ข่าว

"เอาบ้านคืนไปก็ได้...หนูไม่อยากเสียครูไป"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ด.ญ.ไร้สัญชาติสระแก้วหลั่งน้ำตา..ปกป้องครู ยอมให้รื้อไม่เอาบ้านบริจาค ..!!

          สระแก้ว - เด็กหญิงไร้สัญชาติสระแก้วหลั่งน้ำตา..ปกป้องครู ยอมให้รื้อบ้านไม่เอาบ้านหลังที่ทหารสร้างให้แล้ว หลังถูกกีดกันกลั่นแกล้ังอย่างหนัก ชาวบ้านพร้อมรวมตัวไปชี้แจงทุกหน่วยงานเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม 

        10 ก.ค.60 กรณีปัญหา ชีวิตรันทด เด็กหญิงไร้สัญชาติ วัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านเขาจาน ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เด็กยากไร้ที่ต้องอาศัยอยู่ในกระท่อมเก่า ๆ กับพ่อบุญธรรมวัย 84 ปี มาตั้งแต่เกิด ไม่สามารถเข้าอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่ได้รับบริจาค หลังครูประจำชั้นนำเรื่องราวไปเผยแพร่ทางโซเซียลมีเดีย จนผู้มีจิตศรัทธาเข้ามาช่วยเหลือในการติดตามพ่อที่แท้จริงและตรวจดีเอ็นเอ เพื่อขอทำบัตรประชาชนไทยให้ และมีทหารอาสาเข้าช่วยก่อสร้างบ้านจนเสร็จเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ขอบ้านเลขที่ไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถขอไฟฟ้าเข้าบ้านได้ในปัจจุบัน ส่วนครูก็ถูกกดดัน ข่มขู่และร้องเรียนต้นสังกัด เพื่อให้มีการลงโทษครูหรือย้ายออกนอกพื้นที่ หลังโพสต์ต่อว่าหน่วยงานท้องถิ่น 

                         "เอาบ้านคืนไปก็ได้...หนูไม่อยากเสียครูไป"

                                    
          ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่้บ้านท่าช้าง ม.4 ต.ท่าเกวียน เพื่อพบกับเด็กหญิงรายนี้และเพื่อนบ้านเกือบ 30 คน พบว่า บริเวณพื้นที่ลานโล่งเนื้อที่ประมาณ 70 ตารางวา มีการก่อสร้างบ้านขนาด 1 ห้้องนอน มีห้องน้ำในตัวและห้องโถง ทาสีเหลือง เดินสายไฟมาที่เสาไฟฟ้าไว้พร้อม แต่ไม่สามารถต่อไฟเข้าบ้านได้ เนื่องจากบ้านไม่มีเลขที่ ส่วนบริเวณใกล้กันมีกระท่อมขนาดเล็ก มุงด้วยสังกะสี ปลูกบนพื้นดินมีแคร่และพื้นยกโสูงประมาณ 1 เมตรจากพื้นดิน มีเพียงเครื่องนอน เสื้อผ้ารวมอยู่ด้วยกัน มีนายวงศ์  วังจันทึก วัย 84 ปี นั่งอยู่บนแคร่ ใกล้กันพบ ด.ญ.ปวีณ์นุช เต้า
ทอง นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยอากาศเศร้า 
                          "เอาบ้านคืนไปก็ได้...หนูไม่อยากเสียครูไป"
                         "เอาบ้านคืนไปก็ได้...หนูไม่อยากเสียครูไป"
           ด.ญ.ปวีณ์นุช เปิดใจทั้งน้ำตา กับปัญหาที่เกิดขึ้นว่า "ถ้าต้องมีการย้ายครูแน๊ตเพราะปัญหานี้ ก็เอาบ้านคืนดีกว่า บ้านหลังเก่าหนูก็อยู่ได้ หนูต้องการครูหนูให้ครูอยู่ดีกว่า ไม่อยากเสียครูไป พร้อมที่จะเสียบ้าน ถ้าต้องมาโดนรังแก"  หลังจากนั้นก็เธอก็ปาดน้ำตา พร้อมร้องให้เสียงดัง 

           ทั้งนี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านกว่า 30 คน ได้มารวมตัวกันที่บ้านหลังดังกล่าว ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เด็กและครูถูกรังแก หากจำเป็นที่จะต้องลุกขึ้นมาช่วยกันอธิบาย ช่วยกันบอก ช่วยกันเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคนก็ยินดี เพราะเห็นเด็กคนนี้มาตั้งแต่ยังเล็ก หากการสร้างบ้านให้เด็กยากจนมีปัญหามากนัก ก็คงเลือกให้ครูอยู่เพื่อสอนเด็ก ๆ และลูกหลานของพวกเขาต่อไปดีกว่า พร้อมร่วมกันตะโกนว่า "ไม่เอาบ้าน เราเอาครูไว้"  

                                       
                                       

            ขณะที่ นางจิระนันท์ พรมหมสุวรรณ อายุ 43 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.4 กล่าวว่า  รู้สึกเสียใจ หากจะมีการใช้วิธีกดดันกลั่นแกล้งครูด้วยการพยายามที่จะโยกย้ายครูดี ๆ ไป ครูดีคนหนึ่งที่จะต้องมาถูกย้ายออกไป เพียงแค่พยายามที่จะปกป้องเด็ก หาบ้านให้เด็กได้อยู่ หลังเห็นว่าอยู่ในบ้านที่ไม่ปลอดภัย แล้วถูกกล่าวหาว่า ครูทุจริต ไม่ีหวังดีกับเด็ก  หากเป็นไปถึงขั้นจะโยกย้ายครูออกจากพื้นที่ พวกเราทุกคนในหมู่บ้านก็ยินยอมที่จะปกป้องครู เพื่อไม่ให้ครูถูกย้ายไปจากพื้นที่  ถ้าบ้านหลังนี้มันไม่ดี หรือว่า มันไม่ถูกต้อง ก็ให้เขารื้อถอนออกไป  แล้วเอาคุณครูไว้ในหมู่บ้านในโรงเรียนของเราจะดีกว่า                        

           นางจิระนันท์ บอกว่า ครูคนนี้ช่วยเด็ก ๆ ที่ยากไร้มาหลายคนแล้ว บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลักที่ 3 ที่ครูช่วยและประสานให้มีการช่วยเหลือเด็กยากจน ครูไม่ได้รบกวนหรือก้าวก่ายหน้าที่ของใคร ทุกอย่างก็ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ได้เรียกร้องค่าใช้จ่ายอะไร ไม่เคยมีการซิกแซกเอาผลประโยชน์จากเด็ก มีอะไรครูก็จะมาปรึกษากับชาวบ้าน  การสร้างบ้านหลังนี้สร้างด้วยเงินประมาณ 120,000 บาท ไม่ได้เป็นอย่างที่เอาไปกล่าวหากัน อุปกรณ์ต่าง ๆ มีหน่วยงานบริจาคมา ซึ่งได้เก็บหลักฐานและเอกสารไว้ทั้งหมด ไม่ได้โกงหรือเข้ากระเป๋าใครใด ๆ ทั้งสิ้น 

            ส่วน นายสมพงษ์ วังจันทึก อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.4 ต.ท่าเกวียน เจ้าของที่ดิน ยืนยันว่า ได้ประสงค์มอบที่ดินส่วนที่เป็นเศษ 73 ตารางวา ให้มีการสร้างบ้านให้เด็กคนนี้โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ และได้ทำเป็นสัญญาไว้แล้ว ซึ่งตอนสร้างบ้าน เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้บริหารขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นได้ลงมาที่บ้าน ขณะที่ทหารกำลังก่อสร้างอยู่พอดี และโวยวาย หลังจากนั้นตนเองก็ไปยื่นเรื่องขอก่อสร้างเลย กับลูกชายในวันที่ 7-8 มิ.ย. เจ้าหน้าที่อ้างว่า นายช่างไม่อยู่ไปชลบุรี ไม่ได้เพิ่งมายื่นเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. มีการนัดไปวันที่ 30 มิ.ย. ,วันที่ 3 ก.ค.และวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนที่กล่าวหาว่า เอาเงินเด็ก 50,000 บาทไปไถ่ถอนที่ดินจาก ธกส.นั้น ไม่จริง ตนเองยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย เพิ่งไปจ่ายดอกเบี้ยมา 1000 บาทเมื่อต้นเดือนและจะชำระหนี้ด้วยตนเองไม่คิดจะทำเช่นนั้น  

                     "เอาบ้านคืนไปก็ได้...หนูไม่อยากเสียครูไป"

            อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวอีกรายงานว่า หลังจากกรณีนี้ถูกเผยแพร่เป็นข่าว และมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสื่อโซเชียลนั้น พบว่ามีโทรศัพท์ลึกลับโทรเข้าไปข่มขู่ครู จนทำให้ครูต้องหลบหนีไปอยู่บ้านเพื่อนที่เป็นทหาร บางวันครูและสามีก็ต้องหลบไปอยู่พื้นที่อื่นชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ภายหลังมีส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับ พ.อ.ศราวุธ รบเมือง รองเสนาธิการ มณฑลทหารบกที่ 19 อ.อรัญประเทศ ซึ่งระบุว่า หากมีการข่มขู่ขอให้ดำเนินการแจ้งความได้ทันที โดยจะมีการส่งเจ้าหน้าที่กองร้อยรักษาความสงบพื้่นที่ อ.วัฒนานครเข้าไปดูแล ทั้งนี้ ยังระบุอีกว่า ในวันที่ 14 ก.ค.นี้ พล.ต.หทัยเทพ กีรติอังกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 19 จะเดินทางไปเป็นผู้มอบบ้านหลังนี้ ให้กับ ด.ญ.ปวีณ์นุช ด้วย

.................................................
ข่าวที่เกี่ยวข้อง 
-  เคลียร์แล้ว !!? ผู้ว่าฯสระแก้ว สั่ง นอภ.เคลียร์ปัญหาช่วย ด.ญ.ไร้สัญชาติ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ