออกมาตรการดูแลกวดขันวินัยจราจรเพื่อป้องกันอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่อง ทำตลอด ไม่เฉพาะแค่ช่วงเทศกาล เพราะรัฐบาลเห็นว่าการสูญเสียจำนวนมากต้องป้องกันแก้ไข ขอให้ประชาชนเข้าใจด้วยตำรวจไม่ได้อยากจับไม่อยากตั้งด่าน แต่ต้องทำเพื่อป้องกันการสูญเสีย ดังนั้นต่อไปนี้จะกวดขันกันมากขึ้นและจะเรียกประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องของตำรวจเพื่อร่วมกันวางมาตรการและคุยทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ร่วมกันวางมาตรการป้องกันเหตุ ในส่วนของตำรวจก็ให้แต่ละบช.ภ.และแต่ละพื้นที่เสนอรูปแบบการป้องกันเพราะสภาพพื้นที่และปัจจัยต่างๆ ไม่เหมือนกัน

     “ในปีนี้ตำรวจเริ่มกวดขันวินัยจราจรล่วงหน้าก่อนวันที่ 11 เมษายน ก็เชื่อว่าอุบัติเหตุและการสูญเสียจะลดลง แต่ผลออกมากลับเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มาก แค่หลักสิบเท่านั้น ในส่วนของตำรวจเราพยายามเต็มที่เอาบทเรียนครั้งที่ผ่านๆ มา มาปรับ แก้ไข ทำเต็มที่ เพื่อป้องกันเหตุและอำนวยการจราจรให้สะดวก แต่ต้องขึ้นอยู่ที่วินัยส่วนตัวของผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นสำคัญ ไม่ได้จะโทษหรือโยนความผิดให้ประชาชนที่ไม่เคารพกฎจราจร แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาเกิดจากตรงนั้นจริงๆ สาเหตุการเสียชีวิตมากที่สุดเกิดในกลุ่มที่ขี่จักรยานยนต์ จากนี้จะมีมาตรการกวดขันกันทุกวัน” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวและว่า ในส่วนของตำรวจแต่ละโรงพักก็ดูแลพื้นที่อย่างเต็มความสามารถ อาจมีบ้างบางพื้นที่ที่ละเลย เช่นกรณีที่ จ.กาฬสินธุ์ ก็เป็นอำนาจที่ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ในการจัดการ ตนก็เห็นด้วย เท่าที่ดูทั่วประเทศภาพรวมก็ดี แต่มีเรื่องจราจรที่จะต้องสั่งย้าย ผบก.ภ.จว.แน่ๆ รอดูคำสั่งแล้วกัน

     มีรายงานแจ้งว่า ผบก.ภ.จว.ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กำลังพิจารณาออกคำสั่งโยกย้ายพ้นหน้าที่ประกอบด้วย พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พล.ต.ต.สัณฆ์ โพธิ์รักษา ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ และ พล.ต.ต.ถวาย บูรณรักษ์ ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ โดยเหตุผลในการพิจารณา ผบก.ทั้ง 3 นายนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาผลการลดอุบัติเหตุเชิงสถิติเปรียบเทียบช่วงสงกรานต์ปี 2560 กับ 2561 แบบรายวัน พบว่าตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน ใน 3 จังหวัดดังกล่าวมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นทุกวันต่อเนื่องซึ่งสะท้อนว่าอาจไม่ได้แก้ปัญหาอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ฉบับ นสพ.คมชัดลึก

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ