สวัสดิภาพสัตว์ คุณภาพชีวิตคน

      องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย เผยความสำเร็จการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา โดยยกระดับคุณภาพชีวิตสัตว์นับล้าน พร้อมประกาศสานต่อนโยบายเพื่อสวัสดิภาพสัตว์ พัฒนาคุณภาพชีวิตสัตว์ป่า สัตว์ฟาร์ม สัตว์ในชุมชน และสัตว์ประสบภัย อีกทั้งยกระดับเป็นศูนย์กลางดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ในภูมิภาคเอเชีย

โรจนา สังข์ทอง

     โรจนา สังข์ทอง ผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย เผยว่าในปีที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือสัตว์ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติได้กว่า 400,000 ตัว ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ เหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่พัดถล่มชายฝั่งเกาะสุลาเวสี อินโดนีเซีย ในประเทศไทยได้ทำงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการภัยพิบัติ สภากาชาดไทย เข้าช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน ด้วยการส่งมอบอาหารสุนัข และวิตามินสำหรับปศุสัตว์ไปยังพื้นที่ประสบภัยทั่วประเทศไทย 

    ในด้านการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ป่า ได้ช่วยเหลือช้างที่ถูกนำมาใช้ในธุรกิจท่องเที่ยวผ่านการยกระดับและพัฒนาปางช้าง “แฮปปี้ อีเลเฟ่นท์ แคร์ วัลเลย์” จังหวัดเชียงใหม่ และปางช้าง “Manda Lao” สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ช้างมากกว่า 30 ตัว ได้มีอิสระไม่ถูกล่ามโซ่ ไม่ถูกบังคับให้แสดงโชว์ ได้ช่วยเหลือให้สุนัขในชุมชนกว่า 10,000 ตัว ได้รับการป้องกันจากโรคพิษสุนัขบ้า ในกิจกรรม “1 ภาพ = 1 วัคซีน” นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในการยกระดับคุณภาพชีวิตสัตว์ฟาร์มไปอีกขั้นในแคมเปญ “Raise Pigs Right เลี้ยงหมูด้วยใจ” ทำให้ท็อปส์ มาร์เก็ต ร่วมประกาศให้คำมั่นว่าจะยุติการขายเนื้อหมูจากฟาร์มที่เลี้ยงหมูแม่พันธุ์ด้วยระบบการยืนซองภายในปี 2570 ทำให้หมูมากกว่าแสนตัวได้รับการเลี้ยงดูที่ดีขึ้น

ร่วมมือทำงานกับสัตวแพทย์

     นายหญิงองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวต่อว่า สำหรับภารกิจหลักในปี 2562 ยังคงสานต่อการยกระดับสวัสดิภาพสัตว์เพื่อให้ทั้งคนและสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป โดยจะมีแคมเปญต่างๆ ประกอบไปด้วย แคมเปญเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของสุนัข “เบทเทอร์ ไลฟ์ ฟอร์ ด็อกส์” รณรงค์การทำหมัน และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแก่สุนัขจร แคมเปญสัตว์ป่าไม่ใช่นักแสดง โดยเน้นไปที่ช้างและเสือ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แคมเปญหยุดซื้อหยุดขายสัตว์แปลก ให้คนหยุดซื้อสัตว์แปลกเอามาเป็นสัตว์เลี้ยงเพราะเป็นการทรมานและไม่ใช่ธรรมชาติของสัตว์ แคมเปญเลี้ยงหมูด้วยใจ หยุดการเลี้ยงหมูยืนซอง

      และล่าสุดได้ลงพื้นที่ใน จ.นครศรีธรรมราช ร่วมกับปศุสัตว์เขต 8 และปศุสัตว์จังหวัด เพื่อช่วยสัตว์ประสบภัยจากพายุโซนร้อน "ปาบึก” ด้วยการมอบอาหารหมักสำหรับวัว ควาย จำนวน 30 ตัน อาหารสุนัขและแมว 120 กิโลกรัม ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยสัตว์ได้มากกว่า 12,200 ตัว หลังจากนั้นจะเข้าไปให้ความรู้ จัดอบรมด้านการจัดการภัยภิบัติให้แก่เจ้าหน้าที่และคนท้องถิ่น เพื่อเตรียมความพร้อมและลดความสูญเสียเมื่อเกิดภัยมา ไม่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่การทำงานขององค์กรยังขยายไปสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย