"อภิสิทธิ์"หนุนสร้างปรองดอง วอน "ประยุทธ์" อย่าแก้โร้ดแม็พ

             วันที่ 16 กันยายน 2560 -- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ต่อประเด็นการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2561 เมื่อมีความพร้อมด้านกฎหมายและไม่มีความขัดแย้งว่า เป็นสิ่งที่ควรสนับสนุนและควรทำสถานการณ์ไม่ตกอยู่ภายใต้ความกังวลที่เกี่ยวกับความขัดแย้งที่ไม่ยุติ โดยต้องร่วมพิจารณาว่าจะหาทางแก้ปัญหา และวางทางออกไว้อย่างไร ในอนาคต   ส่วนข้อเสนอต่อประเด็นรัฐบาลแห่งชาตินั้นตนมองว่าหากจะเกิดขึ้นได้ต้องรับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย แต่ขณะนี้ยังมีหลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

     "เราเลี่ยงการจัดการเลือกตั้งไม่ได้ เพราะหากไม่มีการเลือกตั้งเชื่อว่าจะเกิดความขัดแย้งอีกรูปแบบหนึ่ง อีกทั้งประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของสังคมโลก ดังนั้นควรคิดด้วยว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ได้รัฐบาลที่ซื่อสัตย์ สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้ ผมเชื่อว่าหากไม่มีอะไรขัดแย้งการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่หากโร้ดแม็พเลือกตั้งตามที่พล.อ.ประยุทธ์กำหนดเองถูกเปลี่ยนแปลง อาจกระทบความน่าเชื่อถือจากสายตาทั่วโลกได้"  นายอภิสิทธิ์ กล่าว

            ขณะที่นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวยืนยันว่าข้อเสนอเรื่องรัฐบาลแห่งชาตินั้น เป็นประเด็นหนึ่งจะนำไปสู่การสร้างความปรองดองได้ แต่หลังจากที่เสนอความเห็นแล้วไม่มีผู้ใดตอบรับนั้นไม่ใช่เรื่องน่าน้อยใจ เพราะแนวทางการสร้างความปรองดองนั้นยังมีอีกหลายแนวทาง

         "รัฐบาลแห่งชาติผมคิดว่าเป็นแนวทางที่นิ่มนวล มีความเป็นไปได้ ผมอยากเห็นความเรียบร้อยเหมือนกับทุกคน ซึ่งความจริงตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่กำหนดให้ ส.ว. ทั้ง 250 คน มีสิทธิเลือกนายกฯ ในรัฐสภาได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ชี้ได้ว่านายกฯ จะมาจากพลเรือนหรือทหาร อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญ คือ ไม่มีทางที่ส.ส.จะรวมตัวกันได้ถึง 250 คน เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ถูกกัน แต่ก็ไม่เสมอไปที่นายกฯ จะเป็นทหาร เพราะการเลือกนายกฯ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจทั้งรัฐสภา"  นายพิชัย กล่าว

          ผู้สื่อข่าวถามว่าหากนำโมเดลรัฐบาลของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สมัยที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ จะเหมาะสมหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ตนคิด แต่สมัยนั้น พล.อ.เปรม ไม่ได้เป็นส.ส. แต่สามารถรวบรวมพรรคการเมืองเป็นรัฐบาลได้ แต่หากจะเทียบสถานการณ์ของพล.อ.ประยุทธ์กับยุคนั้น ตนมองว่าสามารถเป็นได้ แต่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเพิ่มความนิ่มนวลอีก 20-30 เปอร์เซ็นต์ 

         เมื่อถามต่อถึงกระแสการตั้งพรรคการเมืองใหม่ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นายพิชัย กล่าวว่า  "ผมไม่ได้คุยกับคุณสุเทพมานานแล้วเพราะไม่ใช่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ส่วนที่ใครกังวลว่าหากตั้งพรรคแล้วจะแย่งฐานเสียกัน ผมตอบไม่ได้ แต่หากถามผมว่าเลือกตั้งแล้วจะเลือกใคร ผมยืนยันว่าจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์".