ข่าว

"วัฒนา"ฟ้องกลับโรงแรมเหตุคลิปหลุด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วัฒนา"ฟ้องกลับโรงแรมเหตุคลิปหลุด ร้องเพิกถอนใบอนุญาตทำโรงแรม บอกพูดเรื่องคลิปครั้งสุดท้าย ยันไม่กระทบการเมือง

 

                  3 มกราคม 2562 ที่พรรคเพื่อไทย  "นายวัฒนา เมืองสุข"  อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย 

 

 

                  ในฐานะทีมทนายความของนายวัฒนา แถลงข่าวการฟ้องกลับและดำเนินคดีกับผู้ปล่อยภาพและคลิปสัมพันธ์สาวจากการแอบถ่ายภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการแชร์ในโลกโซเชียลมีเดียต่อเนื่องวันที่ 20-21 ธ.ค.61

 

                    "นายวัฒนา"แถลงว่า เหตุที่เพิ่งออกมาพูดและยังไม่ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีนั้น หลังจากเหตุเกิดขึ้นสังคมวิพากษ์วิจารณ์ ต้องการให้สังคมได้ตั้งสติ เรื่องนี้มีเป้าหมายคือการเมือง เนื่องจากปล่อยคลิป ช่วงเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และมีการแปะโลโก้พรรคในภาพที่ปล่อยออกมา จึงมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ และมองว่าหากเป็นคนทั่วไปจะไม่สามารถติดตามดักฟังโทรศัพท์จนรู้ว่าตนจะเดินทางไปที่ไหนอย่างไรได้ มุมกล้องเป็นการเซ็ตอัพ เหตุที่ตนไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เพราะกลัวจะมีการช่วยเหลือกัน ดังนั้นการดำเนินคดีนี้เราจะฟ้องเอง โดยมอบหมายให้ดำเนินคดีทั้งหมด 4 กลุ่ม

 

                โดย กลุ่มที่ 1.เจ้าของโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ โดยจะเป็นการปล่อยให้ใครทำหรือทำเองก็แล้วแต่ การแอบถ่ายคลิปละเมิดความเป็นส่วนตัวตามรัฐธรรมนูญและปฏิญญาสากล ถือว่าโรงแรมก่ออาชญากรรม มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานอนาจารฯ มาตรา 278 ซึ่งตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ 21 ธ.ค. จนถึงวันนี้ก็ไม่เห็นมีฝ่ายบ้านเมืองหรือใครเอาผิดกับผู้เผยแพร่และวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งที่เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ต่างจากเพจที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลที่ดำเนินการทันทีและกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกาะเต่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็เร่งดำเนินการ

 

                 ตนจะเป็นผู้ร่างคำฟ้องเองและมอบให้ทนายความไปยื่นฟ้องศาลอาญาภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งคดีที่มีพฤติการณ์ลักษณะนี้ก็เคยมีคำพิพากษาฎีกา (ที่ 12983/2558) วินิจฉัยออกมาว่าการแอบถ่ายคลิปเป็นความผิด ทั้งนี้ ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อโรงแรม เพราะอาจจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทได้ บอกได้แต่เพียงย่านรัชดา ถ้าหลังจากฟ้องเป็นคดีแล้วชื่อก็จะปรากฏในคำฟ้อง

 

                 "คดีนี้เป็นคดีอาญาความผิดต่อแผ่นดิน ไม่ต้องให้มีใครแจ้งความ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจะเห็นว่ากระบวนยุติธรรมในวันนี้ไม่ได้อยู่ข้างผม ไม่ได้อยู่ข้างคนที่อยู่ตรงข้ามเผด็จการ นั่นคือสาเหตุที่เราต้องฟ้องเอง โดยมอบหมายให้ทนายฟ้องคดีแรกคือความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ซึ่งเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาเคยลงโทษแล้ว โดยให้เป็นความรู้กับทุกท่าน โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่อาจจะโดน ว่าการแอบถ่ายคลิป ศาลถือว่าเป็นความผิดฐานอนาจาร เพราะว่าคนที่ถูกถ่ายไม่มีใครยินยอม ศาลถือว่าเรื่องนี้เป็นการใช้กำลังประทุษร้ายทางจิตใจ"

 

                   2.การฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจากเจ้าของโรงแรม เพราะเมื่อมีความผิดทางอาญาเกิดขึ้นแล้ว การกระทำนั้นก็นำมาสู่ความผิดทางละเมิดด้วย โดยเป้าประสงค์ที่เขาทำชัดเจนคือเรื่องการเมือง เพราะถ้าเหยื่อเกิดความอับอาย ก็เข้าทางและยังจะมีผลต่อการเลือกตั้ง ส.ส. อาจมีผลต่อการดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมทั้งการตัดสินใจของพรรค แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตนเป็นคู่ต่อสู้ ตนไม่ยอมเป็นเหยื่อ เพราะถ้าตนยอมเป็นเหยื่อก็เข้าทาง รู้อยู่แล้วเป้าหมายคือการทำลายทางการเมืองโดยเอาเรื่องความเป็นอยู่ส่วนตัวมาเป็นเครื่องมือจัดการทางการเมือง ซึ่งเรื่องเหล่านี้ตนโดนมาตลอด ตั้งแต่โดนคนชกที่สนามฟุตบอล ถูกทหารอุ้มไปปรับทัศนคติ พร้อมถูกดำเนินคดีจากการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เมื่อจัดการด้วยกฎหมายไม่ได้ ก็ใช้วิธีสกปรกที่มนุษย์พึงคิดได้มาจัดการ 

 

                    3.การร้องต่อกรมการปกครองในฐานะนายทะเบียน ให้เพิกถอนใบอนุญาตโรงแรมแห่งนี้ เพราะไม่มีจรรยาในการประกอบวิชาชีพ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งโรงแรมเป็นธุรกิจต้องควบคุม ถือใบอนุญาต ต้องให้ให้ความไว้วางใจและความปลอดภัยกับผู้ใช้บริการที่จ่ายเงิน ไม่ได้อยู่ฟรี เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เกิดความไม่เชื่อถือทั้งในระดับธุรกิจ รวมทั้งความปลอดภัยของประชาชนในภาพรวม ซึ่งในอนาคตอาจจะเป็นใครโดนก็ได้ 

 

                    4.การดำเนินคดีโดยแจ้งความเอาผิดกับบุคคลที่เผยแพร่คลิปต่อ ปอท. ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กลุ่มนี้จะมีเยอะ โดยสำหรับประชาชนที่เคยแชร์ไม่เป็นไร แต่กับต้นตอตนดำเนินคดีทุกคนแน่นอน และหลังจากนี้ถ้าประชาชนแชร์อีกก็จะดำเนินคดี เพราะถือว่าเตือนแล้ว ส่วนสื่อที่เผยแพร่ต้องดูเจตนา ตนเป็นคนสาธารณะ ที่ผ่านมาใครจะด่าแรงสาดเสียเทเสียตนก็ไม่เคยตอบโต้ คดีบ้านเอื้ออาทรตนก็ไม่เคยตอบโต้ พร้อมพิสูจน์ตนเองในชั้นศาล แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ถือว่าเกินเลย ตนดำเนินคดีแน่นอน โดยส่วนนี้จะมอบหมายให้ทนายความจากสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) เป็นผู้ดำเนินการ

 

                  ส่วนประเด็นการเมืองนั้น นายวัฒนา ระบุว่าไม่กระทบการทำงานการเมืองของตน เพราะผู้ใหญ่ในพรรคเข้าใจว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ยืนยันตนยังเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางแค พรรคเพื่อไทย และในวันที่ 5 ม.ค.นี้ ตนก็จะลงพื้นที่พบประชาชน พร้อมกับบุตรสาวด้วย และเรื่องดังกล่าว นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ได้ให้กำลังใจและเห็นด้วยที่ตนจะเดินหน้าฟ้องร้องเอาผิด หลังจากแจ้งความดำเนินคดีแล้วตนจะไม่พูดเรื่องนี้อีก ส่วนประเด็นที่ถูกโยงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเชื่อมโยงกันนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันทางการเมือง โดยเรามีเพียงเป้าหมายเดียวกันเรื่องเพื่อประชาธิปไตย 

 

                   ส่วนกองทัพหรือ ผบ.ทบ.ตนยืนยันไม่เคยกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ แต่ก็ร้อนตัวออกมาปฏิเสธ 

 

                  ต่อข้อถามที่ว่า ได้มีการพูดคุยกับโรงแรมหลังเกิดเหตุหรือไม่ "นายวัฒนา" ระบุว่าหลังเกิดเหตุโรงแรมก็ไม่ติดต่ออะไรมา ไม่แสดงความรับผิดชอบ ซึ่งเขาอาจคิดว่าผู้มีอำนาจช่วยเขาได้แต่อย่าลืมว่าผู้มีอำนาจไม่สามารถมีอำนาจได้ตลอด

 

                 อย่างไรก็ดีนายวัฒนา ก็ยอมรับว่าเคยใช้บริการโรงแรมดังกล่าวหลายครั้ง และเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้ด้วย

 

                  ขอเรียนเป็นประการสุดท้าย เมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป้าหมายคือเขาต้องการทำลายเรา ถ้าเรายอมเป็นเหยื่อก็สมประโยชน์เขา เขาต้องการให้เกิดความอับอายให้ผมหายไป ไม่ต้องการเจอหน้าผู้คน หรือให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาเรื่องนี้ แต่ว่าความที่เราเข้าใจการเมืองพรรคก็มีความเป็นผู้ใหญ่พอรู้ว่าอะไรเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องไหนเกี่ยวข้องการทำงาน และสถานที่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นความชอบธรรมทั้งสิ้น วันนี้สิ่งที่เป็นความผิดมาก ๆ ที่ผมอยากจะมองคือโรงแรมผิดมาก

 

                   ผมจึงต้องดำเนินคดีกับโรงแรมอย่างถึงที่สุด ถึงขนาดต้องถอนใบอนุญาต เพราะเมื่อเป็นธุรกิจที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ แล้วทำกับประชาชนอย่างนี้ ก็ไม่ควรอยู่ในธุรกิจแบบนี้ อย่างที่เรียนมันไม่ใช่อาจเกิดกับผม แต่อาจจะเกิดกับคุณ ใครต่อใครก็ได้ ซึ่งสิทธิของคุณต้องได้รับความเคารพ เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นด้วยใครทำก็แล้วแต่ มันเกิดในสถานที่ที่คุณต้องรับผิดชอบ ดังนั้นผมต้องดำเนินคดีถึงที่สุด" นายวัฒนากล่าวย้ำความถึงความรู้สึก

 

                   นายนรินท์พงศ์ ทนายความ กล่าวว่า ตอนนี้กำลังแสวงหาข้อเท็จจริงคือใครทำ มีพยานหลักฐานค่อนข้างชัด ความผิดทางอาญาใครทำต้องนำคนผิดดำเนินคดีต่อให้ได้ ไปฟ้องต่อศาลเอง การฟ้องก็จะระบุชื่อโรงแรมชัดเจน กระบวนการต่างๆ ที่ทำเรื่องนี้มีหลากหลายทั้งการถ่าย การโพสต์คอมเม้นต์ ไม่ใช่ประโยชน์สาธารณะ ทำไมเอาเรื่องส่วนตัวมาก้าวล่วงจนเบี่ยงเบนประเด็น ขอฝากสั้นๆ ว่าอย่าทำเลย จะผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไปดูการเลือกตั้งเลื่อนไม่เลื่อนเป็นประโยชน์สาธารณะกว่า

 

                   อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการยื่นฟ้องจะเริ่มต้นที่คดีอาญาในสัปดาห์หน้า ส่วนคดีแพ่งยังไม่ได้กำหนดวันเวลา รวมทั้งมูลค่าความเสียหาย ซึ่งจะต้องรอให้นายวัฒนาพิจารณาด้วยตนเองก่อน ส่วนการไปยื่นร้องต่อกรมการปกครองเพื่อขอเพิกถอนใบอนุญาตนั้น อาจจะต้องรอการดำเนินคดีทางอาญาก่อน

 

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ