ลิ้นชิมรส ตาชมวิว ฉบับ "เดอะ ศาลา"

          มีโอกาสเป็นนกน้อยบินโฉบตรงนั้นทีตรงนี้ทีอยู่กลางไร่องุ่น “มอนซูน แวลลีย์ วินยาร์ด” หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ แต่บังเอิญช่วงนี้หมดฤดูองุ่นและการเก็บเกี่ยวไปแล้ว เลยได้เห็นแต่กิ่งองุ่นรุ่นใหม่ลงแปลงกำลังแข่งกันผลิใบเล็กๆ ท้าแดด นอกจากที่นี่จะเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติแล้ว ยังมีจุดชมวิวแบบ 360 องศาอยู่บนเนินเล็กๆ แล้วก็เป็นที่ตั้งของร้านอาหารสุดชิค “เดอะ ศาลา ไวน์บาร์ แอนด์ บิสโทร” (The Sala) สำหรับรับรองลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาเที่ยวชมไร่ อีกทั้งคนทั่วไปที่ตั้งใจเดินทางมารับประทานอาหารโดยเฉพาะ   

         

เดอะ ศาลา ไวน์บาร์ แอนด์ บิสโทร

            บรรยากาศดี๊ดีสูดลมหายใจได้เต็มปอด สามารถอิ่มเอมไปกับวิวไร่องุ่น ทิวเขา ได้สุดลูกหูลูกตา และแม้จะเปิดโล่งก็ไม่รู้สึกร้อนอะไรมากมาย เพราะจะมีลมธรรมชาติพัดผ่านตลอด ถ้าไม่เย็นพอก็มีพัดลมตัวใหญ่ภายในร้านคอยเป่าให้อากาศหมุนเวียนคลายร้อน พื้นที่นั่งรับประทานอาหารได้รับการออกแบบอย่างตั้งใจ เล่นระดับเป็นชั้น มีจังหวะจะโคน ไม่น่าเบื่อ ล้อไปกับอาหารที่ได้เชฟฝีมือดีและมีไอเดียสร้างสรรค์อย่าง เชฟกิตติ ขันติวงษ์ มาคอยครีเอทเมนูความอร่อยแนวฟิวชั่นไม่ซ้ำกับที่อื่น ส่วนใหญ่คิดขึ้นใหม่หน้าตาและรสชาติสไตล์ตะวันตก แต่ใช้วัตถุดิบในประเทศโดยเฉพาะผักสดต่างๆ ปลูกเองภายในไร่ เน้นการผสมผสานกันอย่างลงตัว อารมณ์ประมาณอาหารโรงแรมแต่ราคาถูกกว่า

          แต่ละจานค่อนข้างพิถีพิถัน เอาง่ายๆ อย่างยำเวลาจัดเสิร์ฟขึ้นโต๊ะจะแยกน้ำยำมาต่างหาก เชฟบอกว่าถ้าราดมาพร้อมกันผักอาจจะสลด ทำให้รสชาติเปลี่ยน เช่น “ปลากะพงกรอบกับยำมะม่วงสด” เด่นที่น้ำยำปรุงให้เปรี้ยวนำหวานตาม ใส่มะม่วงสดรสเปรี้ยว ตะไคร้ซอย ใบสะระแหน่ ใครชอบราดทั้งหมดคลุกเคล้ากันก็ตามสะดวก หรือจะกินเป็นคำๆ ก็ได้

ปลากะพงกรอบกับยำมะม่วงสด

          หรืออย่างของกินเล่นขายดี “อาหารว่างรวม” ให้ลูกค้านั่งชิลใช้ส้อมจิ้มสนุกมือ มีทั้งไก่สะเต๊ะ, ทอดมันทะเล, กุ้งพันอ้อย และเปาะเปี๊ยะ อร่อยลืมวางช้อนกันเลย อีกจานที่เหมาะเป็นกับแกล้ม “หมึกทอดกับทาร์ทาร์ซอส” ใช้หมึกตัวใหญ่หั่นเป็นแว่น ปรุงรสแล้วทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟพร้อมผักสลัดและทาร์ทาร์ซอส  เช่นเดียวกับ “ซีซาร์สลัด” จานง่ายๆ แต่ทำให้อร่อยถูกปากไม่ง่าย ร้านนี้เคล็ดไม่ลับอยู่ที่ใส่ปลาแองโชวีรสชาติเค็มๆ บวกกับชีสอย่างดี คลุกเคล้าผักสดกรอบ ถูกใจสาวๆ  

อาหารว่างรวม

หมึกทอดกับทาร์ทาร์ซอส

 

ซีซาร์สลัด

          มาที่จานเด่นดวงขึ้นชื่อประจำร้าน ใครมาต้องสั่ง อย่างตระกูลข้าวผัดทั้งหลายอยากให้ลอง “ข้าวผัดปลาซาบะ” หรือ “ข้าวผัดปู” หน้าตาออกแห้งๆ ไม่มัน นั่นเพราะผัดจากกระทะเหล็ก ไฟแรง สำคัญปรุงรสด้วยเกลือไม่ใช้ซีอิ๊วหรือน้ำปลาซึ่งทำให้ข้าวแฉะ ข้อดีของเกลือจะดูดความชื้นทำให้ข้าวแห้งแล้วยังหอมน่ากินกว่าด้วย มาที่ “สปาเกตตีผัดขี้เมากุ้ง” กลิ่นพริกแดงและใบโหระพาโชยมาแต่ไกล แถมหน้าตาน่ากิน เส้นนุ่มมาก เข้ากับเครื่องกำลังดี ผัดออกมาให้รสชาติไม่จัดมากหรือเผ็ดเกินไป เพราะลูกค้าต่างชาติเยอะ แต่รสชาติถือว่าอร่อยลงตัว ขายดีทั้งคนไทยและต่างชาตินิยมสั่งแล้วมาแชร์กัน

ข้าวผัดปลาซาบะ

สปาเกตตีผัดขี้เมากุ้ง

          และแน่นอนว่านั่งทอดอารมณ์ไปกับบรรยากาศโอบล้อมไปด้วยไร่องุ่นและขุนเขาแบบนี้ ถ้าไม่ได้ดื่มด่ำของหวานอีกทั้งเครื่องดื่มก็ดูจะไม่สมบูรณ์ เดอะศาลามีเครื่องดื่มเตรียมไว้ให้บริการแบบจัดเต็มโดยเฉพาะจำพวกไวน์จากองุ่นในไร่ หรือพวงองุ่นสดๆ เด็ดจากต้นตอนนั้นกินตอนนั้น รวมถึงความหวานเย็นชื่นใจกินแล้วเรียกความสดชื่นได้ฉับพลัน อยากให้ลอง “เกรปชีสเค้ก” ชีสเค้กราดด้วยซอสองุ่นเคียงมากับไอศกรีมวานิลลา บีบวิปปิ้งครีมหน่อย ชื่นใจแท้ หร่ือจะเป็น “เกรปซอร์เบต” ไอศรีมซอร์เบตทำจากองุ่นแดงและน้ำเชื่อมเท่านั้น ไม่มีส่วนผสมของนมและไข่ขาว รสชาติไม่หวานมากถูกโฉลกกับสาวๆ ดูแลสุขภาพจริงๆ  

เกรปชีสเค้ก

เกรปซอร์เบต

          วันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันไหนๆ ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวหัวหิน ก็ลองแวะไปชมไร่องุ่นพร้อมลิ้มรสชาติอาหารแนวฟิวชั่นที่เดอะ ศาลา เขาเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-18.30 น. ส่วนช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ฤดูเก็บเกี่ยวองุ่น อากาศเย็นสบายกำลังดี นัักท่องเที่ยวเข้าไปเยอะก็ขยายเวลาเปิดถึง 20.30 น. สอบถามเส้นทางหรือจองโต๊ะโทร.08-1701-0222