Lifestyle

เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร@เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พระองค์ภาฯ ทรงน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในหลวง ร.9 ช่วยเหลือผู้ต้องขัง

        ด้วยความเชื่อมั่นว่า การดำเนินชีวิตตามแนวคิดและปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 จะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนได้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงน้อมนำมาใช้เป็นหลักในการประทานความช่วยเหลือแก่ผู้ต้องขัง ผู้ด้อยโอกาสทางสังคมด้วย ในการนี้เสด็จไปยังเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ จังหวัดตราด เพื่อทรงเปิดศูนย์เรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยมี พงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด, ธวัชชัย แสงอรุณ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดตราด ฯลฯ รับเสด็จ เมื่อวันก่อน

เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร@เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ

เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร@เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ

          ภายหลังจาก พงศธร สัจจชลพันธ์ กราบทูลรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวแล้ว  พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทอดพระเนตรวีดิทัศน์ ทรงเปิดป้ายศูนย์เรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงเกษตร และร้านกาแฟอินสปาย บาย ปริ๊นเซส, ทรงปลูกต้นรวงผึ้ง, ทรงเปิดอาคารนิทรรศการการเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง, ในการนี้ทรงร่วมกิจกรรมพี่สอนน้องในการอบรมผู้ต้องขังรุ่นที่ 8 และทอดพระเนตรบริเวณศูนย์เรียนรู้ฯ, ทอดพระเนตรร้านกาแฟ, ทอดพระเนตรการฝึกอาชีพบาริสต้า การทำขนมวากาชิ รุกขกร และพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว

เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร@เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ

          อเนก ทองลอย ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตราด เผยว่า เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ มีพื้นที่ประมาณ 600 ไร่ แบ่งเป็นส่วนที่ 1.เป็นสายน้ำตามธรรมชาติมีการจัดการน้ำตามศาสตร์พระราชา ด้วยการสร้างฝายชะลอน้ำ โดยใช้วัสดุที่มีมากในท้องถิ่นคือไม้ไผ่ และยางรถยนต์ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้นำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทำให้สายน้ำที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ได้รับการเก็บกักชะลอไว้ให้เพียงพอใช้ในยามแล้ง ส่วนที่ 2.พื้นที่ป่าสมบูรณ์ รักษาไว้เป็นป่าอนุรักษ์ไม่มีการตัดฟันไม้ใดๆ หลักร้อยไร่ ส่วนที่ 3.เป็นสวนผลไม้ มังคุด ลองกอง ขนุน และสวนยางพารา อย่างละหลายสิบไร่ ส่วนที่ 4.เนินเขาด้านหน้าที่เป็นพื้นที่ของการเรียนรู้และท่องเที่ยว และส่วนที่ 5.เป็นที่ทำการเรือนจำ ตั้งอยู่บนสันเขา ซึ่งมีถนนทอดผ่านด้านหน้า ด้านหลังเป็นสวนยางอายุร่วม 20 ปี หลายสิบไร่กับแปลงผักกางมุ้ง 34 หลัง

เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร@เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ

          “นอกจากนี้ยังมีการจำลองพื้นที่อันเป็นแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงอยู่ในส่วนที่เรียกว่า “1 ไร่ ทำจริงไม่มีจน” ในพื้นที่ 1 ไร่ของแปลงสาธิตนั้นเต็มไปด้วยตัวอย่างการทำมาหาเลี้ยงที่ทำได้ง่าย พร้อมป้ายข้อมูลบอกวิธีการ เช่น การเลี้ยงปลาไหล การเลี้ยงปลาดุก เลี้ยงหนอนอาหารนก เลี้ยงเป็ดเนื้อ เป็ดไข่ ไก่เนื้อ ไก่ไข่ การเลี้ยงไก่ดำภูพาน ไก่ดำมองโกเลีย ไก่พื้นเมือง เป็นต้น และในขณะเดียวกันพื้นที่รอบนอกออกไปมีงานอาชีพให้ผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษเรียนรู้ฝึกทำอีกหลายอย่าง เช่น ปลูกผักกางมุ้ง ทำสวนหม่อน หรือมัลเบอร์รี่ บ่อเพาะเลี้ยงปลา เพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม กุ้งก้ามแดง กุ้งฝอยท้องถิ่น เพาะเลี้ยงลูกเป็ด ไก่ ห่าน ซึ่งมีโรงฟักไข่ให้ฝึกทำจริง และมีการเลี้ยงสัตว์ มีหมูหลุม แพะคอนโด โค กระบือ จนถึงการเลี้ยงสัตว์เล็กสัตว์ปีก เป็ด ไก่ ห่าน โดยพื้นที่ข้างต้น เป็นแหล่งความรู้ให้ผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษได้เรียนรู้ด้วยการฝึกทำ” ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตราด กล่าว

เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร@เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ

เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร@เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ

         ทั้งนี้ อเนก ทองลอย ย้ำว่าสิ่งสำคัญคือ จัดกิจกรรมหรือสอดแทรกความรู้เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้ต้องขังเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ทำให้ผู้ต้องขังเข้าใจว่าเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่แค่การปลูกผักทำการเกษตร หากแต่คือการใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังรอบคอบ การลดรายจ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น การปลูกผัก เลี้ยงปลา หรือทำของใช้สอยในครัวเรือนเองก็เป็นการลดรายจ่ายของครอบครัวได้ทางหนึ่ง เพราะหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงไม่เน้นว่าต้องเป็นเกษตรเสมอไป ทุกสาขาอาชีพสามารถนำไปใช้ได้หมด เศรษฐกิจพอเพียงคือต้องรู้จักการใช้จ่าย ต้องรู้จักพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ อยู่อย่างพอเพียง สร้างภูมิคุ้มกันตัวเขาเอง ไม่ใช่ได้มาหนึ่งพันบาทใช้หมด” ผบ.อเนกพูดถึงหลักการแล้วนำสู่รูปธรรมที่เขาระกำ

เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร@เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ

          “ในระหว่างคุมขัง ให้เขาได้ศึกษาว่า ถ้าเขาไปอยู่บ้านจริงเขาจะทำอะไร ครอบครัวประกอบไปด้วยพ่อแม่ลูก พ่อไปทำงาน แม่เฝ้าบ้านเฝ้าสวนดูแลสวนไป โจทย์การฝึกของเราคือ ตอนเช้าลูกจะกินอะไรไปโรงเรียน ในเมื่อเราเลี้ยงไก่ เราก็ทอดไข่ ต้มไข่ หรือทำน้ำพริกจิ้มพืชผักในบ้านเรา ในพื้นที่หนึ่งไร่ทำอาหารให้ลูกไปเรียน พ่อไปทำงาน โดยเราจะไม่ไปบอกเขาว่าต้องทำอย่างนั้นต้องทำอย่างนี้ ให้ผู้ต้องขังเขาคิดเอง”

เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร@เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ

         ผู้บัญชาการ อเนก กล่าวทิ้งท้ายว่า เรือนจำในความรับรู้และเข้าใจของคนโดยทั่วไปคือที่คุมขังผู้ต้องโทษ แต่เรือนจำชั่วคราวเปิดให้คนนอกเข้าออกได้แทบทั่วไป และผู้ต้องขังก็ใช้ชีวิตประจำวันเหมือนกัน ไม่มีพันธนาการใด เป็นพระกุศโลบายของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่มีพระประสงค์ให้สังคมยอมรับผู้ต้องขังหรือผู้ก้าวพลาด และเมื่อพัฒนาเรือนจำให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยว จึงให้บุคคลภายนอกเข้ามาเห็นในเรือนจำว่าผู้ต้องขังอยู่กันอย่างไร อย่างน้อยบุคคลภายนอกก็เกิดความมั่นใจว่าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ใช้ได้จริง สอนคนให้กลับตัวกลับใจ เตรียมออกไปอยู่ร่วมกับสังคม ณ วันนี้ พื้นที่ของเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ นอกจากจะเป็นพื้นที่ของการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวของผู้ต้องขังแล้ว ยังเป็นที่แห่งการเรียนรู้ของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นพื้นที่แห่งการท่องเที่ยว เป็นพื้นที่ซึ่งบุคคลภายนอกมาใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะจัดการแข่งขังวิ่ง ปั่นจักรยาน การถ่ายพรีเวดดิ้งของคู่บ่าวสาวไม่น้อยกว่า 10 คู่ แหล่งพักผ่อนของผู้สูงอายุ และเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของคนในจังหวัดตราดที่ได้มาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ
          ใช่เพียงแค่จะเป็นความสำเร็จของการคืนคนดีสู่สังคม และทำให้สังคมยอมรับผู้ที่พลั้งพลาดเท่านั้น ในทางกลับกันยังเป็นพื้นที่ให้คนทั่วไปเข้าไปท่องเที่ยว เรียนรู้ พักผ่อนหย่อนใจ แถมยังได้แรงบันดาลใจกลับออกมาอีกด้วย

เรื่อง....กอบแก้ว แผนสท้าน
ภาพ...ธนาชัย ประมาณพาณิชย์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ