ข่าว

"บก.นสพ.ตำรวจพลเมือง" ได้ประกันคดีฉ้อโกง 2.5 ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฝากขัง "ทรัพย์อานันท์ เจริญวัฒนอุดม" ลวงเหยื่อร่วมลงทุนเสียหาย 150 ล้าน ค้านประกันกลัวหนี-ยุ่งหลักฐาน ญาติหอบโฉนดหลักล้านขอประกัน ศาลอนุญาตแต่ห้ามออกนอกประเทศ

 

          ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 ต.ค.60 นายพงษธร อินอำนวย พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ควบคุมตัว นายทรัพย์อานันท์ เจริญวัฒนอุดม อายุ 50 ปี บรรณาธิการ นสพ.ตำรวจพลเมือง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีฉ้อโกงประชาชน หลอกลวงประชาชนกว่า 1,000 คน ร่วมสมาชิกโครงการชื่อ "หนึ่งชีวิตหนึ่งล้าน" อ้างว่าจะได้รับค่าตอบแทนเมื่อญาติเสียชีวิตซึ่งสร้างความเสียหายนับ 150 ล้านบาท มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 - 30 ต.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบพยานอีก 300 ปาก อีกทั้งต้องรอผลการสอบสวนขยายผลของกลาง โดยพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวด้วยเนื่องจากพฤติกรรมผู้ต้องหาที่กล่าวอ้างว่าเป็นนายตำรวจหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และระหว่างที่สอบสวนผู้ต้องหาได้มีการชักชวนสมาชิกและให้ลงเงินในการสมัครสมาชิกอีก รวมทั้งกล่าวอ้างว่ามีความสามารถในการหยุดคดีนี้ได้ จึงเกรงว่าหากได้รับการปล่อยชั่วคราวแล้วผู้ต้องหาอาจหลบหนี หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

          อย่างไรก็ดีศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

          ขณะที่ญาติของนายทรัพย์อานันท์ บรรณาธิการ นสพ.ตำรวจพลเมือง ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินใน กทม.และ จ.ชัยภูมิ รวม 4 โฉนด ราคาประเมิน 2.5 ล้านบาทเศษ เพื่อขอปล่อยชั่วคราวชั้นฝากขังนี้

          ซึ่งศาลพิเคราะห์คำร้องแล้ว อนุญาตให้ประกันตัว นายทรัพย์อานันท์ บรรณาธิการ นสพ.ตำรวจพลเมือง ผู้ต้องหาไป โดยตีราคาประกัน 2.5 ล้านบาท และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำร้องฝากขังนั้น บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ตามหมายจับของศาลอาญา โดยผู้ต้องหา ในนาม นสพ.ตำรวจพลเมือง ได้ร่วมกับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์พลังเครือข่ายประชาชน ตั้งโครงการชื่อ "หนึ่งชีวิตหนึ่งล้าน" ซึ่งให้ชักชวนบุคคลมาร่วมเป็นสมาชิกอ้างว่าจะจ่ายผลตอบแทนให้ญาติสมาชิกที่เสียชีวิต ซึ่งสมาชิกต้องจ่ายค่าสมาชิกหนังสือพิมพ์ดังกล่าว กับค่าสมัคร รวมทั้งค่าสงเคราะห์ศพล่วงหน้า พร้อมค่าบำรุงรายปีเข้าสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ฯ ซึ่งเป็นการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ ที่ห้ามไม่ให้ผู้ใดชักชวนชี้ช่องหรือให้ผู้อื่นเข้าเป็นสมาชิกโดยให้ผลตอบแทนเป็นเงินหรือทรัพย์สินอื่น

          โดยให้ผู้ต้องหา เป็นบรรณาธิการ นสพ.พลเมือง ซึ่งประชาชนที่จะเข้าสมัครสมาชิกก็จะได้เป็น ผอ.ศูนย์ประสานงานหนังสือตำรวจพลเมืองมีหน้าที่ประชาสัมพันธ์โครงการโดยเสียค่าสมาชิกปีละ 21,500 บาท บาทแล้วจะมีสิทธิไปรับสมัครสมาชิกต่อ และเมื่อมีคนเข้ามาสม้ครสมาชิกใหม่ ผู้ที่ชักชวนจะได้รับค่าตอบแทนจากค่าสมาชิกเป็น 6 ชั้นลำดับ เริ่มต้นจาก 10 บาทต่อคน ไปจนถึงชั้นที่ 1ได้รับ 300 บาทต่อคน แต่ถ้าเป็นการรับสมัครระดับ ผอ.หน่วย ผู้ชักชวนจะได้รับเงินจากค่าสมัครสมาชิก 3 ชั้น ตั้งแต่ 1,000 - 2,000 ต่อคน โดยผู้ต้องหากับพวก มีลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำด้วยการเปิดโรงแรมระดับ 3 ดาว ย่านอยุธยา , สิงห์บุรี และกรุงเทพฯ แล้วผู้ต้องหาจะขึ้นเวทีบรรยายประกอบการฉายสไลด์ชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นสมาชิกและเสนอให้ผลตอบแทน ทำให้ประชาชนกว่า 1,000 คนหลงชื่อร่วมสมัคร

          แต่เมื่อสมาชิกเสียชีวิตทายาทของสมาชิกดังกล่าวยังไม่มีใครเคยได้รับเงินสงเคราะห์ตามที่ถูกชักชวน ซึ่งการกระทำนั้นก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่าทั้งสิ้น 150 ล้านบาท ภายหลังการจับกุม พนักงานสอบสวนดีเอสไอ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งชั้นสอบสวนนายทรัพย์อานันท์ บรรณาธิการ นสพ.ตำรวจพลเมือง ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ.             

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ