"บิ๊กตู่" เซ็ง รมต.-ขรก.เกียร์ว่าง ทำไทยนิยมฯไม่เข้าเป้า

          วันที่ 5 ต.ค. 2561 - นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาลว่า โครงการดังกล่าวไม่ต่างจากโครงการประชานิยมก่อนหน้านี้ที่มีแต่การลดแลกแจกแถมสิ่งต่างๆ ให้ประชาชนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ทราบว่าจะเป็นผลดีกับประชาชนหรือไม่ เพราะเมื่อมีการลงพื้นที่สอนอาชีพ และประชุมประชาชนในพื้นที่แล้วก็ไม่มีการสานต่อ บางโครงการก็ซ้ำซ้อน สุดท้ายก็หายไปไม่ต่อเนื่อง ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ที่แท้จริง จึงมองว่าเป็นเพียงโครงการประชาสัมพันธ์หาเสียงของรัฐบาลเท่านั้น

          รายงานข่าว เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช. ระบุว่าที่กระทรวงต่างๆ ที่รับผิดชอบโครงการไทยนิยมยั่งยืน นำโดย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น ยังไม่ผลักดันโครงการอย่างเต็มที่ หลังอนุมัติงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 จำนวน 95,758.1 ล้านบาท ลงไปในพื้นที่  81,151 ชุมชน แต่ที่ผ่านมาประชาชนไม่รู้จัก ผลงานไม่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม และไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ทั้งที่เป็นช่วงใกล้เลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 ที่นายกฯจำเป็นจะต้องสร้างผลงาน

             “นายกฯไม่พอใจ ที่รัฐมนตรีต่างๆ มุ่งทำงานในกระทรวงของตัวเองเท่านั้น ขณะที่ข้าราชการก็เกียร์ว่าง ไม่สนใจโครงการไทยนิยมยั่งยืน ซึ่งเป็นผลงานภาพรวมและหน้าตาของรัฐบาล จนเริ่มมีนักการเมืองเข้ามาตรวจสอบ และเชื่อว่าจะนำมาขยายประเด็นให้เห็นประชาชนเห็นถึงความล้มเหลวในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง สุดท้ายจะกระทบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลอย่างแน่นอน” รายข่าว ระบุ
 

          ทั้งนี้ โครงการไทยนิยมยั่งยืนต่อยอดความคิดมาจากโครงการประชารัฐ โดยขยายขอบเขตครอบคลุม 10 เรื่องได้แก่ 1.สัญญาประชาคมผูกใจไทยเป็นหนึ่ง จัดทำข้อตกลงร่วมกันของทุกฝ่าย เพื่อเป็นกรอบกติกาในการอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคีปรองดอง 2.คนไทยไม่ทิ้งกัน ดูแลผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนรับสวัสดิการแห่งรัฐ หรือผู้ถือบัตรคนจน เพื่อลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำในสังคม 3.ชุมชนอยู่ดีมีสุข มุ่งพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่และส่งเสริมอาชีพของคนในชุมชนผ่านการปรับโครงสร้างภาคการผลิต การเกษตร และการท่องเที่ยว

          4.วิถีไทยวิถีพอเพียง ส่งเสริมให้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต และสร้างวินัยการออม 5.รู้สิทธิ รู้หน้าที่ รู้กฎหมาย ทำให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงสิทธิ หน้าที่ และกฎหมาย เพื่อความเป็นพลเมืองที่ดี เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ 6.รู้กลไกการบริหารราชการ ให้ความรู้เกี่ยวกับกลไกการบริหารราชการในระดับต่างๆ และการบริหารงบประมาณที่มุ่งประโยชน์แก่ประชาชนเป็นหลัก 7.รู้รักประชาธิปไตยไทยนิยม รณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตยสากล บนพื้นฐานของความเป็นไทย รวมถึงหลักธรรมาภิบาล

          8.รู้เท่าทันเทคโนโลยี ให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว และรู้ถึงผลกระทบจากการใช้สื่อ 9.ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด บูรณาการทุกภาคส่วนในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างครบวงจร ซึ่งปัญหายาเสพติดถือเป็นภัยคุกคามระดับประเทศ 10.งานตามภารกิจของส่วนราชการและหน่วยงานอื่นๆ คือติดตามภาระงานที่ได้รับมอบหมายเพื่อให้การพัฒนาด้านต่างๆที่กำหนดไว้ขับเคลื่อนไปพร้อมกัน.