ข่าว

กกต แจงส่งเรื่อง วินิจฉัย 'พิธา' ทำใต้อำนาจ - ชี้ขาดเป็นหน้าที่ของศาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กกต. ออกเอกสารเคลียร์ทีละปม กรณี "พิธา" แจงการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้วินิจฉัย กระทำภายใต้มาตรา 82 วรรคสี่ บัญญัติให้ กกต. เป็นผู้ใช้อำนาจ อีกทั้งไม่จำเป็น ต้องแจ้งข้อกล่าวหา หรือให้ สส. ผู้มีเหตุสิ้นสุดสมาชิกภาพ  มารับทราบข้อกล่าวหา เจ้าตัวต้องไปสู้กับศาลเอง

สำนักงาน กกต. ได้ทำเอกสารชี้แจงกรณีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ สส. ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์   โดยระบุว่า ตามที่ กกต. ได้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวานนี้ ( 12 ก.ค. )  เป็นการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐธรรมนูญตามมาตรา 82 วรรคสี่ ซึ่งบัญญัติว่า "ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร... มีเหตุสิ้นสุดลง... ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย..."  ซึ่งมาตรา 82 วรรคสี่ บัญญัติให้ กกต. เป็นผู้ใช้อำนาจโดยตรง สามารถส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยได้" 

 

 

 


ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือการกระทำอันอาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้ง มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือมิได้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่จะต้องนำบทบัญญัติตามมาตรา 43 ของ พ.ร.ป. ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 และ ข้อ 54 ของระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 มาใช้บังคับแต่อย่างใด

เมื่อปรากฏว่า สมาชิกภาพของ ส.ส. คนหนึ่งคนใด มีเหตุสิ้นสุดลง กกต.จะดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริง  โดยไม่ต้องแจ้งข้อกล่าวหา หรือให้ สส. ผู้มีเหตุสิ้นสุดสมาชิกภาพนั้น  มารับทราบข้อกล่าวหา หรือให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อกล่าวหา เพราะบุคคลดังกล่าวสามารถใช้สิทธิของตนเองไปชี้แจงข้อเท็จจริง และเสนอพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้คดี ตามบทบัญญัติของ พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 ได้ เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ได้วางแนวทางในเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว รายละเอียดปรากฏตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 14/2562 เรื่องพิจารณาที่ 10/2562 ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562

 

 


ส่วนข้อกล่าวอ้างว่า กกต. เร่งรัดพิจารณา และดำเนินการอย่างเร่งรีบ ไม่ละเอียดรอบคอบนั้น ขอชี้แจงว่า การดำเนินการของ กกต.เป็นเพียงกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง โดยไม่ได้เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดว่าบุคคลหนึ่งบุคคลใดมีเหตุสิ้นสุดสมาชิกภาพ   "ขอยืนยันว่า กกต. ไม่ได้ดำเนินการอย่างเร่งรีบ หรือเร่งรัดที่จะทำให้เรื่องดังกล่าวเสร็จสิ้นเร็วกว่าปกติ กกต. ได้ใช้ระยะเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว ดังนั้นการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เป็นกระบวนการที่ กกต. ปฏิบัติตามมาตรา 82 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบันทุกประการ" เอกสาร  ระบุ 

กกต  แจงส่งเรื่อง วินิจฉัย 'พิธา'  ทำใต้อำนาจ - ชี้ขาดเป็นหน้าที่ของศาล

กกต  แจงส่งเรื่อง วินิจฉัย 'พิธา'  ทำใต้อำนาจ - ชี้ขาดเป็นหน้าที่ของศาล

กกต  แจงส่งเรื่อง วินิจฉัย 'พิธา'  ทำใต้อำนาจ - ชี้ขาดเป็นหน้าที่ของศาล

 

เอกสารชี้แจงที่ออกมาจาก กกต. กรณีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ สส. ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์  

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ