กลุ่มคนไทยรักสันติวางหรีดประท้วง มอ.ปัตตานี

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2561 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี)กลุ่มคนไทยพื้นที่ รักสันติ รวมตัวกันประมาณ 50 คน พร้อมถือป้ายประท้วง มอ.ปัตตานี ที่ปล่อยให้สมาพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (Parmas) และเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย ร่วมกันออกแถลงการณ์และทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 หลังจากมีการออกประกาศ จาก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ฉบับที่ 89/2561 เรื่องให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลบางเขา และตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี ให้นำอาวุธปืนเครื่องกระสุนยานพาหนะมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่

          โดยคำแถลงการณ์ดังกล่าวมีใจความอ้างว่า ทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากไม่สามารถใช้ชีวิตหรือประกอบศาสนกิจเป็นปกติ ทำให้เกิดความหวาดกลัว การประกาศดั่งกล่าว ขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญและหลักสิทธิ์มนุษยชนนอกจากนี้ได้มีการ อ้างว่ามีประชาชน เข้าร้องเรียน ได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าทีทหารอย่างไม่เป็นธรรมซึ่งทางกล่มpermasได้ออกมาเคลื่อนไหวล่าสุดวันที่ 18 และ 21 กันยายน 2561 จึงทำให้กลุ่มคนไทยพื้นที่ รักสันติ รวมตัวกันประมาณ 50 คน ต้องออกมาถือป้ายประท้วงพร้อมทั้งวางพวงหรีดมาวางไว้ที่หน้าป้ายมอ.ปัตตานี และมีความกังวลใจอย่างมากต่อความเสียหายที่จะต้องแสดงตัวคัดค้านและนำเสนอข้อเท็จจริง

          นอกจากนี้ทางกลุ่มสันติ ได้เดินเข้าไปใน มอ.ปัตตานี เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิการบดี มอ.ปัตตานี พร้อมทั้งมอบพวงหรีด ที่มีข้อความเขียนว่าอาลัยยิ่งแต่สถาบันการศึกษา โดยมี ผศ.ดร.มณทิรา ลีลาศเกรียงศักดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มอ.ปัตตานี เป็นตัวแทนอธิการบดีมารับมอบ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ ทหาร ให้การดูแลความปลอดภัยอย่างเข็มงวดเป็นพิเศษ จากนั้นทางกล่มได้แยกเดินทางกลับ 

          ผศ.ดร.มณทิรา ลีลาศเกรียงศักดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยขอยืนยันว่ามหาวิทยาลัยยืนอยู่ข้างความถูกต้องและเคารพตามกฎหมายเรื่องหนังสือที่ยื่นให้นั้น ทางผู้บริหารจะไปหารือและหาแนวทางแก้ไขต่อไป

          นายพงษ์พันธ์ จันเล็ก หนึ่งในแกนนำกลุ่มคนไทยพื้นที่รักสันติ กล่าวว่า ขอแจ้งให้พี่น้องคนไทยทั้งประเทศว่ากลุ่มคนไทยพื้นที่รักสันติที่มีผลกระทบโดยตรงเห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่ กลุ่มพวกเราคิดว่าควรบังคับใช้กฎอัยการศึกจนกว่าจะได้ตัวคนร้าย สถาบันไม่ควรอนุญาตให้นักศึกษาจัดกิจกรรมสร้างความแตกแยก โดยเฉพาะประเด็นคำว่าประชาชนไทยและประชาชนปัตตานีอํานาจอธิปไตยเหนือดินแดนปัตตานี ซึ่งทางกลุ่มไม่เห็นด้วย เพราะตรงนี้ประเทศไทย การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นการละเมิดสิทธิ์ แต่การกระทำผิดกฎหมายไม่เคารพกฎหมายถือว่าเป็นกบฏ ขอเรียกร้องให้สถาบันแจ้งถึงแถลงการณ์ของสถาบันนิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานีที่บิดเบือนข้อเท็จจริงการบังคับใช้กฎหมายการละเมิดสิทธิ์ การอ้างอธิปไตยเหนือดินแดนปัตตานี ทั้งที่ที่นี้เป็นประเทศไทย

          ขอเรียกร้องให้สถาบันออกมาชี้แจงในกรณีดังกล่าวในสถานะที่นักศึกษาอยู่ในสถาบันแห่งนี้ และขอให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายพิเศษอย่างต่อเนื่องและผ่อนคลายเมื่อเหตุการณ์ปกติ และขอเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ ที่นำความสันติสุขกลับมาในพื้นที่โดยเร็ว

          พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับการคุ้มครองดูแลจากเจ้าหน้าที่ และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น แต่จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความสงบสุขและจากการปฏิบัติการทั้งหมดชาวบ้านในพื้นที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจนทำให้มีความคืบหน้าทางคดี.

ภาพ / ข่าว - ปาเรซ โลหะสัณฑ์