ข่าว

ทีมสัตวแพทย์สุดยื้อ “ช้างป่า” ล้ม !!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังอยู่ในความดูแลของทีมสัตวแพทย์ ซึ่งพยายามรักษาอาการเบื้องต้นให้ทรงตัวโดยให้ยาแก้ปวด-แก้อักเสบ ล่าสุด ‘ช้างป่า’ ล้มแล้ว

 

               21 ต.ค. 60  เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สถาบันคชบาลแห่งชาติฯ ออป. จ.ลำปาง ความคืบหน้าของช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บขาหลัง 2 ข้าง ภายหลังจากที่ถูกน้ำป่าพัดตกน้ำคลองชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก โดยช่วงเช้าวันนี้ ยังมีอาการทรงตัว มีกองฟางช่วยพยุงน้ำหนักช่วงก้นของช้าง และมีการนำทรายมากองให้ช้างได้พิงตัว รวมถึงมีรถแบ็คโฮคอยพยุงตัวอยู่ภายในคอกธรรมชาติที่ทางทีมสัตวแพทย์ได้จัดพื้นที่ไว้ เพื่อให้คุ้นเคยและไม่เกิดอาการเครียด

               ขณะที่ทางทีมสัตวแพทย์ที่บูรณาการร่วมกันระหว่างสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ ออป. , มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กำลังประชุมวางแผนในการเยียวยาและประเมินอาการช้างป่าตัวนี้ หลังจากเมื่อเย็นวานนี้ (20 ต.ค.) ได้มีการใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์เข้าตรวจอาการ พบว่าบริเวณไขสันหลังที่เอวมีช่องที่เป็นน้ำ อาจจะเป็นเลือดหรือน้ำเหลืองที่คั่งในส่วนของเนื้อเยื่อ ต้องให้ยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบ เพื่อไม่ให้อาการทรุดตัว โดยทีมแพทย์ยังมีความกังวลต่ออาการของช้างป่าตัวนี้

 

ทีมสัตวแพทย์สุดยื้อ “ช้างป่า” ล้ม !!

 

               ด้านเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.32 ได้นำเชือกมากั้นบริเวณที่พลายชมพูทำการรักษาอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร และห้ามบุคคลภายนอกเข้า ยกเว้นเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง

               ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทำการรักษาต่อ แต่จะให้ควาญกับช้างมาอยู่ใกล้ชิดทำความคุ้นเคยกับช้างป่าก่อน โดยให้วิตามินเสริมไปก่อน และรอเครื่องเอ็กซเรย์ขนาดใหญ่จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาทำการเอ็กซเรย์

 

ทีมสัตวแพทย์สุดยื้อ “ช้างป่า” ล้ม !!

 

‘พลายชมพู’ ล้มแล้ว !!

 

               เมื่อเวลา 20.15 น.  นายภพปภพ ลรรพรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทางทีมสัตวแพทย์สรุปว่า ช้างป่าตัวนี้เกิดภาวะไตวาย อันเนื่องจากช้างอยู่ในน้ำหลายวัน และมีอาการบาดเจ็บที่ขาหลังทั้ง 2 ข้าง รวมทั้งเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากทีมสัตวแพทย์ได้ทำการอัลตร้าซาวด์ พบว่ามีเลือดคั่ง และน้ำเหลือง บริเวณไขสันหลังช่วงเอว ทำให้เป็นสิ่งที่ทางทีมสัตว์แพทย์ได้ติดตามรวมทั้งประเมินการรักษาอย่างใกล้ชิด

               สภาพของช้างเมื่อมาถึงที่สถาบันคชบาลแห่งชาติฯ แม้ว่าจะอาการทรงตัว และไม่ได้มีอาการภายนอกที่แสดงออก แต่ล่าสุด ในช่วงเย็นวันนี้ก็เริ่มอ่อนแรง โดยทางทีมสัตว์แพทย์ได้ดำเนินการทำ ICE WATER เพื่อลดความร้อน และมีการเจาะเลือดดูอาการ แต่ช้างป่าตัวนี้ก็ไม่สามารถที่จะต้านทานได้ และล้มลงอย่างสงบ ไม่มีการทุรนทุราย

               ทั้งนี้ ทางทีมสัตวแพทย์ ได้แถลงปิดเคสการรักษาหลังจากที่ช้างล้มลง และในวันที่ 22 ต.ค. ทางสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ มีการทำพิธีทางศาสนา และพิสูจน์ซาก เนื่องจากหากทิ้งไว้นาน จะลำบากต่อการดำเนินการ และหลังจากนั้นภายใน 14 วัน คงจะทราบผลชัดเจน โดยจะมีการเก็บตัวอย่างของเลือดไปวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อสรุปการล้มของช้างในครั้งนี้ และจะได้เป็นแนวทางในการรับมือช้างที่เกิดกรณีเช่นนี้ได้อย่างเหมาะสม

 

ทีมสัตวแพทย์สุดยื้อ “ช้างป่า” ล้ม !!

 

ทีมสัตวแพทย์แถลงปิดเคสการรักษา

 

               น.สพ.ทวีโภค อังควานิช นายสัตวแพทย์ สถาบันคชบาลแห่งชาติฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กล่าวว่า ช้างป่าได้หมดลมหายใจและหลับอย่างสงบ เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 21 ต.ค. หลังจากนี้ จะทำการชันสูตรซากช้างป่าตัวนี้ เพื่อยืนยันผลตามที่คณะแพทย์ลงความเห็น และทำพิธีทางศาสนาต่อไป โดยถือว่าเป็นเคสแรกที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นบทเรียนทางสัตวแพทย์ที่ต้องกลับไปวางแนวทางในการรับมือ กรณีที่อาจจะมีช้างประสบกับภาวะเดียวกัน

               “ผมขอโทษทุกคนที่คาดหวัง และเฝ้ารอติดตาม โดยเฉพาะชาวเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ที่ได้ไปเฝ้าตั้งแต่วันแรกที่ช้างตัวนี้ตกน้ำ และได้ให้กำลังใจมาโดยตลอด แม้ว่าจะมารับการรักษาต่อที่จังหวัดลำปาง ก็ยังคอยติดตามข่าวสารตลอดเวลา โดยทางทีมสัตวแพทย์ได้ทำเต็มที่แล้ว แต่ทุกคนไม่คาดคิดจะเกิดเหตุการณนี้ขึ้น ทั้งนี้ พลายชมพู ถือเป็นครู ที่ให้ทุกคน และทีมสัตวแพทย์ได้เรียนรู้ทุกสิ่งจากการเสียชีวิตครั้งนี้”

 

ทีมสัตวแพทย์สุดยื้อ “ช้างป่า” ล้ม !!

 

               รศ.น.สพ.ดร.นิกร ทองทิพย์ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ด้วยความที่เป็นช้างป่าจึงเกิดความเครียดสูงมาก จะมีโรคกล้ามเนื้ออักเสบทั้งตัวจากความเครียด ทำให้กล้ามเนื้อสลายกลายเป็นสารพิษไปกระทบไต ทำให้เกิดไตวาย จากการตรวจเลือดทีมแพทย์ก็มีความเป็นห่วงได้ดูแลใกล้ชิด แต่ก็มีโอกาสไปได้ทุกเมื่อ ซึ่งทุกคนได้พยายามเต็มที่แล้ว และถือว่าทุกคนได้เรียนรู้บทเรียนร่วมกัน

               ผศ.น.สพ.ดร.วีรพงศ์ ตั้งจิตเจริญ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ภาวะกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง เกิดจากช้างมีอาการเครียด ตลอดระยะเวลาที่ทางทีมสัตวแพทย์ได้ทำการรักษานั้น ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด แต่ต้องยอมรับว่า ด้วยธรรมชาติของสัตว์ป่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้ได้ ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อแตกสลาย และเม็ดสีในกล้ามเนื้อถูกปลดปล่อยออกสู่กระแสเลือด เป็นพิษต่อไต และเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน โดยตอนนี้หากถามว่าความรู้สึกอย่างไร ต้องบอกว่า หัวใจแตกสลาย เพราะตั้งใจที่จะรักษา และยื้อชีวิตเขาให้อยู่รอด ซึ่งตลอดเวลาที่ได้เข้ามาทำหน้าที่รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจ และมิตรภาพของทุกคนที่ได้ให้ความช่วยเหลือช้างป่าตัวนี้ และถือว่าแม้จะล้มลงไปแล้ว แต่ก็ได้ให้ความรู้กับทางทีมสัตวแพทย์ด้วย

 

ทีมสัตวแพทย์สุดยื้อ “ช้างป่า” ล้ม !!

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซากช้างป่ายังคงอยู่ในบริเวณคอกธรรมชาติ ภายในบริเวณปางแม่วังโดยได้ปลดเชือกพยุงออกจากตัวช้าง และนำผ้าสีขาวมาปิดตัวไว้ จากนั้นได้มีการแจกธูปให้กับทุกคนที่อยู่ภายในบริเวณนั้น คนละ 1 ดอก เพื่อขอขมา และยืนไว้อาลัย เพราะเป็นสัตว์ใหญ่ และเปรียบเสมือนเป็นเทวดา โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้า และหลายคนถึงกับมีน้ำตาซึม จากการที่ช้างป่าได้ล้มลงอย่างไม่มีวันหวนกลับ

 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ