ข่าว

'ไข้เลือดออก' ไทยพุ่งสูง ปี 67 คาดมีผู้ป่วย 2.7 แสนราย เร่งป้องกันลดเสียชีวิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ไข้เลือดออก' ไทยพุ่งสูงกรมควบคุมโรคคาดการณ์ปี 2567 มีผู้ป่วยเพิ่ม 2.7 แสนราย ตั้งเป้าป้องกันลดอัตราป่วยรุนแรงเสียชีวิต ส่งเสริมฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก

กรมควบคุมโรคคาดปี 2567 ประเทศไทยจะมียอดผู้ป่วยไข้เลือดออกพุ่งสูงขึ้น มากถึง 3 เท่าของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี หรือประมาณ 276,945 คน  พร้อมยอดผู้เสียชีวิตที่อาจสูงถึง 280 รายอีกด้วย โดยโรค "ไข้เลือดออก" ที่ระบาดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) ที่มีผลต่อการระบาดของยุงลายซึ่งเป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก ด้วยเหตุนี้ เมื่อปี 2565 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมด้วยแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และพันธมิตรทางด้านสาธารณสุขจากภาครัฐและเอกชนรวม 11 องค์กร จัดตั้งพันธมิตรเครือข่ายความร่วมมือว่าด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการควบคุมโรคไข้เลือดออกในประเทศไทย (Dengue-zero MOU) เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมปลอดไข้เลือดออกและลดอัตราการเสียชีวิตให้เป็นศูนย์ ล่าสุด ได้จัดประชุมเพื่อทบทวนกรอบยุทธศาสตร์และเป้าประสงค์หลักในระยะเวลา 5 ปี พร้อมรายงานการดำเนินงานในโครงการต่าง ๆ ของปี 2566 และเสนอแผนงานในปี 2567 ต่อไป

ศ.เกียรติคุณนพ. อมร ลีลารัศมี ประธานความร่วมมือ Dengue-zero กล่าวว่า สำหรับปี พ.ศ. 2567 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกว่า ภาพรวมของ "ไข้เลือดออก" ในปี พ.ศ. 2566 กับ พ.ศ. 2567 จะไม่แตกต่างกันมาก และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2567 คาดว่าจะมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นถึง 276,945 ราย และเป็นหนึ่งในสามโรคระบาดที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด  รองมาจากโควิด-19 และโรคไข้หวัดใหญ่ อันเป็นผลต่อเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) ที่ส่งผลให้อุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝนและความชื้นเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับปัจจัยสภาพแวดล้อมอื่นๆ

 

'ไข้เลือดออก' ไทยพุ่งสูง ปี 67 คาดมีผู้ป่วย 2.7 แสนราย เร่งป้องกันลดเสียชีวิต

 

 

โรค "ไข้เลือดออก" เป็นโรคที่ระบาดตลอดปี และพบการระบาดสูงสุดในช่วงฤดูฝน โดยเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกีที่มียุงลายเป็นพาหะ เป็นแล้วเป็นซ้ำอีกได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสเดงกีมีถึง 4 สายพันธุ์ ผู้ที่ติดเชื้อมักมีอาการไข้ขึ้นสูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อ ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดตา คลื่นไส้ อาเจียน  และเกิดผื่นที่ผิวหนัง อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง อาจจะมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ มีเลือดออกในทางเดินอาหาร ซึมหรือกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น หากผู้ป่วยมีอาการเหล่านี้ควรได้รับการรักษาในโรงพยาบาลทันที การรักษาเป็นแบบประคับประคองตามอาการ เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มียารักษาจำเพาะ

 

'ไข้เลือดออก' ไทยพุ่งสูง ปี 67 คาดมีผู้ป่วย 2.7 แสนราย เร่งป้องกันลดเสียชีวิต

 

“ปัจจุบันยังไม่มียาต้านเชื้อไวรัสเดงกี เพราะฉะนั้นทุกคนต้องดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากโรค "ไข้เลือดออก" ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการหมั่นทายากันยุงและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทั้งในบ้านและนอกบ้าน และถ้าหากมีอาการป่วยไข้ ให้ดูแลตัวเองตามอาการ แต่ต้องระวังการทานยาลดไข้ไม่ให้เกินขนาดที่เหมาะสม นอกจากนี้การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคไข้เลือดออกได้โดยการฉีดวัคซีนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความรุนแรงของโรคได้หากติดเชื้อเดงกี อยากให้คนไทยทุกคนตระหนักถึงอันตรายจากโรคไข้เลือดออก เพราะรายต่อไปอาจจะเป็นคุณหรือคนใกล้ตัวของคุณ” นพ.อมร กล่าวเสริม

 

 

เพราะโรคไข้เลือดออกเป็นหนึ่งในปัญหาด้านสาธารณสุข ซึ่งการแก้ปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมกันขับเคลื่อน ผ่านความร่วมมือ Dengue-zero หรือ Dengue-zero MOU นำโดยภาคีเครือข่ายองค์กรภาครัฐและเอกชน 11 องค์กร ประกอบด้วย แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สมาคมนักบริหารโรงพยาบาลแห่งประเทศไทย และบริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งปีนี้นับว่าก้าวสู่ปีที่ 3 ของการทำงาน โดยในการประชุมครั้งนี้เป็นวาระที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2567 จัดขึ้นเพื่อแถลงถึงความคืบหน้าและความสำเร็จในการปฏิบัติตามกรอบยุทธศาสตร์และเป้าประสงค์หลักในระยะเวลา 5 ปี ในการเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกแก่ชุมชนทั่วประเทศ และสร้างเครือข่ายป้องกันการเกิดโรคให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ที่จะลดอัตราการเกิดโรคและพาประเทศไทยเข้าสู่สังคมปลอดไข้เลือดออก
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ