ข่าว

 'บิ๊กป้อม' ระบุ "พรรคประชารัฐ" ของใครก็ไม่รู้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 'บิ๊กป้อม' ชี้ นักการเมืองย้ายพรรค เป็นเรื่องปกติ ปัดดูดอดีต ส.ส. ระบุพรรคประชารัฐของใครก็ไม่รู้

 
             19 ก.ค.61-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวการดูดอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่าได้ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐแล้ว ว่า "ดูดอะไร ใครดูด ผมไม่รู้ ใครเป็นคนคิดเรื่องดูด แล้วใครทาบทาม พรรคพลังประชารัฐมีอยู่ที่ไหน เป็นของใคร เราไม่รู้เลย ก็ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เขาว่ากันไป ส่วนการย้ายพรรคก็เป็นเรื่องธรรมชาติของอดีตส.ส. เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงของการเมือง ทุกครั้งก็เป็นอย่างนี้"

         

 

         'บิ๊กป้อม'  ระบุ "พรรคประชารัฐ" ของใครก็ไม่รู้

          เมื่อถามว่าในการลงพื้นทีทุกครั้ง เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลมีได้เปรียบทางการเมืองอยู่ตลอดนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ลงพื้นที่มาตลอด 2-3 ปี พอมาลงพื้นที่ตอนนี้ไม่ได้แล้วหรือ ไปก็ไม่ได้ไปพบอดีตส.ส. ไม่ได้ให้นายกรัฐมนตรีไปหาอดีต ส.ส. แต่นายกฯ ไปพบประชาชน ติดตามงานที่สั่งการไว้ ซึ่งบางครั้งจังหวัดไหนที่ลงพื้นที่ แล้วก็ลงพื้นที่ซ้ำอีก โดยในส่วนของตนก็ลงพื้นที่ไปดูงานที่รับผิดชอบ เช่น ไปดูการทำงานของตำรวจในโรงพัก รวมถึงไปดูทหารและกระทรวงมหาดไทย ตนไปดูทุกครั้ง เขาไม่สนใจเอง
 
          เมื่อถามอีกว่า สถานการณ์ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เป็นอย่างไรบ้าง เพราะเคยเป็นพื้นที่ของกลุ่มคนเสื้อแดง และมีความขัดแย้งทางการเมืองสูง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรียบร้อยดี ทุกพื้นที่ก็ไม่มีปัญหาอะไร มีแต่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังไม่มีการรวมกลุ่มและเดินขบวนชุมนุม จึงยังไม่มีอะไรเป็นข้อวิตกกังวล เพราะเขาเชื่อฟังและเชื่อมั่นว่าคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่เรายังไม่ปลดล็อก เขาก็ดำเนินการไปตามขั้นตอนที่หากจะทำกิจกรรมอะไรก็ต้องขออนุญาตจากคสช.  ซึ่งทาง คสช.ก็อนุญาต  เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเช่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. สามารถลงพื้นที่ได้ในทุกพื้นที่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไปได้ทุกภาค ก็เป็นคนไทย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง"
 
          เมื่อถามต่อไปว่า กำหนดการลงพื้นที่ครม.สัญจรครั้งนี้ มีการยกเลิกกำหนดการพบผู้นำท้องถิ่น ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการพบผู้นำท้องถิ่นมาตลอดทุกจังหวัด ถือเป็นการหลบกระแสวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไม่ได้หลบ เขามาพบก็พบ ไม่มาพบก็ไม่พบ ทุกครั้งเขาขอพบ เราก็พบ เขาไม่ขอพบก็ไม่พบ เพราะไม่ได้มีอยู่ในกำหนดการในการไปพบ และทุกครั้งที่ไปพบก็เพราะเขาขอพบ ส่วนครั้งนี้ผมไม่รู้ เท่าที่ดูก็ไม่มี"
 
           เมื่อถามว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร หารือเครือข่าวชาวนา โดยคิดนโยบายช่วยแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ เคลื่อนไหวไปทำไม เรื่องที่เขาสัญญาก็ต้องไปถามเขา มาถามตน ตนจะรู้ไหม ส่วนการเคลื่อนไหวจะถือว่าผิดคำสั่ง คสช.หรือไม่นั้น เขาคุยกัน เป็นเรื่องของการพูดคุย ยังไม่ได้ทำอะไร และยังไม่เป็นพรรคการเมือง

 

“วิษณ” ชี้ คุยนักการเมืองเป็นเรื่องส่วนตัว อย่าโยงเข้ารัฐบาล ปัดตอบกลุ่มสามมิตรพยชาวนา

         ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงการลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.อุบลราชธานี ที่ไม่มีการพบปะผู้นำท้องถิ่นว่า ถ้ารัฐบาลคุยกับนักการเมืองสื่อก็จะมาด่า การเมืองมันมีอยู่ 2 ภาค คือภาคการบริหารราชการแผ่นดิน กับการเมืองภาคการเมือง ซึ่งเป็นกิจกรรมของคนที่จะเล่นการเมือง โดยอาจไปต่อสู้ช่วงชิงอำนาจกัน แต่การไปลงพื้นที่ไม่ว่าจะรัฐบาลใด ถือเป็นการเมืองภาคบริหารราชการแผ่นดิน คือลงไปทำงาน แต่จะมีการลงไปคุยระหว่างที่ลงพื้นที่หรือที่สื่อเรียกว่าไปจีบ ดูด ถือเป็นกิจกรรมส่วนตัวของแต่ละคน จะบอกว่ารัฐบาลลงไปทำไม่ได้ แต่ปัญหาคือตัวบุคคลที่ลงไปนั้น มันซ้ำกัน ซึ่งจะเป็นปัญหามากในรัฐบาลเลือกตั้ง เช่น การวิจารณ์ว่าการที่นายกฯหาเสียง สามารถทำอะไรในเวลาราชการได้หรือไม่ได้บ้าง

 

         'บิ๊กป้อม'  ระบุ "พรรคประชารัฐ" ของใครก็ไม่รู้

           “การลงพื้นที่ประชุมครม.สัญจรของรัฐบาลมีเป้าหมายหลักคือ ประชุมคณะ ครม.รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน องค์กรในท้องที่ และหลังจากมีการประชุมครม.สัญจรที่ จ.สุพรรณบุรีและ พระนครศรีอยุธยา จึงมีคำถามว่าเหตุใดจึงไม่ฟังเสียงของนักการเมืองและอดีตนักการเมืองบ้าง เพราะคนเหล่านี้รู้ปัญหาและรู้ว่าที่ผ่านมาทำไมถึงแก้ปัญหาไม่ได้ ซึ่งเขาสามารถเสนอแนะแนวทางให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาได้ การประชุมครม.สัญจรที่ จ.สุโขทัย จึงเป็นครั้งแรกที่มีการนัดหมายนักการเมืองมาพูดคุย นำโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนักการเมืองท้องถิ่น โดยมาประมาณ 30 คน พูดคุยกันแล้วก็จบไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ถ้าเขาจะทำกันเขาคงไม่ทำอย่างประเจิดประเจ่อ เพราะไปทำที่อื่นก็ได้ แต่ครั้งนี้ที่ไม่มีกำหนดการพบผู้นำท้องถิ่นและนักการเมือง ผมไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุอะไร” นายวิษณุ กล่าว

          เมื่อถามว่าการไม่มีกำหนดการเช่นนี้เป็นเพราะรัฐบาลเลี่ยงเสียงวิจารณ์หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ไม่ทราบ อาจจะพบแล้ว รู้สึกว่าไม่ได้ประโยชน์ เพราะแต่ละคนพูดได้ไม่กี่คำ ตรงนี้ไม่ทราบ แต่ทุกครั้งที่พบกัน มีนักการเมืองมาร่วมเยอะแต่รัฐบาลมีเวลาน้อย นักการเมืองก็กลับไปบ่นว่ามาทั้งที แต่ไม่ได้พูดอะไร รู้อย่างนี้ไม่มาดีกว่า ดังนั้น จึงไม่จัดดีกว่า

เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มสามิตร ที่พบปะตัวแทนชาวนาบอกจะทำให้ข้าวมีราคาเกวียนละ 8,000 จะขัดกฎหมายหรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ไม่ขอออกความเห็นในเรื่องนี้ ส่วนจะมีการเชื่อมโยงว่าเป็นการสัญญาของรัฐบาลหรือไม่นั้น ตนตอบไม่ถูกเพราะไม่รู้เรื่อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ