ข่าว

"สนช."เคาะตั้ง5สมาชิก นั่งกมธ.ร่วม3ฝ่าย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เคาะตั้ง5สมาชิกนั่งกมธ.ร่วม3ฝ่าย นัดประชุมถกครั้งแรก3ก.ค.ร่างกฎหมายกกต.  

              27 มิ.ย. 60 ที่รัฐสภา นพ.เจตน์  ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) แถลงภายหลังการประชุมว่า ในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย.นี้ ที่ประชุม สนช. จะตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เนื่องจากทาง กกต.ได้ส่งความคิดเห็นชี้ประเด็นว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวที่ผ่านความเห็นชอบจาก สนช. แล้ว ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 2560 จำนวน 6 ประเด็น คือ กำหนดคุณสมบัติคณะกรรมการสรรหาและ กกต. เกินกว่ารัฐธรรมนูญกำหนด การให้อำนาจ กกต. สั่งระงับ ยับยั้ง เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกตั้งในแต่ละหน่วย รวมทั้งการออกเสียงประชามติที่ขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ให้อำนาจการจัดเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ชัดเจน การให้ กกต. มอบอำนาจสอบสวนนั้น ไม่ได้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ รวมถึงการเซ็ตซีโร กกต.

              โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า วิป สนช. ได้มีมติเสนอรายชื่อในสัดส่วนของ สนช.จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 นายสมชาย แสวงการ นายตวง อันทะไชย  พล.อ.ศุภวุฒิ อุตมะ และตน ทำงานร่วมกับตัวแทนคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) จำนวน 5 คน และประธานกกต. ทั้งนี้ จะประชุมนัดแรกในวันที่ 3 ก.ค. 60 โดยจะมีกรอบการทำงาน 15 วัน นับตั้งแต่แต่งตั้งกมธ.ร่วม และเมื่อพิจารณาเสร็จแล้วจะนำเข้าที่ประชุมสนช.ให้ความเห็นชอบต่อไป ซึ่งถ้าที่ประชุมไม่เห็นชอบต้องใช้มติมากกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกสนช. ซึ่งจะทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวตกไป

              นพ.เจตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมจะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ที่ กรธ. ส่งให้ สนช. พิจารณา จะตั้ง กมธ. จำนวน 21 คน โดยเป็น สนช. 17 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากคณะกรรมการศึกษาร่างกฎหมายดังกล่าวล่วงหน้ามาแล้ว และจะมีตัวแทนจาก กรธ. จำนวน 2 คน ตัวแทนจากรัฐบาล คณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมพิจารณาด้วย ทั้งนี้เนื้อหาสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าว คือ ในมาตรา 60 ให้เซ็ตซีโร กสม. เช่นเดียวกับ กกต. แต่แตกต่างกัน โดย กสม. เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญปี 2550 โดยให้ กสม. เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญไม่ใช่เป็นองค์กรอิสระ ขณะที่ กกต. เป็นองค์กรอิสระ ดังนั้น กสม. ชุดปัจจุบันสามารถกลับมาสมัครเป็น กสม. ใหม่อีกครั้งได้ ไม่เหมือนกับ กกต. ที่ไม่สามารถกลับมาสมัครใหม่ได้อีก

              นพ.เจตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนความเคลื่อนไหวของร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าพรรคการเมืองนั้น ที่ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์และคัดค้านระบบไพรมารีโหวตว่า มีปัญหาในการปฏิบัติที่ไม่อาจทันเวลา ซึ่งต้องรอดูว่า กกต. และ กรธ. จะส่งความเห็นแย้งมาหรือไม่ แต่ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ควรมีบทเฉพาะให้ไพรมารีโหวตใช้ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป ยังไม่ใช้กับการเลือกตั้งครั้งนี้.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ