"สนธิ"ประกาศลาออกหน.พรรคการเมืองใหม่

 เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 14 พฤษภาคม นายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์เอเอสทีว่า ขอประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เพื่อกลับไปเป็นคนเก่ารักษาสัจวาจา ไม่อยากถูกกุญแจมือคล้องไว้ ติดขัดกับข้อระเบียบบังคับ ทำอะไรก็ไม่ได้ จึงอยากกลับมาทำหน้าที่สื่อมวลชนที่เลวน้อยที่สุด ขอเข้ามาสู่พันธมิตรประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติอย่างเต็มตัว

 นายสนธิกล่าวต่อว่า เมื่อตอนที่เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เมื่อปีที่แล้ว บอกว่าจะเข้ามาเพียงชั่วคราวเพื่อให้พรรคเดินหน้าไปได้เท่านั้น ดังนั้นต้องรักษาคำพูดด้วยการลาออก เพื่อจะออกมาเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างเต็มตัว ร่วมกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายพิภพ ธงไชย และเพื่อให้ออกมาทำหน้าที่สื่อมวลชน หรือพูดอะไรได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องติดเงื่อนไขต่างๆ ตามกฎหมายพรรคการเมือง อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่พรรคการเมืองใหม่เป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่มีอุดมการณ์ของพันธมิตร ดังนนั้นตนจะยังสนับสนุนพรรคการเมืองใหม่อย่างเต็มที่ต่อไปเหมือนเดิม

 "การที่พูดเช่นนี้กำลังชี้ให้ชัดว่า ผมสนับสนุนพรรคการเมืองใหม่ 100% เพราะอย่างน้อยที่สุดน้ำวนในน้ำเน่ายังมีน้ำดี 1-2 ขัน ผมสามารถแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่าพูดเพื่อขอคะแนน เพราะพันธมิตรเป็นที่รวมของคนมีจิตใจสูงส่ง มีศีลธรรม คนที่คิดดีทำดีไม่ต้องมีบัตรสมาชิก คนที่ออกมาปกป้องสถาบันกษัตริย์ คือ พันธมิตร" นายสนธิกล่าว

 นอกจากนี้นายสนธิยังกล่าวถึงความล้มเหลวของการเมืองไทยที่กำลังเผชิญกับเหตุการณ์รุนแรงระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า สังคมไทยไม่เคยมีการปฏิวัติอย่างแท้จริง ที่ผ่านมามีเพียงรัฐประหาร ประเทศไทยถูกการเปลี่ยนผ่าน เหมือนสมบัติผลัดกันชม หากจะถามว่า ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมากล่าวได้ว่า รัฐบาลภายใต้การบริหารของ พล.อ.เปรม ติณสูนานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นรัฐบาลที่บริหารประเทศชาติได้ดีที่สุด  เพราะพล.อ.เปรมบริหารประเทศด้วยการเอาผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ไม่เคยยึดติดกับผลประโยชน์ส่วนตัว ตลอดเวลาบริหารประเทศชาติ ด้วยคำว่า ธรรม ทำหน้า

 "แต่พอมาถึงยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี อาจกล่าวได้ว่าเป็นจุดตกต่ำของการเมืองไทย และกองทัพไทย เพราะตั้งแต่นั้นสถาบันหลักของเราถูกทำร้ายมาตลอด นักการเมืองเริ่มคอรัปชั่นมากขึ้น เริ่มเอาคนของตนเองเข้าไปมีบทบาทในกองทัพ การเมืองไทยตกต่ำมาเรื่อยๆ แต่มาร้ายแรงที่สุดในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะคุณทักษิณต้องการยึดอำนาจไว้ในมือ ประกอบกับมีพวกซ้ายอกหักเข้ามาวางยุทธศาสตร์มอมเมาประชาชนด้วยการหว่านเงินทอง ทำให้ประชาชนเสพติดกับผลประโยชน์ที่ทักษิณมอบให้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่มาของสูตรเลือกตั้งที่ผู้มีเสียงข้างมากถือเป็นผู้ได้สิทธิขาดในการบริหารประเทศ และเมื่อทุนเข้ามาสถาบันย่อมหวั่นไหว" นายสนธิ กล่าว

 อย่างไรก็ตาม แม้ พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นคนที่ทำให้การเมืองไทยมาถึงจุดตกต่ำมากที่สุด แต่โดยส่วนตัวยังเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังดีกว่าคนในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณยังรู้จักใช้คน บริหารคน แต่รัฐบาลชุดนี้ ตำรวจ หรืออธิบดีต้องใช้เงินซื้อตำแหน่ง ดังนั้นจึงอยากถามกลับไปว่า เมื่อตำรวจและเจ้าหน้าที่พวกนี้ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ใครจะมาทำงานเพื่อประเทศชาติ

 "ผมเห็นว่า คุณทักษิณ และคุณอภิสิทธิ์ คือผลผลิตของระบบน้ำเน่า รัฐบาลชุดนี้คือ รัฐบาลเทพอสูร ซึ่งประกอบด้วยเทพอภิสิทธิ์ ส่วนอสูรคือพวกพรรคร่วม เนวิน และทหาร วันนี้คุณอภิสิทธิ์ต้องมีความกล้า เมื่อเป็นนายกฯ ต้องไม่ลืมคำว่าหน้าที่ และหน้าที่ต้องมาก่อนบุญคุณใดๆ รัฐต้องรู้หน้าที่ เพราะที่ผ่านมาคนเสื้อแดงไม่เคยรับรู้ข้อมูลว่าสิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด ผมเชื่อว่ามีคนเสื้อแดงจำนวนมากรักสถาบัน แต่ประชาธิปัตย์ไม่เคยทำอะไรเลยตั้งแต่เป็นรัฐบาลมาเกือบ 2 ปี เพิ่งจะมาทำเมื่อ 2 เดือน ที่ผ่านมา เหตุที่คนเสื้อแดงขยายวงกว้างและเหิมเกริมจนทุกวันนี้ เพราะประชาธิปัตย์ไม่คิดจะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง และถือเป็นความโชคดีที่โรดแม็พของรัฐบาลถูกลอยแพ หากโรดแม็พสำเร็จลุล่วง เท่ากับว่าสถาบันของเราจะถูกลอยแพไปเลย" นายสนธิ กล่าว

 นายสนธิ กล่าวต่อว่า "ส่วนปัญหาของคนเสื้อแดงเกิดจากความยากจน ไม่เท่าเทียมกัน ดังนั้นรัฐบาลต้องรู้จักแก้ปัญหาให้ตรงจุดอย่าทำให้เขารู้สึกว่าเกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่เหนือสิ่งอื่นใดเห็นว่า เราต้องก้าวผ่านคนชื่อทักษิณให้ได้ รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้มีคนมายิงกันกลางเมือง ผมยืนยันว่า ปัญหาของประเทศชาติจบในสภาไม่ได้ เพราะสภาคือตัวปัญหาหลัก"