ข่าว

พสกนิกรปลื้มปิติปักหลักรอชมซ้อมใหญ่ริ้วขบวนฯ เนืองแน่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ประชาชนจากทุกสารทิศทั้งที่มาคนเดียว เป็นกลุ่มก่อน และครอบครัวต่างสวมใส่ชุดสีดำสุภาพเดินทางมารอเข้าคิวตั้งแต่กลางดึก

  พสกนิกรปลื้มปิติปักหลักรอชมซ้อมใหญ่ริ้วขบวนฯ เนืองแน่น

     วันที่ 21 ตุลาคม วันซ้อมใหญ่ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ครั้งที่ 3 ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกรายงานบรรยากาศการเดินทางมาชมการซ้อมใหญ่ริ้วขบวนฯ ณ มณทลพิธีท้องสนามหลวง ปรากฏว่ามีประชาชนจากทุกสารทิศทั้งที่มาคนเดียว เป็นกลุ่มก่อน และครอบครัวต่างสวมใส่ชุดสีดำสุภาพเดินทางมารอเข้าคิวตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ จำนวนไม่น้อยอาศัยหลับนอนบริเวณหน้าจุดคัดกรองทั้ง 9 จุด เพื่อให้ได้เข้าเป็นคิวแรกๆ โดยเวลา 05.00 น.เจ้าหน้าที่เริ่มเปิดให้เข้าจุดคัดกรองทั้ง 9 จุด โดยให้ประชาชนแต่ละจุดเดินเช้าไปจับจองพื้นที่ด้านในสุดก่อนจนเต็มทุกพื้นที่ เช่นเดียวกับพื้นที่บริเวณริมกำแพงฝั่งถนนมหาราช ถนนท้ายวัง และถนนสนามไชย ทุกพื้นที่เต็มจำนวนในเวลาประมาณ 06.00 น. 

    พสกนิกรปลื้มปิติปักหลักรอชมซ้อมใหญ่ริ้วขบวนฯ เนืองแน่น

          ทั้งนี้ เนื่องจากยังมีประชาชนตกค้างอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจุดคัดกรองที่ 2 พระแม่ธรณีบีบมวยผมหรือโรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์ เวลา 07.26 น. เจ้าหน้าที่จึงอำนวยความสะดวกประชาชนให้ ได้เข้ามาชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยอนญาตให้เข้าไปนั่งรอบนบาทวิถีริมรั้วเขตราชวัติด้านในมณฑลพิธีท้องสนามหลวงฝั่งที่ตั้งพระเมรุมาศ ซึ่งสามารถได้รองรับประชาขนได้ราว 2 หมื่นคน สร้างความปลาบปลื้มใจแก่พสกนิกรเป็นอย่างมาก 

    พสกนิกรปลื้มปิติปักหลักรอชมซ้อมใหญ่ริ้วขบวนฯ เนืองแน่น  

     น.ส.ปาจรีย์ เทพศิริ อายุ 54 ปี ชาวชุมพร นักการท่องเที่ยวชำนาญการ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มาพร้อมพี่สาว และหลานสาว โดยปักหลักรอบริเวณหน้าศาลฎีกา เปิดเผยว่า เดินทางจากชุมพรเพื่อมารอชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศตั้งแต่บ่ายของวันที่ 20 ตุลาคม โดยพากันนั่งเข้าคิวรอบริเวณริมคลองหลอด ถนนอัษฎางค์ หลับๆ ตื่นๆ เพราะตื่นเต้นที่รุ่งเช้าจะได้ชมริ้วชบวนตามที่ตั้งใจ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วของการซ้อมใหญ่ คิดว่าวันจริง 26 ต.ค.คงเข้าไม่ถึง เพราะประชาชนคงมากันเป็นจำนวนมาก

      "เรามาด้วยใจล้วนๆ ตัวเองเกิดมาทันช่วงที่พระองค์ท่านเสด็จฯ ไปที่ต่างๆ ทั่วประเทศ จำได้ว่าตอนอายุ 7 ขวบ มีครั้งหนึ่งท่านเสด็จฯ โดยรถไฟมาที่อำเภอหลังสวนทรงเยี่ยมทุกข์สุขประชาชน พ่อเป็นผู้ใหญ่บ้านต้องไปรับเสด็จฯ ก็ขอพ่อไปด้วย ก็ถามพ่อว่าในหลวงจะมาบ้านเราไหม พ่อก็บอกว่าท่านจะไปตามที่ที่ประชาชนลำบาก ต้องการความช่วยเหลือ ความรู้สึกนี้ฝังใจเรามาตลอด ทุกวันนี้พูดถึงพระองค์ไม่ได้ น้ำตาเอ่อทุกที รักท่านมาก อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก เชื่อว่าบารมีของพระองค์อยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งปวง คิดว่าคนไทยทุกคนคิดเหมือนกันข้อนี้ เป็นความรู้สึกซาบซึ้ง ส่านตัวลำบากแค่ไหนก็จะมาชมริ้วขบวนให้ได้ บอกหลานด้วยว่า พระองค์ทรงเหนื่อยมา 70 ปี ท่านทำเพื่อคนไทย ใครลำบากก็รีบไปช่วย ให้เขาได้สัมผัสบรรยากาศวันนี้ว่าประชาชนรักท่านแค่ไหน เมื่อหมดรุ่นเราแล้วเขาจะได้มีเรื่องเล่าให้รุ่นต่อๆ ไปได้" พสกนิกรจากชุมพร กล่าว 

        พสกนิกรปลื้มปิติปักหลักรอชมซ้อมใหญ่ริ้วขบวนฯ เนืองแน่น

      นางสาวธนิศา ไชยวงศ์วาน อายุ 55 ปี กล่าวว่า หลังจากเลิกงานเมื่อวานนี้ได้รีบกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อมาถึงบริเวณจุดคัดกรองแม่พระธรณีบีบมวยผม พบว่าแถวยาวมากแล้ว หลายคนมาตั้งแต่บ่าย เท่าที่ถามสำรวจด้านหน้ามีประชาชนมาเช้าสุดที่เที่ยงวัน จึงได้ต่อแถวเลยคลองหลอดมาสักระยะ เมื่อตัดสินใจว่าจะมาแล้วจึงพยายามศึกษาเส้นทางจากข่าวต่างๆให้มากที่สุด และรีบมาก่อนสี่ทุ่มป้องกันการปิดถนน 

      "อยากเข้ามาให้ลึกที่สุดเพื่อดูริ้วขบวนทั้ง 3 ริ้ว อยากเห็นพระยานมาศสามลำคาน พระมหาพิชัยราชรถ และราชรถปืนใหญ่สักครั้งในชีวิต รวมถึงอยากเฝ้าฯพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่เสด็จฯร่วมด้วย ในวันจริงอาจจะมาร่วมงานไม่ได้ แม้ว่าจะรอนานมาก ไม่ได้นอนตลอดทั้งคืนแต่เมื่อเข้ามาในพื้นที่ก็ฮึกเหิม รู้สึกอดทนได้และมีกำลังใจ ก่อนหน้านี้ได้มากราบพระบรมศพแล้ว 9 ครั้ง และได้น้อมนำคำสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ตลอด มีรายได้ก็ใช้จ่ายให้เพียงพอ ที่เหลือเก็บไว้ใช้ในอนาคต ประหยัดต่อไป " น.ซ.ธนิศา กล่าว

     ด้านนายชิโนรส  ใจบุญ อายุ 34 ปี อาชีพวิศวกร บริษัทเอกชน กล่าวว่า เดินทางมาจากบ้านพักย่านแคราย กรุงเทพฯพร้อมกับภรรยา ตั้งแต่เวลา 04.00 น.  เข้าจุดคัดกรองฝั่งวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม แล้วเดินเลาะตามถนนท้ายวังมาจับจองพื้นที่นั่งบริเวณวงเวียนหน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ซึ่งเป็นจุดที่พระมหาพิชัยราชรถตั้งอยู่ด้านหน้า สามารถมองเห็นริ้วขบวนได้อย่างชัดเจน

    พสกนิกรปลื้มปิติปักหลักรอชมซ้อมใหญ่ริ้วขบวนฯ เนืองแน่น

       "วันนี้ตั้งใจมาส่งเสด็จในหลวง ร.9 เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ที่ทรงงานหนักเพื่อให้พสกนิกรของพระองค์ได้อยู่ดี กินดี ซึ่งไม่ใช่มีฐานะร่ำรวย แต่ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข พระองค์ท่านทรงเสด็จฯ ไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อแก้ปัญหาความยากไร้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พสกนิกรชาวไทยทุกคนได้เห็นอยู่เสมอ ทุกครั้งที่มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 จะรู้สึกตื้นตันใจ น้ำตาไหล ด้วยความปีติในพระบารมี ถึงจะผ่านไป 1 ปีแห่งความสูญเสีย รู้สึกว่าทำใจได้มากขึ้น แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเมื่อถึงวันพระราชพิธี 26 ตุลาคม ความรู้สึกจะเป็นเช่นไร คงจะต้องทำใจอีกรอบ เพราะเวลานั้นเหมือนกับว่า พระองค์เสด็จสู่สรวงสวรรค์แล้วจริงๆ "นายชิโนรส กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ