ข่าว

คืนพื้นที่"ป่าแหว่ง"ดังเดิม!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทสรุปทางออกกรณีบ้านป่าแหว่ง ออกแล้ว! ไม่ให้ผู้ใดใช้ประโยชน์บ้าน 45หลังและอาคารชุด 9 หลัง เตรียมส่งมอบพื้นที่คืนแก่ธนารักษ์ก่อนจะฟื้นฟูเป็นป่าดังเดิม

 

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.15 น.วันนี้ (6 พ.ค.2561) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่ หอประชุม

เฉลิมพระเกียรติ 80 พระชนมพรรษา เพื่อหารือหาทางออกกรณีบ้านพักข้าราชการศาลบนดอยสุเทพ ร่วมกับแกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพทั้ง 50 องค์กร รวมทั้ง ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง

 

         โดยก่อนมีการประชุมอย่างเป็นทางการ ได้มีการประชุมหารือเป็นการภายในระหว่างรัฐมนตรีกับตัวแทนเครือข่ายและตัวแทนหน่วยงานราชการเกี่ยวข้องในห้องประชุมเล็กโดยใช้เวลาหารือ ร่วม 2 ชั่วโมง ก่อนจะขึ้นมาประชุมในห้องประชุมใหญ่อย่างเป็นทางการ ซึ่งใช้เวลาสรุปผลเพียงราว 20 นาที 

 

      โดยนายสุวพันธ์ุ   ในฐานะตัวแทนรัฐบาล ให้คำมั่นกลางที่ประชุมว่าจะไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ในบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลังตามที่เครือข่ายเรียกร้องและจะมีการดำเนินการคืนพื้นที่ให้แก่ ทางธนารักษ์ก่อนจะฟื้นฟูให้เป็นป่าดังเดิมโดยเร็วที่สุด โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม และสามารถปลูกป่าได้เลยทันที ก่อนที่นายสุวพันธ์จะได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

 

       นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนในฐานะตัวแทนรัฐบาล รับนโยบายจากทาง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกฯ มา 3 ประเด็นด้วยกัน และได้สรุปในที่ประชุมอย่างชัดเจน โดยเรื่องที่ 1 จะไม่มีผู้อยู่อาศัย ในแนวเขตป่าดั้งเดิม

 

        โดยจะได้ให้ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่เข้าไปรังวัดพื้นที่ให้เกิดความชัดเจนโดยยึดแนวที่ภาคประชาชนเสนอ เพื่อให้ทราบว่าพื้นที่ใดคือแนวที่จะฟื้นฟู พื้นที่ใดคือส่วนที่ศาลยังคงใช้ประโยชน์ได้ เช่นส่วนของสำนักงานจากนั้นส่วนของพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของธนารักษ์ก็จะให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ส่วนทางรัฐบาลจะรับภาระในการหาพื้นที่ใหม่และงบประมาณจัดสร้างใหม่ให้ทางศาลหลังจากนี้ต่อไป

   

          เรื่องที่ 2.ด้านการฟื้นฟู ทางนายกรัฐมนตรีต้องการให้ทำทันที โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดทำแผนการฟื้นฟู ปลูกป่า ปลูกต้นไม้ ซึ่งการดำเนินงานให้ประชาชนร่วมหารือและดูแลร่วมได้ เชิญชวนชาวเชียงใหม่ให้มาร่วมแรงกัน เพื่อให้ป่ากลับมาสมบูรณ์ดังเดิม โดยให้มีกรรมการระดับจังหวัดเข้ามาดูแล ขณะทางส่วนของ มทบ. 33 ได้มีการเตรียมการที่จะเกณฑ์ทหารเข้าปลูกต้นไม้ทดแทนแล้ว โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 27 พ.ค.ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา แต่ก่อนหน้านั้นก็สามารถดำเนินการปลูกต้นไม้ได้ตามความเหมาะสม

 

คืนพื้นที่"ป่าแหว่ง"ดังเดิม!!

 

        ประเด็นที่ 3. มีข้อเสนอจากเครือข่ายที่ต้องการให้มีแผนดูแลที่ป่าดอยสุเทพที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงผืนเดียวกัน ก็จะรับเอาเรื่องนี้เข้ามาพิจารณา เช่น การทำให้เป็นเขตอุทยาน เป็นป่าสมบูรณ์ หรือทำอะไรกับสิ่งปลูกสร้าง ให้ตั้งกรรมการมาดำเนินการ เพื่อให้เป็นป่าสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ต่อไป ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลยังคงรับฟังเสียงข้อเรียกร้องเพิ่มเติมในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับสิ่งที่เหมาะสมและพึงพอใจ

 

     

        ยืนยันว่าการดำเนินการจะไม่มีการยืดเยื้อแต่อย่างใดและจะเริ่มดำเนินการทันที ส่วนเรื่องของการรื้อถอนหรือไม่นั้นขนาดนี้ยังไม่มีข้อสรุปต้องรอบทสรุปจากคณะกรรมการหลังจากนี้ ซึ่งวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค. 2561) ทางจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายพุทธิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะได้เป็นประธานในการจัดตั้งคณะดำเนินคณะกรรมการ ในการรังวัดพื้นที่กั้นแนวเขตเพื่อให้มีความชัดเจน รวมทั้งการจัดการสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่

 

        รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องอาทิ การดูแล พื้นที่นอกเหนือจาก 147 ไร่นี้ พื้นที่ราชพัสดุที่มีสภาพคล้ายป่า ที่อาจจะมีเหตุการณ์ซ้ำรอยในอนาคตต่อไป แต่อย่างไรก็ตามในขณะนี้เรื่องของโครงการก่อสร้างบ้านพักศาลฯ จะต้องปล่อยให้มีการดำเนินการก่อสร้างจนถึงระยะเวลาส่งมอบงาน ในเดือนมิถุนายนตามขั้นตอนเพื่อไม่ให้กระทบต่อข้อกฎหมายต่อไป

 

      ด้าน นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปที่น่าพึงพอใจแล้วที่จะไม่ให้มีผู้ใดไปใช้ประโยชน์พื้นที่ บ้านพัก 45 หลังและอาคารชุด 9 หลัง ซึ่งเป็นเขตป่าดั้งเดิม ตามที่เครือข่ายตั้งเป้าเรียกร้องตั้งแต่แรก ตอนนี้เหลือแต่ ที่ต้องการให้รื้ออาคารดังกล่าวให้หมดสิ้น แต่ยังติดข้อกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้จะได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการดำเนินการจัดการกับสิ่งปลุกสร้างดังกล่าว และจัดการให้ป่ากลับมาสมบูรณ์ดังเดิม ซึ่งหากทางรัฐบาลคืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์และทางธนารักษ์คืนให้กับป่าไม้ ก็อาจจะนำกฎหมายป่าไม้มาใช้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวได้ทันที

 

     แม้ว่าทางนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนรัฐบาลให้คำมั่นแล้ว ทางเครือข่ายก็ถือว่าพักรบชั่วคราว แต่อย่างไรก็ตามทางเครือข่ายและชาวเชียงใหม่ก็จะยังคงจับตาดูการดำเนินการของทางรัฐบาลว่าจะเป็นไปตามเป้าจริงหรือไม่ และจะดำเนินการอย่างรวดเร็วไม่ยืดเยื้อหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่ต้องทำต่อไปอย่างเร่งด่วนคือการฟื้นฟูป่า เนื่องจากขณะนี้ฝนเริ่มมาแล้ว พื้นที่โดนถางออกไปมากและเสี่ยงที่จะเกิดดินโคลนถล่มอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพภาคที่ 3 หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องและ อาสาประชาชนจะมีการเร่งเข้าไปปลูกป่าทดแทน ส่วนบ้านที่ยังรื้อไม่ได้นั้น ก็จะปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนไปก่อน

 

คืนพื้นที่"ป่าแหว่ง"ดังเดิม!!

 

      ทั้งนี้ เครือข่ายฯจะยังคงรวมตัวกันอย่างหลวมๆ เพื่อจะจับตาดูว่า สิ่งที่เรียกร้องไปและทางรัฐบาลตอบรับและให้คำมั่นแล้วนั้น จะเป็นไปในทิศทางใด แต่ลึกๆแล้วเชื่อว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี และรัฐบาลก็คงต้องการให้เรื่องนี้จบลงโดยเร็วที่สุดเช่นกัน ซึ่งทางเครือข่ายจะยังคงมีการจัดกิจกรรมต่อไป ในรูปแบบพักรบ อาทิในช่วงเย็นวันนี้ตั้งแต่เวลา 17:00 น. เป็นต้นไป จะได้มีการจัดนิทรรศการฉันรักดอยสุเทพโดยมีการจัดแสดงภาพและเรื่องราวของดอยสุเทพแต่ละยุคแต่ละสมัยรวมทั้งความสำคัญศูนย์กลางจิตใจ ความเชื่อความศรัทธาของประชาชน ที่ ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนาคุ้มเจ้าบุรีรัตน์ สี่แยกกลางเวียง เชียงใหม่

---***----

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ