ข่าว

‘ประยุทธ์’ เผยเก็บของออกจาก ‘ทำเนียบฯ’ แล้ว แต่ขออยู่ 'บ้านหลวง' ต่อ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’นายกฯ ยอมรับเก็บของออกจาก ‘ทำเนียบรัฐบาล’ แล้ว แต่ขออยู่ ‘บ้านหลวง’ ต่อ พน้อมให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัย

ตลอดสัปดาห์ มีกระแสข่าวมาอย่างต่อเนื่องว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย ได้ขนย้ายสิ่งของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. ประกาศรับรองสส.ครบ 100 % ทั้ง 500 คน แล้ว ล่าสุดมีความเคลื่อนไหนจากนายกฯ แล้ว

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงทิศทางการโหวตตำแหน่งประธานสภา ว่าอย่าเอาผมไปเกี่ยวข้อง ยืนยันไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น 

 

ยืนยันว่าผมยังอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ และไม่ได้เจรจาอะไรกับใคร ไม่ได้ดีลกับใคร อยู่รวมไทยสร้างขาติในเวลานี้ยังไม่ได้ไปไหน 

 

ผมไม่ได้เจรจากับใคร ไม่ได้ไปดีลกับใครทั้งสิ้น เรื่องนี้เราต้องเคารพซึ่งกันและกันในเรื่องของกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ ขบวนการทางการเมือง รวมพรรครวมกลุ่ม รวมฝ่ายอะไรก็แล้วแต่ ผมไม่ยุ่ง ตรงนี้นะจ้ะ

 

เมื่อถามว่า เรื่องการเก็บของออกจากทำเนียบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า อ้าว ทำไม ไม่เก็บไม่ได้เหรอ สนใจแต่เรื่องเก็บไม่เก็บ ก่อนจะยอมรับว่าทยอยเก็บของไปบ้างแล้วเพราะต้องทำตามระยะเวลาที่ควรจะทำ ห้องเรามันก็รกเพราะเอกสารเยอะมาก อยากจะรื้อตั้งนานแล้ว เดินยังสะดุด เอกสารก็เยอะเพราะอยู่มาหลายปี

 

เมื่อถามว่ากองทัพแสดงความเป็นห่วงหรือไม่ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็น นายกรัฐมนตรี และเป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่าห่วงเรื่องอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่า ห่วงจะมีการลงถนน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงเขาจะดำเนินการมีกระบวนการอยู่แล้ว ถ้าชุมนุมโดยสงบก็ว่าไป แต่ถ้าใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น หรือเข้าไปในเขตที่หวงห้ามก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่าให้เกิดเลย

 

เลือก‘ประธานสภา’หัวหน้า รทสช. ดูแลอยู่

เมื่อถามว่าจะมีการประชุมเพื่อเลือกประธานสภา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ จะกำหนดให้พรรคเลือกอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมไม่ยุ่ง ผมไม่ตอบ เพราะผมไม่ได้ยุ่ง ก็จบแล้วว่าไม่ยุ่งสักอย่าง จบไหมล่ะ ดังนั้นการออกมาพูดว่านายกฯเห็นชอบตรงนั้น ตรงนี้ ผมไม่เห็นชอบกับใครสักคน ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติจะโหวตให้ใครเดี๋ยวเขาก็หารือกันเอง ตนมอบหมายให้หัวหน้าพรรคดูแลตรงนี้อยู่ ไม่จำเป็นต้องสั่งเขา ส่วนจะฟรีโหวตหรือเป็นมติพรรคแต่ละพรรคก็มีมติของเขา

 

ขณะเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ ของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ออกมาโพสต์ว่าจะอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จนวินาทีสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ดูกฎหมายแล้วมันทำได้

 

เมื่อถามว่า มีความสุ่มเสี่ยงหากมีคนร้อง พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ก็ไม่เคยเกิดขึ้นเพราะไม่เคยมี แต่เรื่องนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีบอก ว่าไม่มีปัญหาอะไรได้ตรวจสอบแล้วก็สามารถทำหน้าที่ได้จนถึงวันปฏิญาณตน

 

ปัดไม่เกี่ยว ‘ประวิตร’ อาจจะนายกฯ คนต่อไป

ส่วนกระแสข่าวมีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น นายกรัฐมนตรีคนต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมไม่ทราบ เห็นในข่าววันนี้ แล้วเอาผมไปเกี่ยวพันด้วย ผมไม่เกี่ยวข้อง

 

เมื่อถามว่าเป็นพี่น้องกัน อาจจะอ่านใจกันได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่ามาถามผมทำไม คงไม่ถึงกับอ่านใจกันได้ขนาดนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของการเมืองก็ให้กลไกการเมืองว่ากันไป 

 

เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าพล.อ.ประวิตรเป็นได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเสียงสูงว่า “ไม่เอา ผมไม่ตอบตรงนี้ เป็นเรื่องของการลงคะแนนเสียง เรื่องของกลไก ว่าใครจะรวมกับใคร ผมยังไม่รู้เลย ตอนนี้รู้เพียงแค่ว่ามีพรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 อันดับ 2 ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามนี้ อย่าไปสงสัยกันมากนักเลย ผมก็ทำแบบนี้มาตลอด”

 

ไม่ก้าวล่วงรัฐบาลใหม่

เมื่อถามย้ำว่า ถ้ามีนายกฯมาใหม่จริงๆ จะใจหายหรือไม่เพราะอยู่ตรงนี้มา 8 ปีพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าไม่หรอก เพราะผมถือว่าทำดีที่สุดแล้ว ถึงจะไม่ 100% แต่ผมก็ทำไว้เยอะ ซึ่งถ้าได้รับการสานต่อก็จะแก้ปัญหาได้ บางอย่างไม่ได้แก้ภายในปี 2 ปีอยู่แล้ว จะเห็นว่าเราใช้เวลาถึง 8-9 ปีที่ผ่านมา ก็ทำได้เยอะพอสมควร แต่ก็ต้องทำต่อ

 

เมื่อถามว่าอยากให้รัฐบาลใหม่สานต่อนโยบายอะไรทันที พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายอย่างเป็นโครงการที่วางไว้แล้ว ตามแผนงานที่มีอยู่แล้วตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ทุกอย่างทำให้เกิดความต่อเนื่อง ถ้าหยุดมันก็จะไม่ยั่งยืน ผมเข้าใจพี่น้องประชาชนต้องการแต่เราต้องมองในภาพใหญ่ นี่คือหลักการในการทำงานของตน รัฐบาลใหม่ผมไม่ไปก้าวล่วง

 

เมื่อถามว่า ท่านยังไม่ประกาศวางมืออย่างชัดเจน พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ถึงเวลาผมก็ว่าของผมเองผม ไม่จำเป็นต้องไปตอบใคร ทำไมอยากรู้มากมายนักเหรอ ทำไมต้องชัด แต่ชัดอย่างเดียว ว่าตนไม่ไปยุ่งกับเขา

 

เมื่อถามว่า เมื่อพ้นจาก ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะต้องย้ายออกจากบ้านพักใน ร.1 รอ.หรือไม่พลเอกประยุทธ์กล่าวว่าเป็นเรื่องของกติกาเดิม ถ้าวันหน้าจะแก้ไขก็ต้องไปแก้กฎกระทรวง มันเป็นระเบียบของกองทัพบกอยู่แล้ว ดังนั้นการที่จะดูแลผู้บังคับบัญชามันเป็นกติกาเดิม แต่ถ้าอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนไป ผมก็พร้อมออก

 

ขออยู่บ้านหลวงต่อ

เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่าอยู่ได้ในฐานะ อดีต ผบ.ทบ. ใช่หรือไม่พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าอดีตผบ.ทบ.และนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลายประเทศก็ดูแลกันอยู่ มีหลายประเทศเขาไล่คนเก่าไหมล่ะ เขาก็มี รปภ.ดูแลตลอดแต่ประเทศไทยไม่ได้เลยต้องเท่าเทียม ผมก็เคารพกติกา“วันนี้ผมอยู่เพราะคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย เข้าใจไหมเล่า บ้านผมก็มี แต่มันไม่ปลอดภัย”

 

เมื่อถามว่าเขาไม่เข้าใจในเรื่องความมั่นคง พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า “ไม่รู้เขา ก็เรื่องของเขา” เมื่อถามต่อว่าห่วงว่าใครจะมาทำอะไร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ไม่ใช่ห่วง โธ่ มันเป็นหน้าที่ มันเป็นสากลเข้าใจไหม ก่อนจะบอกว่า “ผมก็มีแรงดูแลตัวเองอยู่เหมือนกันแหละ ผมจะต้องไปอะไรกับคนอื่นเขาเล่า”

 

เมื่อถามย้ำว่าทำไมคิดว่า ตัวเองจะไม่ปลอดภัย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่ เขาพูดถึงหลักการ ผู้นำ อดีตผู้นำ วันนี้ถ้าทุกคนเท่าเทียมกันหมด วันนี้ผมมาก็ไม่ต้องมีใครมากับผมสิ ทำได้ไหม ไปไหนคนเดียว เดินอยู่คนเดียวได้ไหม เขาก็ต้องให้เกียรติ คุ้มครอง ดูแล เป็นหน้าที่ของเขา เดี๋ยวรัฐบาลหน้าเขาก็ได้รับการดูแลเหมือนกันแหละ แต่เขาไม่ใช่ทหารแบบผมเท่านั้นเอง”

 

เมื่อถามว่ากลัวจะโดยเช็คบิลย้อนหลังหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “กลัวอะไรเล่า เออ ผมกลัวอะไรล่ะ”

 

เมื่อบอกว่าพรรคเพื่อไทย บอกว่าจะมีการดำเนินคดีย้อนหลังเรื่องการทำรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เรื่องของเขา ก็สู้ตามกฎหมายเอา ก็แจ้งไป มันจบไปตั้งนานแล้ว เมื่อบอกว่าเขาจะดำเนินการเอาผิดย้อนหลังพล.อ.ประยุทธ์บอกว่ามันย้อนได้ไหม เขาพยายามแต่มันทำได้หรือไม่ มันผิดหลักการทางกฎหมายหรือเปล่า แก้รัฐธรรมนูญมีผลย้อนหลังได้หรือไม่

 

เมื่อถามว่ามั่นใจ จะไม่โดนเช็คบิลย้อนหลังหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าไม่รู้ ไม่ทราบ ก่อนจะเดินขึ้นรถ และบอกว่าข่าวลือคือข่าวลือ ไม่ฟังขี้เกียจฟัง

 

เมื่อถามว่า อยากฝากอะไร พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าไม่ฝาก เมื่อถามอีกว่า ถ้าพล.อ.ประวิตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ จะให้กำลังใจอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าไม่ทราบรวมถึงเมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะไปร่วมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ โบกมือไล่ บอกไปเลือกประธานสภาให้ได้ก่อน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน กระแสเลือกประธานสภา ระหว่างพรรคก้าวไกล ที่เป็นพรรคอันดับ1 และพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคอันดับ2 ว่าควรจะเป็นโควตาพรรคไหน ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง

 

แต่ท่าทีของพรรคก้าวไกลสงบนิ่ง ส่วนเพื่อไทย มีสส.รุนเก๋าออกมาขย่มพรรคก้าวไกล อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เรียกสติขอให้ยึดหลักการ ประธานสภา ควรเป็นของพรรคที่มีเสียงอันดับ1 อย่างพรรคก้าวไกล

 

logoline