ข่าว

ภูมิธรรม ประกาศไม่รับตำแหน่งใน กก.บริหารพรรค

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ภูมิธรรม ประกาศไม่รับตำแหน่งใน กก.บริหารพรรคเพื่อไทย ชุดใหม่ ยัน อยู่ช่วยพรรคไม่คิดย้ายหนี เผย ปรับโครงสร้างพรรคเปิดทางคนรุ่นใหม่

 

 

          3 ก.ค.62-นายภูมิธรรม เวชยชัย  รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวผลการประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค ว่า หลังจากที่หัวหน้าพรรคพลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ได้ยื่นใบลาออกต่อตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ก็จะมีการส่งหนังสือลาออกแจ้งต่อกกต. ให้รับทราบ ตามกฎข้อบังคับ ดังนั้นคณะกรรมการบริหารพรรคที่กำลังทำหน้าที่ในปัจจุบัน ก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และหลังจากนี้เป็นต้นไปผู้ที่ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรค คือนายปลอดประสพ สุรัสวดี ไปจนกว่าจะมีการดำเนินการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันประชุมใหญ่ที่ 12 กรกฎาคม 2562 ที่ห้องประชุมใหญ่ชั้น 8 พรรคเพื่อไทย โดยมีองค์ประชุม คือ รักษาการคณะกรรมการบริหารชุดปัจจุบัน ผู้แทนภาค ผู้แทนสาขา ประจำจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด รวมถึงผู้แทนราษฎรทั้ง 136 คน และอดีตผู้แทนราษฎรและอดีตรัฐมนตรีของพรรคทั้งหมด เป็นองค์ประชุมซึ่งไม่ต่ำกว่า 250 คน อยู่ที่ประมาณ 494 คน โดยกระบวนการทั้งหมดจะต้องเกิดขึ้นในกลางเดือนกรกฎาคมเพื่อที่จะให้ทันต่อการแถลงนโยบายของรัฐบาล

 

  

          ถามว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่มีชื่อของส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในกระบวนการขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดรายชื่อว่าใครเป็นใคร แต่ได้ออกหนังสือบอกกล่าว เพื่อแจ้งให้สมาชิกได้นำเสนอบุคคลจำนวนหนึ่งเพื่อที่จะให้ที่ประชุมใหญ่ได้พิจารณา ทั้งนี้นายสมพงษ์ ก็เป็นบุคคลที่มีสมาชิกได้เสนอชื่อ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่มติในที่ประชุม

               ภูมิธรรม ประกาศไม่รับตำแหน่งใน กก.บริหารพรรค

         ส่วนกรณีที่ตนเองได้ประกาศลาออกและไม่รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อเป็นไปตามกระบวนการ หัวหน้าพรรคได้ลาออกคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งคณะก็ต้องออกเช่นกัน และต้องผ่านขั้นตอนของบุคลากรในพรรคได้เลือก ขณะที่ส่วนตัวนั้นเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ตั้งแต่ต้นโดยเฉพาะในช่วงสุดท้าย ที่เข้ามาในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งได้ผ่านช่วง วิกฤตการณ์ทางการเมืองมาหลายช่วง จนสุดท้ายได้นำพรรคเพื่อไทยลงเลือกตั้งจนมีส.ส.มากที่สุด เป็นพรรคอันดับ 1 ด้วยเงื่อนไขทางรัฐธรรมนูญทำให้พรรคไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงได้สร้างกระบวนการรวบรวมพรรคฝ่ายค้าน 7พรรค 253 เสียง อย่างไรก็ตามส่วนตัวถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างที่สุดแล้ว และได้นำพาพรรคมาในช่วงที่มีวิกฤตการณ์จนคิดว่าได้ผ่านพ้นมาอยู่ในตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค อย่างยาวนานพอสมควรแล้ว จึงได้เวลาที่พรรคควรจะต้องหาบุคลากรหรือบุคคลต่างๆเข้ามาทำหน้าที่ซึ่งเป็นเรื่องของคนรุ่นหลัง จะต้องแบกรับภารกิจ ของพรรคจากนี้ไป ทั้งนี้ส่วนตัวก็จะไม่ไปไหนพร้อมผลักดันให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ทางประชาธิปไตยต่อไป ยืนยันได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งหรือเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่จะถึงนี้

           ทั้งนี้ไม่คิดที่จะย้ายพรรค และยังเชื่อมั่นใน อุดมการณ์ของ พรรคเพื่อไทย ที่อยากให้สังคมไทยเป็นประชาธิปไตย ก็จะทำงานเป็นฝ่ายสนับสนุน

      ทั้งนี้ในส่วนของการปรับโครงสร้างพรรค ช่วยทำการเปิดทางให้กับคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานพรรคและเป็นการผสมผสานการทำงาน ให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงไปของโลก ขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มองว่า ไม่ใช่เพื่อการปรับรูปแบบสำหรับการทำหน้าที่ในสภาเท่านั้น แต่พรรคเพื่อไทยได้ปรับตัวเองอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพื่อให้งานทั้ง 2 ส่วนคืองานในสภา และงานกับประชาชน ได้ประสานกันและกัน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ