ผู้ต้องหาจ้างฆ่า "เจ๊สายันต์" ดอดมอบตัวกองปราบ

          กองปราบ - เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 ส.ค. 2561 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อเยาวชนและสังคม หรือ 'ทนายตั้ม ได้นำตัว นางมณีรัตน์ โกทันย์ อายุ 65 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 668/3 ม.10 ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เพื่อเข้ามอบตัวสู้คดีหลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ 85/2561 ลงวันที่ 9 เม.ย.2561 ตามความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันช่วยเหลือผู้กระทำผิด โดยการให้ที่พำนัก หรือที่ซ่อนเร้นเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” เนื่องจากแนวทางการสืบสวนของชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว พบหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า นางมณีรัตน์ นั้นน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่มีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงนายพิพัฒน์ ตั้งพงศ์ทอง หรือ เฮียกวง และน.ส.สายันต์ จันทาหรือ เจ๊สายันต์ เศรษฐีตลาดโรงเกลือเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมภายในบ้านพัก เลขที่ 16 ม.10 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2561 ที่ผ่านมา ก่อนจะหลบหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศ สปป.ลาว

          นางมณีรัตน์ กล่าวยืนยันว่า ตนไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ถูกใส่ร้ายจากผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ส่วนกรณีที่ไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านนั้น ตนเพียงเดินทางไปทำธุรกิจ ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนี กระทั่งต่อมาได้ทราบข่าวจากน้องว่า ตนเองถูกออกหมายจับในคดีจ้างวานฆ่า ก็รู้สึกตกใจ เนื่องจากตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่เคยรู้จักกับคนตายแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่เคยมีความโกรธแค้นหรือเคยทำธุรกิจร่วมกันมาก่อน

 
          นางมณีรัตน์ กล่าวด้วยว่า การที่ตนเดินทางมาเข้ามอบตัวกับทางตำรวจกองปราบฯในครั้งนี้ เนื่องจากต้องการมาทวงถามหาความยุติธรรม เพราะมั่นใจว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเองก็รู้สึกสงสัยเหมือนกันว่า เพราะเหตุใดทำไมตนถึงถูกออกหมายจับในคดีนี้
  
          “ที่ผ่านเคยได้ยินแต่คำว่า “แพะ” และเพิ่งจะรู้ว่า“แพะ” เป็นอย่างไร เพราะตอนนี้มันคือตัวเรา” นางมณีรัตน์ กล่าว 
  
          นางมณีรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาออกหมายจับนั้น เนื่องจากตนกับผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และคนร้ายตัวจริง รู้จักกันมาประมาณ 7 ปี และเคยพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องขอยืมเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อจะนำมาเป็นเงินลงทุนในการเลือกตั้ง ส่วนรายละเอียดนั้นยังไม่ขอเปิดเผย โดยจะให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า รู้จักกับผู้อยู่เบื้องหลังคนนี้มาตั้งแต่ปี 2554 เนื่องจากเคยช่วยเหลือในด้านการหาเสียงเลือกตั้งระดับท้องถิ่น แต่ไม่คิดว่าจะถูกโยนความผิดมาให้แบบนี้ 

          นางมณีรัตน์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ในระหว่างการพูดคุยทางการเมือง ตนเคยได้ยินผู้ที่อยู่เบื้องหลังรายนี้ พูดเกี่ยวบ้านของผู้ตายว่า หากมีความจำเป็นก็จะต้องฆ่า ซึ่งตนก็ไม่กล้าที่จะถามข้อมูลต่อ อย่างไรก็ดี หลังจากเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากผู้อยู่เบื้องหลังว่าไม่ให้ข้ามกลับมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยอ้างว่าตนถูกดำเนินคดีทางการเมือง หากกลับมาจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจับกุม และยังยื่นข้อเสนอว่าจะส่งค่าดูแลระหว่างที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะมาทราบในภายหลังว่า ตัวผู้บงการคนดังกล่าวได้ใส่ร้ายว่า ตนเองเป็นคนก่อเหตุ 

 
          ทั้งนี้ ภายหลังจากการเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้นำตัวนางมณีรัตน์ ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด จ.สระแก้ว เจ้าของคดี เพื่อนำตัวไปดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.