สนช.ไม่รีเซต "ป.ป.ช."

            เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560 มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการปราบปรามการทุจริต พ.ศ.. ภายหลังการประชุม พล.ร.อ.ธราธร ขจิตรสุวรรณ โฆษกคณะกรรมาธิการฯ เปิดเผยว่า  ที่ประชุมกำลังเร่งพิจารณาเนื้อหาในร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าว โดยตกลงกันว่าจะพิจารณาเนื้อหาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ธ.ค. โดยประเด็นที่ถูกจับตาคือบทเฉพาะกาลเรื่องการต่อหรือไม่ต่ออายุคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดเก่านั้น จะมีการพิจารณากันเป็นประเด็นสุดท้ายในวันที่ 15 ธ.ค. 
             เมื่อถามถึง การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินของนักการเมือง จากร่างเดิม ที่กรธ.เสนอมา กำหนดให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินโดยสรุป พล.ร.อ.ธราธร กล่าวว่า จากที่กมธ.พูดคุยและแปรญัตติอย่างละเอียด แนวโน้มความเป็นไปได้ว่าการยื่นบัญชีทรัพย์สินจะไม่ต่างไปจากกฎหมาย ป.ป.ช.ปี 42

           โฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวต่อว่า ส่วนอีกเรื่องที่น่าสนใจ กมธ.ได้คุยเพิ่มเรื่องหลักการ การไต่สวนคดี จะมีมาตราวางกรอบเอาไว้ให้เจ้าหน้าที่ห้ามดองคดี ต้องทำงานรวดเร็ว ถ้าตรวจสอบพบว่า จงใจทำให้คดีล่าช้า มีบทลงโทษทางวินัยถึงขั้นไล่ออก เนื้อหาสำคัญอีกเรื่องคือ คุณธรรม จริยธรรม กมธ.จะบรรจุคำว่า “ระบบอุปถัมป์”เอาไว้ในเนื้อหากฎหมาย เพื่อป้องกัน และห้าม ไม่ให้มีระบบอุปถัมป์ที่เป็นต้นตอการทุจริต ไม่ชอบมาพากล กัดกินประเทศไทยมายาวนาน อาทิ การบรรจุเรียกรับเข้าทำงาน และการเลื่อนตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ ต่อจากนี้ต้องเป็นตามหลักคุณธรรม จริยธรรม และความสามารถ

           อย่างก็ตาม พล.ร.อ.ธราธร กล่าวว่า  นี่คือแนวโน้มความเป็นไปได้ของเนื้อหาต่างๆ แต่ยังไม่ใช่มติของกมธ.อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ก่อนสรุปในวันที่ 15 ธ.ค.
            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณาประเด็นเรื่องต่อหรือไม่ต่ออายุคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดเก่านั้น ในกมธ.พูดคุยกันว่า จะให้คณะกรรมการป.ป.ช.ชุดเก่าอยู่ต่อไป โดยหากมีข้อสงสัยก็อาจจะให้สนช.เสียงข้างน้อย ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกครั้ง ว่า สนช.มีอำนาจการพิจารณาร่างกฎหมาย ป.ป.ช.เพื่อให้ ป.ป.ช.ชุดเก่าอยู่ต่อได้ เหมือนที่เคยยื่นกรณีของผู้ตรวจการแผ่นดิน 

           ส่วนเรื่องการเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สิน ของนักการเมืองได้มีการตัดคำว่า "เปิดเผยโดยสรุป" ใน มาตรา 104 ของร่างดังกล่าว แต่ก็ยังอาจติดปัญหา ที่รัฐธรรมนูญมาตรา 234 (3) ให้อำนาจป.ป.ช. “ตรวจสอบและเปิดเผยผลการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน”