ตำรวจหยิบผลไม้ของกลางกินได้มั้ย

 

               เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 21 ก.ย. 61  หลังจากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sunisa Kaewloy ได้โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมระบุข้อความ " คือ..พี่เขาขับรถขายของ โดนจับให้มาเสียค่าปรับที่โรงพัก เราแอบเห็นตำรวจนายหนึ่ง มาหยิบๆผลไม้ไปกินโดยไม่ขอเจ้าของ แบบนี้ก็ได้หรอค่ะ เราเลยเดินไปถาม..ตำรวจตอบว่ากินได้ซิ เป็นของกลาง จับคนเกี่ยวอะไรกับรถขายของ ผลไม้น่ะ ไม่ใช่ยาบ้า ที่จะยึดของกลาง....ใครก็ได้ตอบเราที..? แบบนี้ก็ได้หรอ.. "

 

 

 

 

 

 

               โดยในคลิปวิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานจราจร สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ยืนเปิดตู้ผลไม้ที่อยู่ในรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ หมายทะเบียน 3 กฆ 2368 กรุงเทพมหานคร ซึ่งดัดแปลงเป็นรถสามล้อขายผลไม้

               พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น จัดหางานจังหวัดปทุมธานี ได้จับผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนสัญชาติเวียดนาม มาพร้อมกับภรรยาที่เป็นคนไทย ระหว่างที่จับกุมนั้น ปรากฏว่า สามีได้ขายผลไม้อยู่คนเดียว บริเวณหน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ถนนพหลโยธิน ขาออก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งมีของกลางเป็นรถจักรยานยนต์สามล้อขายผลไม้ ซึ่งขณะนั้นภรรยาได้ไปอาบน้ำภายในบ้าน เมื่อมาถึงทางเจ้าหน้าที่จัดหางานก็ได้แจ้งภรรยาด้วย โดยแจ้งข้อกล่าวหา ใช้แรงงานต่างด้าวโดยผิดเงื่อนไข ซึ่งของกลางนั้นก็ได้นำเอาไว้ที่โรงพัก และของกลางนั้นซึ่งเป็นผลไม้และของดอง ก็สามารถเน่าเสียได้

               ผู้ต้องหาที่เป็นผู้หญิงก็ได้ขอประมูลไปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนในราคา 500 บาท เพื่อเขาก็หวังว่าถ้าได้ประกันตัวไปแล้ว ก็จะนำผลไม้ไปขายตามปกติ ระหว่างนั้นก็มีตำรวจของ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้ติดต่อขอซื้อผลไม้ทั้งหมดจากผู้ต้องหา เพราะจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาขายต่อ อาจจะเป็นเวลามืดค่ำ และอยู่ในระหว่างขั้นตอนของการประกันตัว และได้นำผลไม้ไปแจกจ่ายให้กับข้าราชการตำรวจได้รับประทานกัน ซึ่งเป็นจังหวะที่น้องสาวของผู้ต้องหาได้เดินเข้ามาพบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเปิดตู้ผลไม้ และได้ถ่ายคลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด โดยไม่ได้สอบถามกับพี่สาวที่เป็นผู้ต้องหา จึงมีการโพสต์และเกิดเป็นภาพคลิปข่าวขึ้นมา

 

 

 

               ซึ่งคดีนี้ภรรยาเป็นคนไทยและสามีเป็นชาวเวียดนาม ซึ่งทางกฎหมายแล้วคนงานแรงงานต่างด้าวจะไม่มีสิทธิ์ขายของ เพียงแต่เป็นกรรมกรแบกหามเท่านั้น แต่ในกรณีนี้ซึ่งถือว่าผิดเงื่อนไขกฎหมายแรงงานต่างด้าว และในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ภายในคลิป ตนเองก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนถึงคำพูดและกิริยาในการคุยกับประชาชน ซึ่งตนเองก็ได้เน้นย้ำมาตลอดว่า เราเป็นข้าราชการต้องมีท่าทียิ้มแย้มแจ่มใส และคอยช่วยเหลือประชาชน