ครอบครัวสาวเหยื่อ 'แอม ไซยาไนด์' หอบหลักฐานมอบ ตร.รื้อคดีเสียชีวิต

28 เม.ย.2566  ครอบครัว น.ส.กะณิกา ตุลาเดชารักษ์ หรือ เอ๊ะ ซึ่งเสียชีวิตอย่างปริศนา เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 หลังจากที่ได้รู้จักับ น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง  นำหลักฐานมอบให้ พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อขอให้มีการรื้อคดีการเสียชีวิตของ น.ส.กะณิกา ขึ้นมาทำใหม่ เนื่องจากเชื่อว่า น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม วางยาพิษ จนทำให้เสียชีวิต ขณะเดินทางมากับ แอม เพื่อไปไถ่ทองคำที่จำนำไว้ที่ จ.นครปฐม และเดินทางต่อมาที่ จ.ราชบุรี เพื่อมาทำบุญและมาแวะซื้อกาแฟในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอโพธาราม ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

 

 

 

 

 

 

 

นายธานิน สามี และลูกสาวของ น.ส.กะณิกา นอกจากนำหลักฐานมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วยังได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม อีกด้วย 
 

 

นายธานิน เปิดเผยว่าที่ผ่านมาภรรยาของตนรู้จักกับแอมผ่านทางโซเชียล แต่ไม่ทราบว่าสนิทกันมากแค่ไหน ในระหว่างนั้นมีการโทรศัพท์หากันทุกวัน เพื่อปรึกษาปัญหาชีวิตต่างๆ ส่วนเรื่องชวนการเล่นแชร์นั้น ไม่ทราบเป็นการส่วนตัว

 

ในวันเกิดเหตุภรรยา ได้ขับรถออกมาจากบ้านเพียงลำพังโดยมีการนัดเจอกันที่ปั๊มน้ำมัน ก่อนจะมีการนั่งรถของ น.ส.แอม ออกไป แต่ทางภรรยาก็ไม่ได้มีการโทรมาบอกก่อนว่าจะออกไปกับ น.ส.แอม กระทั่งมาทราบภายหลังว่า ภรรยาออกไปข้างนอก เพราะลูกสาวโทรหาแม่ แต่เป็น น.ส.แอม ที่เป็นคนรับสาย พร้อมกับบอกว่า แม่เป็นลมล้มวูบไปให้รีบมาที่โรงพยาบาลโพธาราม  ลูกสาวจึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล และได้มาบอกตนในภายหลัง และตนรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ภรรยาเป็นคนแข็งแรง และไม่เคยมีอาการป่วย มีสุขภาพดีมาโดยตลอด 

 

 

 

 

 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุ น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ก็ไม่มีการติดต่อกลับมา และก็ไม่รับโทรศัพท์ จากนั้นก็ขาดหายจากการติดต่อไปเลย ส่วนเงินที่หายไปนั้น ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน แต่เป็นยอดเงินคาดว่าน่าจะมีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ก็ยังมีโทรศัพท์ และเงินสด ที่สูญหายไปอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็จะเป็นในลักษณะคล้ายๆ กับทุกเคสที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้

  

ทั้งนี้ จากการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนเอง และลูกสาว เกิดความสงสัยขึ้นมา ประกอบกับตนก็ติดใจการเสียชีวิตของภรรยาอยู่แล้ว เพราะลักษณะการเสียชีวิตของภรรยา และพฤติกรรมของ น.ส.แอม ก็เหมือนข่าวจากหลายๆคนที่เสียชีวิต ทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมา และอยากให้ น.ส.แอม ได้รับโทษสูงสุด

 

 

 

 

พ.ต.อ.ชัชชน  ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าว จะต้องมีการรื้อคดีขึ้นมาทำใหม่ เพราะหลังจากที่ได้สอบปากคำจากสามีและลูกสาว และมีแนวโน้มไปในลักษณะเดียวกันกับอีกหลายๆ กรณีที่เกิดขึ้นกับคนรอบตัวของ น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม

 

เบื้องต้นจะทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียชีวิตก่อน โดยจะประสานไปทางธนาคาร เนื่องจากทราบมาว่า จำนวนเงินที่ผู้เสียชีวิตเบิกออกมานั้น ค่อนข้างมาก เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะมีทั้งเงินสดและการโอนเงินผ่านทางธนาคาร

 

สายชล ศรีนวลจันทร์ จ.ราชบุรี