ข่าว

'ปฎิบัติการ IO' คืออะไร ก้าวไกล ใช้ แย่งคะแนน ทางการเมือง ?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทำความเข้าใจ 'ปฎิบัติการ IO กับ user generated content UGC' พลังการตลาด แย่งคะแนน ทางการเมือง เป็นที่มา 'ไอโอก้าวไกล'

“นี่คือขบวนการ “ไอโอก้าวไกล” เป็นแท็คติกที่ยัดเพื่อไทยเข้ากับกลุ่ม 2 ลุง เพราะคนไม่ชอบ กว่าเราจะดิ้นออกมาได้ ก็ช้าไปหน่อย เครื่องไม้เครื่องมือของเราก็ไม่มี เราไม่มีเอไอ ไม่มีแอ๊คเคาท์หลุม ไม่มีโรบ็อท เราเลยถูกบังคับให้เป็นคนดีที่เสียแล้ว” คู่แข่ง มีปฎิบัติการ IO ใช้ในการกระจายข่าว นั่นเป็นคำพูดของ “ทักษิณ” ที่พูดชัด ในรายการแคร์ทอล์ค เป็นที่มาทำให้พรรคเพื่อไทย พ่ายแพ้การเลือกตั้ง

 

 

 

“ปฎิบัติการ IO” ความหมายของมัน มาจากคำว่า “Information Operation” หรือ ปฎิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร โดยใช้สื่อออนไลน์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลโจมตีฝ่ายตรงกันข้ามอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นความหมายในมุมกว้าง

 

ภาพประกอบ ปฎิบัติการ IO

 IO คืออะไร

 

ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน อธิบายกับ “คมชัดลึก” ไว้อย่างเข้าใจง่ายๆ ว่า ไอโอ (IO) เกิดมาตั้งแต่ยุคโบราณ เช่น สองประเทศรบกัน ก็จะมีการปล่อยข่าว เพื่อทำลายขวัญและกำลังใจฝ่ายตรงข้าม

 

 

“อาจจะบอกว่า แม่ทัพตายแล้ว แม่ทัพหนีแล้ว แต่ต่อมามีการพัฒนาขึ้น มีสื่อสารมวลชน ก็จะมีการใช้ IO ผ่านสื่อต่างๆ ในการโจมตีฝ่ายตรงข้าม มีทั้ง การปล่อยข่าวลวง, การใส่ร้าย, การโจมตี เรียกว่าปฎิบัติการด้านจิตวิทยา โดยเฉพาะในช่วงของการทำสงคราม” ดร.มานะ อธิบาย

 

ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์

 

ปฎิบัติการ IO กับการเมือง

 

แต่หากในมิติทางการเมือง ดร.มานะ อธิบายว่า จะมีการใช้ IO ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่จะเป็นหน่วยงาน หรือองค์กร ในการใช้เครื่องมือสื่อสาร ถ้าสมัยก่อน ก็จะใช้วิทยุ, ทีวี หรือหนังสือพิมพ์ ในการโจมตี หรือเผยแพร่ข้อมูล เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่น ในยุคสงครามเย็น เราจะได้เห็น IO ในการที่บอกว่า ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป คอมมิวนิสต์เป็นยักษ์ เป็นมาร เพื่อทำให้คนในสังคมนั้นๆ เชื่อ หรือ คล้อยตาม นี่คือ IO ในช่วงก่อนที่จะมีโซเชียลมีเดีย 

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสถาบันพระปกเกล้า ระบุว่า ลักษณะของบัญชีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย ที่เชื่อว่าเป็น IO นั้น มักจะถูกสังเกตได้จากการที่เป็นบัญชีที่ไม่เปิดเผยชื่อ และรูปภาพโปรไฟล์จริง หรือที่เรียกกันว่า “บัญชีอวตาร” (avatar) ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ใน 2 ประการ คือ ประการแรก ใช้เพื่อติดตามผู้ใช้งานอื่น หรือแฟนเพจ-ทวิตเตอร์ ที่เผยแพร่ข้อมูลสนับสนุนรัฐบาล หรือติดตามผู้ใช้งานที่เป็น IO ด้วยกัน เพื่อเพิ่มจำนวนคนที่เห็นไปในทิศทางเดียวกัน ประการที่สองใช้เพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้าม หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง ที่แสดงความคิดเห็นตรงข้ามกับรัฐบาล

 

 

“เหมือนเป็นการปั่นให้คล้อยตาม และต้องการใส่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อทำให้คนในสังคมเชื่อ หรือคล้อยตาม” แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกล ดร.มานะ เชื่อว่า มาจาก user generated content (UGC)

 

ภาพประกอบ user generated content

 

User generated Content คืออะไร

 

User-generated Content หรือ UGC คือเนื้อหาคอนเทนต์ทุกประเภท ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเหล่าผู้บริโภคตัวจริง และมีความเกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ หรือแบรนด์โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นโพสต์รีวิวสินค้าบนเฟซบุ๊ก, ภาพถ่ายคู่กับสินค้าที่ถูกโพสต์ลงในอินสตาแกรม, ทวิตต่างๆ จนไปถึงบทความ และกระทู้บนเว็บบอร์ดทั่วไป ซึ่งต้องเป็นคอนเทนต์ที่ไม่ได้เกิดจากคนที่มีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์ ไม่ใช่อินฟลูเอนเซอร์ และไม่ใช่คนที่ได้ผลประโยชน์จากแบรนด์นั่นเอง

 

 

ความแตกต่างระหว่าง IO กับ user generated content (UGC)

 

ดร.มานะ อธิบายความแตกต่างระหว่าง IO กับ UGC ว่า  IO เป็นปฎิบัติการหวังทำลายฝ่ายตรงข้าม ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ที่อาจจะเป็นเท็จ หรือเป็นจริงด้วย เช่น เรื่องของฐานทัพอเมริกา จะตั้งในประเทศไทย นี่คือ ปฎิบัติการ IO ผ่านหน่วยงานรัฐ แพร่กระจายออกไป ทั้งสื่อปกติ และโซเชียลมีเดีย โดยไม่สามารถหาต้นทางได้ว่า มีการพูดจริงหรือไม่

 

 

แต่ UGC เกิดขึ้นมาในช่วงที่มีโซเชียลมีเดียมากขึ้น ซึ่งมีแพลตฟอร์มต่างๆ ที่หลากหลาย โดยเฉพาะในช่วงหลัง โซเชียลมีเดีย อย่าง Tiktok มีแอปพลิเคชันที่คนธรรมดาทั่วไป สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ด้วยตัวเองง่ายขึ้น เมื่อนำไปเกี่ยวโยงในเรื่องประเด็นทางการเมือง จึงเกิดการนำมาเล่นลูกเล่นของแต่ละคนได้มากขึ้น

 

 

“อย่างก้าวไกล เจาะจงที่จะใช้ประโยชน์จาก UGC ค่อนข้างชัดเจน เช่น ใช้คำว่า “กาก้าวไกล” เป็นการเปิดช่องให้มีการครีเอทคอนเทนต์ได้เยอะ หรือ ครีเอทใน Tiktok มีคลิป แบรนด์สีส้ม มันมีลูกเล่นให้คนที่เป็นแฟนคลับ หรือ ด้อมส้ม เอาไปเล่นค่อนข้างเยอะ พอมีคอนเทนต์โดนใจ เขาก็จะเล่นได้ง่ายขึ้น และไปโดนใจกลุ่มเป้าหมายของเค้า เค้าจึงใช้วิธีที่เรียกว่า หัวคะแนนตามธรรมชาติ กระจายออกไปตามช่องทางของตัวเองได้มากขึ้น” ดร.มานะ อธิบาย

 

ภาพประกอบปฎิบัติการ IO

 

อย่างไรก็ตาม สรุปแบบเข้าใจง่ายๆ คือ IO เป็นการแสดงความเห็นหรือนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับปฏิบัติการ ในพื้นที่สื่อออนไลน์ ทั้งโจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างเปิดเผย 

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพจาก Love Pic

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ