รักไม่รู้จบ...  บันทึกภาพประวัติศาสตร์กับ “พ่อหลวง”

 

                 ใครที่มีโอกาสเดินทางไปกราบพระบรมศพในหลวงรัชการที่ 9 อย่าลืมแวะไปร่วมบันทึกภาพประวัติศาสตร์ ที่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ จับมือกันเปิดโครงการ “บันทึกภาพน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ที่บริเวณชั้น 1 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ประชาชนสามารถเลือกบันทึกภาพและรอรับกลับได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

                  กิจกรรมนี้ถูกจัดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมบันทึกภาพที่ระลึก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา และจะมีไปจนถึงวันที่ 19 ตุลาคม นี้ 

                  ทั้งนี้ที่ผ่านมามีประชาชนให้ความสนใจมาร่วมบันทึกภาพทุกวันไม่ต่ำกว่าวันละ 400 คน หลายคนมาเข้าคิวรอตั้งแต่ยังไม่สว่าง หลายคนวนมาถ่ายภาพหลายรอบเพื่อเก็บสะสมไว้

                  นายพัฒิกร ตันติเสรี รองผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ และรองผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์และรับสมัตรนักศึกษา มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ซึ่งรับผิดชอบโครงการบันทึกภาพฯ กล่าวว่า ประชาชนที่มาร่วมบันทึกภาพประวัติศาสตร์มีทั้งประชาชนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัด ซึ่งภาพทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนี้ได้รับความอนุเคราะห์มาจากหลายศิลปิน

                  ในช่วงแรก ขนาดของรูปเท่ากับกระดาษ A3 ตอนนี้ปรับขนาดเป็น A4 รวมถึงมีการปรับกระบวนการทำงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด เช่น เพิ่มเครื่องปริ้นเตอร์ เพื่อให้ประชาชนรับภาพกลับไปได้ทันที ไม่ต้องรอนาน

                  “ในช่วงที่เริ่มโครงการมีภาพให้ประชาชนได้เลือกบันทึกภาพอยู่ 10 กว่าภาพ แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 20 ภาพ ซึ่งภาพเหล่านี้ได้รับความอนุเคราะห์มาจากหลายๆฝ่าย ทุกคนสามารถมาร่วมบันทึกภาพได้ เราเปิดรับหมด เพียงแต่ว่ามารับบัตรคิวตามขั้นตอน อยากเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมบันทึกภาพเป็นที่ระลึก ประชาชนสามารถรอรับภาพกลับไปได้ทันที ไม่มีค่าใช้จ่าย”

(พัฒิกร ตันติเสรี )

                  บันทึกภาพต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย

                  กฎระเบียบที่จะประชาชนจะต้องปฏิบัติ ในการเข้าร่วมการบันทึกภาพ ประชาชนต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพเรียบร้อย หากท่านใดที่ตั้งใจเดินทางมากราบพระบรมศพอยู่แล้ว สามารถเข้าบันทึกภาพได้เลย สำหรับนักศึกษาและข้าราชการ แต่งกายด้วยชุดนักศึกษา หรือชุดในเครื่องแบบปฏิบัติงาน ผู้หญิงต้องสวมกระโปรงเท่านั้น แต่สำหรับข้าราชการที่มีความประสงค์ขอเป็นหมู่คณะ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะจัดคิวให้ หลังจากที่บริการประชาชนทั่วไปเสร็จสิ้น 

                  ตลอดทั้งวัน พบว่ามีเจ้าหน้าหลักที่คอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนมีทั้งหมด 5-6 คน เริ่มจากแจกบัตรคิว ถ่ายภาพ ตัดต่อภาพ และปริ้นภาพ และมีอาสาสมัครหรือจิตอาสาเข้ามาช่วยบ้างในบางวัน 

 

                  ประชาชนมารอรับบัตรคิวแต่เช้ามืด

                  จากการสอบถามผู้ที่มาร่วมบันทึกภาพ ได้ข้อมูลว่า มีประชาชนที่ทราบข่าวมารอรับการบันทึกภาพตั้งแต่ 05.00 น. เพื่อรอรับบัตรคิว โดยเจ้าหน้าที่จะเริ่มแจกคิวแรกในเวลา 08.30 น.ของทุกวันถึงประมาณ 11.00 น.หรือจนกว่าบัตรคิวจะหมด ที่บริเวณชั้น 1 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งแต่ละวันจะมีบัตรคิวจำนวนจำกัดอยู่ที่ 400 กว่าใบ แต่ก็มีการปรับให้เป็นไปตามความต้องการให้ได้มากที่สุดในแต่ละวัน หากคนให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น

 

                  ขั้นตอนการบันทึกภาพที่ระลึก

                  เมื่อไปถึงบริเวณชั้น 1 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะมีตัวอย่างภาพถ่ายทั้งหมด 20 ภาพให้ประชาชนได้เลือกบันทึก โดยการบันทึกภาพจะเริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่จะเรียกตามลำดับ ครั้งละ 10 คน เพื่อความรวดเร็ว มีเจ้าหน้าที่มารับเพื่อเข้าไปรอถ่ายภาพ ประชาชนจะต้องวางสัมภาระที่ถือมาด้วยก่อนเข้าไปถ่ายทุกครั้ง เมื่อเข้าไปในห้องถ่ายภาพ ให้บอกหมายเลขภาพที่ต้องการกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นยืนประจำตำแหน่งที่เตรียมไว้ หลังจากถ่ายเสร็จออกมารอรับภาพที่ถูกบันทึกหน้าห้องกลับไปได้ทันที ถือเป็นการเสร็จสิ้นการบันทึกภาพที่ระลึก 

​​​​​​​

 

                      “เราไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าท่านจริงๆ ด้วยความที่อยากใกล้ชิดท่านจึงทำให้มา เมื่อมองภาพท่านบางครั้งก็ทำให้น้ำตาไหล ต่อไปนี้ก็จะไม่มีอะไรแบบนี้แล้ว คนทั่วไปก็ควรจะได้มาสักครั้งหนึ่งก็ยังดี”

นิธินาถ ตรีเลิศมาลา

                  นิธินาถ ตรีเลิศมาลา อายุ 69 อาชีพแม่บ้าน บอกว่า ออกจากบ้านเพื่อเดินทางมากราบพระบรมศพ ตั้งแต่ตี 5 เสร็จจากนั้นจึงได้เดินทางมารอรับบัตรคิวเพื่อเข้าร่วมบันทึกภาพกับพ่อหลวงไว้เป็นที่ระลึกต่อ 

                  นิธินาถ เล่าว่า ทราบข่าวจากทางทีวีเมื่อนานมาแล้ว แต่ตนเองเดินทางมาไม่ค่อยสะดวกเพราะมีปัญหาสุขภาพ แต่ก็มีความพยายามที่จะมา ซึ่งครั้งนี้มาเป็นครั้งที่ 5 แล้ว อาจจะถ่ายกับทุกภาพไม่ครบแต่จะถ่ายเก็บสะสมไปเรื่อยๆ หลังจากที่ได้ภาพมาแล้ว ตนจะนำไปใส่กรอบเก็บไว้ เพื่อเป็นที่ระลึก 

                  “เหตุผลที่มา เพราะเราเคารพ อยากจะระลึกถึงท่าน มันไม่มีโอกาสแบบนี้บ่อย เราไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าท่านจริงๆ ด้วยความที่อยากใกล้ชิดท่านจึงทำให้มา เมื่อมองภาพท่านบางครั้งก็ทำให้น้ำตาไหล ต่อไปนี้ก็จะไม่มีอะไรแบบนี้แล้ว คนทั่วไปก็ควรจะได้มาสักครั้งหนึ่งก็ยังดี เพราะเราหาโอกาสแบบนี้ยาก ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ประชาชนทั่วไปได้มา” 

+++

                  “เป็นภาพเตือนความทรงจำดีๆ ที่ในหลวงทรงทำให้ประเทศชาติและประชาชนของท่าน เมื่อเราเห็นภาพบางครั้งก็น้ำตาไหล ไม่เคยมีกษัตริย์องค์ใดทำได้ขนาดนี้”

สมศักดิ์ คำภีระ

 

                  สมศักดิ์ คำภีระ อายุ 49 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป เดินทางมาจากจรัญสนิทวงศ์ บอกว่า เขาจะเดินทางไปทุกงาน ทุกเทศกาลที่เกี่ยวกับในหลวงรัชการที่ 9

                  นายสมศักดิ์ เล่าว่า ตอนแรกก็ไม่รู้ว่ามีแบบนี้ แต่ได้ยินน้องสาวพูด ก็เลยมา หลังจากที่รอกราบพระบรมศพเสร็จ จึงได้แวะเข้ามาดู รูปแรกที่ถ่าย คือ รูปในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงาน เป็นภาพแรกในชีวิต เพราะไม่เคยมีโอกาสได้ถ่ายอะไรแบบนี้ เมื่อมีเวลาว่างก็จะเข้ามาถ่าย อาทิตย์ละครั้งสะสมไปเรื่อยๆ ตอนนี้มีสะสมได้หลายภาพแล้ว

                  สมศักดิ์ บอกว่า หลังจากที่ได้ภาพไปแล้ว ก็จะนำไปไว้บนหิ้งและใส่กรอบไว้เป็นที่ระลึก 

                  “เพราะความศรัทราในหลวงรัชกาลที่ 9 การมีเก็บไว้ครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นภาพเตือนความทรงจำดีๆ ที่ในหลวงทรงทำให้ประเทศชาติและประชาชนของท่าน เมื่อเราเห็นภาพบางครั้งก็น้ำตาไหล ไม่เคยมีกษัตริย์องค์ใดทำได้ขนาดนี้ เป็นความภูมิใจของคนไทย และต่างชาติก็ยอมรับว่าในหลวงของเรามีความสามารถทำงานได้ทุกอย่าง”

                  “หากทุกคนคิดแต่สิ่งดีๆ และน้อมนำคำสอนของท่านเอาไปปฏิบัติ ชีวิตก็จะดี หรือถ้าไม่ปฏิบัติก็อย่าทำความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น คนที่มาที่นี่ แน่นอนว่าจะไม่ได้แค่ภาพกลับไป แต่ได้ความทรงจำที่ดีๆกลับไปด้วย หลังจากนี้ก็จะได้กราบแค่รูปแล้ว ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งก็ควรจะได้มา แม้กระทั่งคนที่อยู่ต่างประเทศก็ยังเดินทางมาแล้ว บางคนที่มีจิตศรัทราก็มาสมัตรเป็นจิตอาสา ทุกคนทำเพราะความรักและศรัทราในหลวงรัชกาลที่ 9” สมศักดิ์ กล่าว

+++

                  “จะนำภาพไปใส่กรอบเก็บไว้เป็นที่ระลึก การได้มาร่วมถ่ายภาพแบบนี้ ถือเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และเป็นภาพแห่งความประทับใจด้วย อยากให้มากันเยอะๆ โอกาสแบบนี้หาไม่ได้แล้ว”

ชยุต วราพิริยะกุล

 

                  ชยุต วราพิริยะกุล อายุ 55 ปี หัวหน้าป่าสงวนป่าเขาภูหลวง จังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางมาถวายงาน อำนวยความสะดวกให้ประชาชนบริเวณสนามหลวง เป็นเวลา 8 วันแล้ว หลังจากว่างจากภารกิจจึงพากันมาร่วมบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึก

                  “หลายคนอาจจะยังไม่ทราบข่าวนี้ หากเป็นบุคคลในพื้นที่ก็จะรู้ว่ามีงานแบบนี้เกิดขึ้น บางคนมาถ่ายหลายรอบแล้ว ไม่ว่าอาชีพไหนก็มาถ่ายได้ ข้าราชการจะมาเป็นหมู่คณะก็มาได้ หรือจะมาแบบส่วนตัวก็ได้ คณะของผมมากันน้อย หากใครเสร็จจากภารกิจจากสนามหลวงแล้ว ก็จะเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ของผม หลังจากที่ได้ภาพมาแล้ว ก็จะนำภาพไปใส่กรอบเก็บไว้ที่บ้านเป็นที่ระลึก ว่าครั้งหนึ่งที่ได้มาถวายงาน เราได้มาร่วมถ่ายภาพแบบนี้ ถือเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และเป็นภาพแห่งความประทับใจด้วย”

                  ชยุต ยังฝากถึงประชาชนที่ยังไม่มีโอกาสได้มาว่า อยากให้มากันเยอะๆ ไม่ได้มาแล้วจะเสียดาย ไม่ว่าคนกรุงเทพฯหรือคนต่างจังหวัดเองก็ควรจะได้มาสักครั้ง ควรมีสัญลักษณ์ที่เป็นรูปของท่านบ้าง โอกาสแบบนี้หาไม่ได้แล้ว ถือว่าเป็นภาพประวัติศาสตร์ด้วยซ้ำ

                  สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบันทึกภาพประวัติศาสตร์น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สามารถเข้ารับบริการได้ที่ บริเวณชั้น 1 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สามารถไปได้ทุกวัน รวมทั้งวันเสาร์-อาทิตย์  จะหยุดเฉพาะวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น โดยโครงการจะมีไปจนถึงวันที่ 19 ต.ค.นี้ สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-613-2500 

-----

เรื่องโดย นงนุช พุดขาว คมชัดลึกออนไลน์