ข่าว

"บิ๊กตู่"หารือนายกฯเวียดนามชื่นมื่น ย้ำสัมพันธ์แน่นปึ้ก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่" หารือนายกฯเวียดนามชื่นมื่น ย้ำความสัมพันธ์แน่นปึ้ก เล็งผลักดันการค้าตั้งเป้า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2020 จับมือพัฒนาอาเซียนทุกมิติ



          17 ส.ค. 60 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือข้อราชการกับนาย เหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปผลการหารือว่า ทั้งสองฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณเวียดนามที่ได้ร่วมทุกข์กับชาวไทยในเหตุการณ์สวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และร่วมสุขโดยการแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสทรงราชย์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และร่วมฉลองในโอกาสครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 40 ปี เมื่อปีที่แล้ว
          พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า ขณะที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามแสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมย้ำว่าเวียดนามให้ความสำคัญต่อการพัฒนาหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับไทย ความร่วมมือด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายพร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมและกองทัพของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณเวียดนามสำหรับความร่วมมือที่ดีในการแลกเปลี่ยนข่าวกรองและการต่อต้านข่าวกรองผ่านการประสานงานของหน่วยงานด้านทหาร ด้านความมั่นคง และด้านข่าวกรองของทั้งสองประเทศ ไทยยินดีแบ่งปันประสบการณ์ให้แก่เวียดนามในด้านปฏิบัติการรักษาสันติภาพ และขอเรียนรู้ประสบการณ์ของเวียดนามด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้วย

"บิ๊กตู่"หารือนายกฯเวียดนามชื่นมื่น ย้ำสัมพันธ์แน่นปึ้ก


          ส่วนความร่วมมือด้านประมง นายกรัฐมนตรียินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา IUU โดยฝ่ายไทยเสนอแนวทางการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลเพื่อให้เป็นทางเลือกการดำรงอาชีพแก่ชาวประมงเวียดนามในพื้นที่ภาคใต้ที่จังหวัดก่าเมาและเกี่ยนยาง ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมและผลักดันการค้าไทย-เวียดนาม โดยตั้งเป้าหมายไว้ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2020 โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการและประสานงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเวียดนามประสงค์ให้มีการพัฒนาด้านโลจิสติกส์เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างกัน พร้อมขอให้ไทยสนับสนุนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเวียดนามด้านการเกษตรด้วย นายกรัฐมนตรีทั้งสองชื่นชมและเห็นศักยภาพของทั้งสองประเทศในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่จะเจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีชื่นชมแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรีเวียดนามที่ส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง และผู้ประกอบการใหม่ และการพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนามเป็นเวียดนาม 4.0 ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในทุกระดับ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้รัฐบาลเวียดนามช่วยดูแลการลงทุนของไทยในเวียดนามทุกสาขา รวมถึงเรื่องกฎระเบียบ เพื่อให้ธุรกิจไทยสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น

"บิ๊กตู่"หารือนายกฯเวียดนามชื่นมื่น ย้ำสัมพันธ์แน่นปึ้ก


          ส่วนความร่วมมือด้านแรงงาน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่ออำนวยความสะดวกการนำเข้าแรงงานเวียดนามในสาขาการก่อสร้างและการประมง ซึ่งเป็นไปตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างกัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเวียดนามแสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การดูแลแรงงานเวียดนามเป็นอย่างดี และชื่นชมไทยที่จัดทำเว็บไซต์เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารแก่แรงงานเวียดนาม
          พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า การสร้างความเชื่อมโยง นายกรัฐมนตรีขอให้เวียดนามร่วมกันเร่งรัดส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านเส้นทางคมนาคมทั้งทางบก ทะเล และอากาศ ระหว่างทั้งสองประเทศให้มีประสิทธิภาพ เพี่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจรวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ 

"บิ๊กตู่"หารือนายกฯเวียดนามชื่นมื่น ย้ำสัมพันธ์แน่นปึ้ก


          "ประเด็นด้านภูมิภาค นายกรัฐมนตรีย้ำว่าไทยจะร่วมมือกับเวียดนามขับเคลื่อนบทบาทของภูมิภาคอาเซียนทั้งในมิติการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เพราะไทยเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนที่เข้มแข็ง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังจะทำให้ภูมิภาคนี้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน ผู้นำทั้งสองยืนยันความสำคัญของการรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพ รวมถึงการเดินเรือและเดินอากาศอย่างเสรี ซึ่งจะเป็นประโยชน์และเป็นพื้นฐานสำคัญที่เอื้อต่อการเจริญเติบโต การพัฒนา และความมั่งคั่งของทุกประเทศ ทั้งในและนอกภูมิภาค" พล.ท.วีรชน กล่าว
          พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงการส่งเสริมความร่วมมือในด้านอื่นๆ อาทิ ความร่วมมือด้านพลังงาน ความร่วมมือด้านการธนาคาร ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และความร่วมมือด้านวิชาการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีทั้งสองยืนยันที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ.

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ