"ธนาธร"ลั่น"คนจน"ไม่ใช่เพราะ"ขี้เกียจ-โง่"แต่โดนกีดกันสิทธิ

เมื่อวันที่ 27 พ.ค.61 เวลา 14.40 น. ที่อาคารยิมเนเซียม 5 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวภายหลังการเปิดประชุมใหญ่ของพรรคฯ ว่า เป็นเกียติและเป็นความภูมิใจของชีวิตที่รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และขอสัญญาว่า สิ่งสุดท้ายที่จะทำคือการทรยศต่ออุดมการณ์ของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ความนิยมของพรรคอนาคตใหม่ในระดับมหาวิทยาลัยมาเป็นอันดับ 1 ความนิยมในระดับชาติมาเป็นอันดับ 4 โดยก่อนหน้านี้ พรรคพูดในสิ่งที่สังคมอาจจะไม่พร้อมรับฟัง ดูก้าวร้าวจนสังคมหวาดระแวง แต่วันนี้เราพูดในเรื่องที่ใครก็พูด คือไม่เอารัฐประหาร ไม่เอารัฐธรรมนูญ 60 ทั้งหมดพวกเราต้องแสดงให้เห็นว่าสังคมต้องการความเปลี่ยนแปลง

นายธนาธร กล่าวว่า ก้าวต่อไปเส้นทางที่เดินต้องหนักกว่านี้ แต่เราพร้อมเพื่อกรรมการผู้ใช้แรงงาน คนมีความคิดสร้างสรรค์ที่อยากทำธุรกิจ เยาวชนที่เกิดในครอบครัวเป็นหนี้ไม่ใช่ถูกบังคับโดยชาติกำเนิด ซึ่งตนกำลังพูดถึงการเมืองแห่งความหวัง เพราะประชาชนเบื่อการเมืองที่เอื้อคนกลุ่มน้อยเต็มที คนตั้งคำถามเดียวกันทั่วประเทศ ชีวิตเมื่อไหร่จะดีขึ้น ทำไมคนที่รวยที่สุดในประเทศ 5 คน ถึงมั่งคั่ง 3 ล้านล้านบาท ทำไมคน 1เปอร์เซ็นต์ถึงมั่งคั่งกว่าคน 60 ล้านคนรวมกัน ทำไมประเทศไทยเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก รัสเซีย และอินเดีย คำถามเหล่านี้ไม่มีเคยมีคนชนชั้นนำตอบ

"ผมจะตอบเองเพราะโครงสร้างทางเศรษฐกิจสังคมการเมืองออกแบบเพื่อคนกลุ่มเดียวและยื้อให้นานที่สุด ไม่ให้ไปข้างหน้าหรือเปลี่ยนแปลง เพราะจะกระทบกับพวกเขา โดยหลอกให้เราเชื่อว่าเราขี้เกียจ ทั้งยังกล่อมให้เชื่อว่าเราเป็นคนส่วนน้อยที่ต้องพอเพียงกับความจนเพื่อคนส่วนใหญ่ แต่ที่คนในประเทศนี้จน ไม่ใช่เพราะขี้เกียจหรือโง่ แต่สิทธิเสรีภาพอย่างที่พลเมืองพึงมีถูกกีดกัน รัฐเพียงยอมปล่อยให้ท้องถิ่นจัดการตัวเองบ้าง ใช้งบให้มีประสิทธิภาพ" นายธนาธร กล่าว

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวอีกว่า การเมืองแห่งความหวังให้การออกแบบนโยบายต่างๆ มีส่วนร่วมของคนทุกภาคส่วนเพื่อสังคมที่เท่ากัน เราต้องร่วมกันเขย่าประเทศไทยเพื่อบอกว่าการเมืองไทยที่เอื้อชนชั้นนำไม่กี่คนมันหมดไปแล้ว จะได้สิทธิเสรีภาพอันพึงมีกลับคืนมา หยุดความกลัว ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เป็นธรรมร่วมกัน เพื่ออำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน